บีโอไอ ให้ส่งเสริมโครงการลงทุนจากนิวซีแลนด์ ย้ายฐานการผลิตเครื่องซักผ้าของ FISHER&PAYKEL ซึ่งเป็นสินค้าในตลาดระดับบน รวมทั้งผลิตชิ้นส่วนอีกหลายรายการมาลงทุนในไทย มูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท พร้อมเริ่มผลิตได้กลางปี 2551 คาดสร้างรายได้จากการใช้ชิ้นส่วนในประเทศปีละ 664 ล้านบาท

นางหิรัญญา สุจินัย รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่าคณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการได้เห็นชอบให้การส่งเสริมกิจการ ผลิตเครื่องซักผ้า เครื่องเป่าผม มอเตอร์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนโลหะหรือพลาสติก สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าของ MR.ROGER COOPER  ในนามของบริษัท FISHER&PAYKEY ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศนิวซีแลนด์ มูลค่าเงินทุนทั้งสิ้น1,634 ล้านบาท ตั้งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี

"บริษัท FISHER&PAYKEY ได้ศึกษาถึงโอกาสและลู่ทางการลงทุนในหลายๆ ประเทศในภูมิภาคนี้ และได้ตัดสินใจเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย เนื่องจากมองเห็นถึงศักยภาพการลงทุนของไทย รวมถึงต้นทุนการผลิตในไทย ที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ เช่น ค่าจ้างแรงงานที่ไม่สูงนัก และความสะดวกในการขนส่ง นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งอาจมาจากการที่ไทยและนิวซีแลนด์ได้มีความตกลงการค้าเสรีระหว่างกัน เมื่อปี พ.ศ.2548 ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนนิวซีแลนด์มีความมั่นใจที่จะลงทุนไทยมากขึ้น" นางหิรัญญากล่าว

สำหรับโครงการนี้ คาดว่าจะมีการใช้วัตถุดิบในประเทศ ประมาณ 40 รายการ หรือมูลค่าปีละ 664 ล้านบาท เช่น บรรจุภัณฑ์ เม็ดพลาสติก สายไฟ แผ่นโลหะ และบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น และนอกจากจากผลิตผลิตภัณฑ์ของบริษัทเองแล้ว บริษัทฯ ยังจะจำหน่ายชิ้นส่วนต่าง ๆ ไปให้กับผู้ประกอบการรายอื่นด้วย

ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าของ FISHER&PAYKEY เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความานิยมในตลาดระดับบน โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกานิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย เนื่องจากมีการออกแบบที่สวยงาน ทนทาน และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และมีผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลาย เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องล้างจาน ตู้เย็น ฯลฯ โดยมีฐานการผลิตในประเทศออสเตรเลีย อิตาลี อเมริกา และนิวซีแลนด์ และในปี 2006 มียอดขายประมาณ 28,000 ล้านบาท