เนื้อหาวันที่ : 2015-09-15 10:56:05 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 813 views

กฟผ.เพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า เสริมความมั่นคงและลดการปล่อยก๊าซด้วยเทคโนโลยีของจีอี

• การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยดำเนินโครงการหลายโครงการเพื่อเสริมความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและปรับปรุงคุณภาพอากาศ • การสั่งซื้อรวมถึงการอัพเกรด Advanced Gas Path เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครื่องกังหันผลิตไฟฟ้า • โซลูชั่นDLN2.6+ และ OpFlex* AutoTune ของจีอี ช่วยควบคุมระดับการปล่อยก๊าซและเพิ่มศักยภาพการผลิตไฟฟ้า รวมถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อม • โครงการใช้ Advanced Gas Path เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องกังหันก๊าซรุ่น 9F ในครั้งนี้เป็นโครงการแรกในภูมิภาคเอเชีย

จีอี ประกาศความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งเป็นองค์กรด้านสาธารณูปโภคของรัฐและเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ในการอัพเกรดเครื่องกังหันก๊าซรุ่น 9F ของจีอีที่ติดตั้งอยู่ที่โรงไฟฟ้าสองแห่งของ กฟผ. การอัพเกรดครั้งนี้จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตให้กับโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่ง ช่วยให้โรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งมีศักยภาพในการใช้เชื้อเพลิงที่หลากหลายคุณภาพ ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดการปล่อยก๊าซได้อย่างมีนัยสำคัญเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศของกรุงเทพฯ และพื้นที่โดยรอบ

นายชรินทร์ กาญจนรัตน์ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “เราทำงานร่วมกับจีอี เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเดินเครื่องและประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าของเราที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือและตอนใต้ของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ โดยสามารถใช้ก๊าซจากหลากหลายคุณภาพ (WOBBE INDEX) พร้อมกับการปรับปรุงคุณภาพอากาศและลดการใช้เชื้อเพลิง” นายชรินทร์กล่าวเสริมว่า “ประสิทธิภาพด้านพลังงานและการปกป้องสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ที่จะสนับสนุนนโยบายการเติบโตของประเทศไทย และเราได้นำมาตรการชี้วัดที่รัดกุมมาใช้ เพื่อลดและควบคุมผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งที่มีผลให้เห็นแล้ว คือปัจจุบันโรงไฟฟ้าของเราปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ในระดับ 9ppm ซึ่งช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดขึ้นให้กับผู้อยู่อาศัยในประเทศเรา”

การอัพเกรดเครื่องกังหันก๊าซโดยการใช้อุปกรณ์การเผาไหม้แบบ Dry Low NOx 2.6+ (DLN 2.6+) และซอฟต์แวร์ OpFlex* AutoTune ของจีอีช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับเครื่องกังหันก๊าซที่ติดตั้งใช้งานอยู่ในปัจจุบันให้สามารถเดินเครื่องได้อย่างมั่นคง โดยสามารถใช้ก๊าซจากหลากหลายคุณภาพไม่ว่าจะเป็นก๊าซจากภาคตะวันตกและภาคตะวันออกของประเทศไทย ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ช่วยให้โรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งของ กฟผ. มีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น และเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ เพราะสามารถใช้ก๊าซจากแหล่งใดก็ได้ รวมถึงการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่นำเข้ามา

สำหรับโรงไฟฟ้าพระนครเหนือชุดที่ 1 ของ กฟผ. นั้น จะมีการติดตั้งใช้งาน Advanced Gas Path (AGP) ของจีอีในปี 2559 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโรงไฟฟ้า เทคโนโลยี AGP จะช่วยให้ กฟผ. เพิ่มกำลังการผลิต ลดค่าใช้จ่ายในการใช้เชื้อเพลิง เพิ่มศักยภาพการเดินเครื่องของโรงไฟฟ้าโดยมีการปรับปรุง turndown rate และเพิ่มความพร้อมใช้งานให้กับเครื่องกังหันผลิตไฟฟ้าให้มีระยะเวลาการเดินเครื่องยาวที่สุดในอุตสาหกรรมนี้  ทั้งนี้หากมองในภาพรวมมาตรการชี้วัดเหล่านี้ช่วยเพิ่มทั้งความมั่นคงในการจ่ายกระแสไฟฟ้าและช่วยลดค่าไฟฟ้าลงอีกด้วย

นายราเมช ซิงการาม ประธานประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก หน่วยธุรกิจการผลิตกระแสไฟฟ้า จีอี เพาเวอร์แอนด์วอเตอร์ กล่าวว่า "หลังจากที่ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมงานของ กฟผ. ในการเพิ่มความคุ้มค่าจากการลงทุน และการคัดเลือกวิธีการที่เหมาะสม จีอีมีความยินดีที่ได้อัพเกรดเครื่องกังหันก๊าซของ กฟผ. ด้วยโซลูชั่นที่ใช้ทั้งปฏิมากรรมทางด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์รวมถึงการใช้การประมวลข้อมูล ซึ่งทั้งสามเทคโนโลยีนี้จะมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของโรงไฟฟ้าของ กฟผ. มีมาตรฐานระดับโลกทั้งในเรื่องของศักยภาพการเดินเครื่องเพื่อความมั่นคง การปกป้องสิ่งแวดล้อม และการเดินเครื่องที่คุ้มค่า" พร้อมกล่าวเสริมว่า "การทำงานที่ผสานรวมเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้ โรงไฟฟ้าของ กฟผ. มีศักยภาพมากขึ้นและเพิ่มความสามารถในการตอบสนองต่อสถานการณ์การจ่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ยังคงลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้กับคนไทยได้อย่างต่อเนื่อง โครงการนี้ย้ำให้เห็นถึงประโยชน์ด้านสาธารณูปโภค และอุตสาหกรรมอื่นๆ ทั่วโลกก็จำเป็นต้องปฏิรูปเครื่องผลิตไฟฟ้าของตนเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับโรงไฟฟ้า และเพื่อผลตอบแทนทางธุรกิจ"

การติดตั้งและอัพเกรดโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของพันธสัญญาที่จะใช้งานเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การอัพเกรดในครั้งนี้ส่งผลให้ กฟผ. สามารถปรับปรุงคุณภาพอากาศของกรุงเทพฯ ด้วยการลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ลงจากระดับ 35ppm เป็น 9ppm

ระบบการเผาไหม้แบบ AGP, DLN 2.6+ และโซลูชั่น AutoTune อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์  Power FlexEfficiency* ของจีอี ซึ่งเป็นชุดอุปกรณ์และโซลูชั่นที่ผสานรวมซอฟต์แวร์เพื่อให้ผู้ผลิตไฟฟ้าที่ติดตั้งเครื่องกังหันก๊าซรุ่น F-class ของจีอีให้สามารถใช้เครื่องกังหันก๊าซเหล่านั้นให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด และเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและประโยชน์ในระยะยาว นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการใช้เชื้อเพลิงที่หลากหลาย รวมถึงระบบเผาไหม้แบบ DLN2.6+ ของจีอีช่วยลดการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ให้อยู่ในระดับที่ดีกว่าที่ได้รับอนุญาตและตอบสนองต่อการกำกับดูแลและกฎระเบียบทางสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด

ชุดโซลูชั่นซอฟต์แวร์ OpFlex* AutoTune เป็นโซลูชั่นในกลุ่ม Industrial Internet ของจีอี มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มอายุการใช้งานให้กับเครื่องกังหันก๊าซที่ติดตั้งใช้งานอยู่แล้วและโรงไฟฟ้าโดยไม่ต้องหยุดการซ่อมบำรุงบ่อยๆ  ช่วยให้ผู้ผลิตไฟฟ้าลดค่าใช้จ่ายและคงไว้ซึ่งการปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎระเบียบต่างๆ