เนื้อหาวันที่ : 2014-07-10 11:25:26 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1886 views

แลมป์ตั้น เปิดเกมรุกตลาด B2B ดันไทยศูนย์กลางแสงสว่างอาเซียน

แลมป์ตั้น เปิดเกมรุกตลาด B2B ดันไทยศูนย์กลางแสงสว่างอาเซียน ในงาน PEA presents EcoLightTech Asia 2014

แลมป์ตั้น ผู้นำนวัตกรรมด้านหลอดไฟและอุปกรณ์เกี่ยวกับแสงสว่าง สบช่องโอกาสทองตลาด B2B ในงาน PEA presents EcoLightTech Asia 2014 เดินหน้าตลาดแสงสว่างไทย เผยกลยุทธ์ดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและจัดจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ตอบรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 นี้

ดร.กฤษฎา ไชยสงวนมิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลมป์ตั้น ไลท์ติ้ง (2001) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดรวมหลอดไฟและโคมไฟในประเทศไทย มีมูลค่าสูงถึง 20,000 ล้านบาท โดยเซกเมนท์หลอดไฟและโคมไฟแอลอีดี (LED) เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด โดยปีที่ผ่านมากลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวขยายตัวขึ้นกว่า 30% และคาดว่าในอนาคตสัดส่วนหลอดไฟแอลอีดีจะมีส่วนแบ่งตลาดถึง 50% เมื่อเทียบกับหลอดไฟประเภทอื่น และด้วยศักยภาพการผลิต รวมถึงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้แลมป์ตั้นมีศักยภาพความพร้อมที่จะเป็นผู้นำตลาดในเซกเมนท์นี้

"แลมป์ตั้น เป็นแบรนด์หลอดไฟของคนไทยที่อยู่ในตลาดมากว่า 30 ปี ปัจจุบันส่งออกไปยัง 56 ประเทศทั่วโลก ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียน อเมริกา และสหภาพยุโรป โดยแลมป์ตั้นเปิดตลาดหลอดแอลอีดีเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา มียอดขายเติบโตถึง 150% ทุกปี ด้วยนโยบายสำคัญในการรักษาคุณภาพสินค้าควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ (Value Added) ผ่านนวัตกรรมดีไซน์ที่โดดเด่นและแตกต่าง ในราคาที่ผู้บริโภคทุกกลุ่มเข้าถึงได้”

ดร.กฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2558 ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC แลมป์ตั้นได้เตรียมความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาดสำหรับคู่ค้าธุรกิจ (B2B) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 20% และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ แลมป์ตั้น ได้ตัดสินใจเข้าร่วมงาน PEA presents EcoLightTech Asia 2014 งานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านแสงสว่างประหยัดพลังงานเพื่อผู้ประกอบการ เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ได้เข้าร่วมงานในครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา เพราะเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการจัดงานที่จะพัฒนาประเทศไทยเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมด้านแสงสว่างเพื่อผู้ประกอบการในภูมิภาคอาเซียน สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ของบริษัท ตั้งเป้าใช้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์แสงสว่างไปสู่ภูมิภาคอาเซียนในประชาเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะมาถึง โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ

ภายในงานครั้งนี้ แลมป์ตั้น จัดเตรียมสินค้าพร้อมส่วนลดพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ B2B หรือกลุ่มงานโครงการ อาทิ LED T8, LED Setronic, LED Panel, LED High Bay และ ไฟถนน เป็นต้น รวมทั้งนำสินค้านวัตกรรมใหม่และโดดเด่นด้านการออกแบบมาจัดแสดงด้วย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการใช้ตกแต่งพื้นที่สำคัญต่างๆ อาทิ LED MR16 220V ที่สามารถปรับเพิ่มลดแสงสว่างได้, LED Downlight, LED เส้น, LED Bulb, LED Vintage, LED Motion Sensor และ LED Light Sensor เป็นต้น โดยหลอดไฟ LED ของแลมป์ตั้นทั้งหมด ได้นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับการออกแบบรูปลักษณ์ที่สวยงาม อายุการใช้งานยาวนานถึง 30,000 ชั่วโมงหรือคิดเป็นกว่า 10 ปี ประหยัดพลังงานได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับหลอดไฟแบบคอมแพ็กต์ฟลูออเรสเซนต์ และคุณสมบัติพิเศษด้านการถนอมสายตา ไม่มีแสง UV ทำลายผิวหนัง เป็นมิตรกับผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม

นายปณิธาน บำราศอรินทร์พ่าย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานจัดการประชุม บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์แอนด์ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด และรักษาการผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด(นีโอ) กล่าวว่า “ในปีนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ พีอีเอ เป็นเจ้าภาพหลักการจัดงานแสดงนวัตกรรมด้านแสงสว่างประหยัดพลังงานเพื่อผู้ประกอบการ ครั้งที่ 2 หรือ PEA presents EcoLightTech Asia 2014 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดย พีอีเอ ได้ให้ความสำคัญต่อการจัดงานในครั้งนี้ เนื่องจากจะเป็นส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม (B2B) อย่างแท้จริง เพราะเป็นการนำผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชั้นนำจากทั่วโลกกว่า 100 ราย ทั้งในส่วนที่เป็นพันธมิตรกับ พีอีเอ และที่ได้ไปเปิดตลาดขึ้นใหม่ ได้เข้ามาพบและเจรจากับผู้ประกอบการที่สนใจ โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายเดินทางไปยังต่างประเทศ รวมทั้งมีรายการสินค้าและบริการให้เลือกมากกว่า 4,000 รายการ ครอบคลุมหลอดไฟแอลอีดีชิ้นส่วนอุปกรณ์หลอดไฟแอลอีดีระบบควบคุมกระแสไฟและแสงสว่าง รวมถึงการบริการและวางแผน”

นอกจากนี้ พีอีเอ ยังได้นำโครงการต่างๆ มาช่วยเหลือผู้ประกอบการอีกทางหนึ่งด้วย ไม่ว่าจะเป็นโครงการอุตสาหกรรมประหยัดไฟ 1 save 1 baht และโครงการ SMEs ประหยัดไฟ 1 save 2 baht เป็นต้น ควบคู่ไปกับการสนับสนุนด้านการเงินให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจเปลี่ยนหลอดประหยัดพลังงานจากธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นสถาบันการเงินเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้บริการสินเชื่อพิเศษชื่อ “โปรแกรมสินเชื่อประหยัดไฟกสิกรไทย” หรือ “K Top-Up Loan for Energy Saving (Lighting Solutions)” ซึ่งเป็นสินเชื่อระยะยาวให้วงเงินสูงสุด 100% สนับสนุนผู้ประกอบการใช้เป็นเงินทุนในการเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าเป็นหลอดประหยัดพลังงานโดยโครงการลงทุนนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้ประกอบการและไม่กระทบต่อกระแสเงินสดของกิจการเพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าในการผลิตและบริหารแก่ธุรกิจหรือโรงงานได้มากถึง 80% และสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปีเฉพาะผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน PEA presents EcoLightTech Asia 2014 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

การจัดงาน PEA presents EcoLightTech Asia 2014 ครั้งที่ 2 คาดว่า จะสร้างมูลค่าการซื้อขายทางเศรษฐกิจได้มากขึ้นกว่าเดิมเติบโตสู่ระดับ 5 พันล้านบาท ด้วยแผนการตลาดต่างประเทศ ใน 3 ประเทศสำคัญ คืออินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม รวมทั้งจับมือพันธมิตรธุรกิจในต่างประเทศ อาทิ ประเทศจีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดียไต้หวัน และสิงคโปร์ ทำให้มั่นใจได้ว่า ตลอดการจัดงาน จะมีผู้สนใจเข้าชมงานกว่า 5,000-8,000 รายจากทั่วโลก ผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.ecolight-tech.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 02 203 4261-2 ทุกวันจันทร์-ศุกร์