เนื้อหาวันที่ : 2014-05-29 11:47:21 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1539 views

ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ สร้างนิยามใหม่ของรถแฮทช์แบ็ก 5 ประตูในไทย

ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ ตอบรับไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิตอล สร้างนิยามใหม่ของรถแฮทช์แบ็ก 5 ประตูในไทย

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัวรถยนต์ ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ ที่จะมาสร้างนิยามใหม่ของรถยนต์แฮทช์แบ็ก 5 ประตู เน้นการสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่ม GEN ME ที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เป็นคนรุ่นใหม่ยุคดิจิตอลที่เน้นการสื่อสารออนไลน์ ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ มีการพัฒนาและออกแบบใหม่สไตล์สปอร์ตตั้งแต่กระจังหน้าจรดไฟท้ายแบบแอลอีดีภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย และรองรับการใช้งานที่หลากหลายด้วยเบาะนั่งปรับพับได้แบบอัลตร้า ซีท อันเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของฮอนด้า แจ๊ซ เปี่ยมสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร 117 แรงม้า ผสานเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยีเอิร์ธดรีม พร้อมระบบช่วยขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน Eco Assist และรองรับพลังงานทางเลือก E85 ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ ยังเหนือไปอีกขั้นกับมัลติฟังก์ชั่นที่ล้ำสมัย

 


ครบครันด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและมาตรฐานความปลอดภัยครบครัน ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ เอาใจคน GEN ME กับ 6 รุ่น ราคาตั้งแต่ 555,000 – 754,000 บาท ทั้งยังมี 2 สีใหม่ให้เลือก ได้แก่ สีเหลืองแอทแทรค (มุก) ใหม่  และน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) ตั้งเป้าการจำหน่าย 20,000 คัน ภายในหนึ่งปี

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า ได้ริเริ่มนำรถรุ่น ฮอนด้า แจ๊ซ ซึ่งเป็นรถยนต์แฮทช์แบ็ก 5 ประตูเข้ามาในประเทศไทย
เมื่อปี 2546 โดยฮอนด้า แจ๊ซ ได้สร้างกระแสความนิยม และพลิกโฉมความต้องการใช้รถยนต์ของตลาดในประเทศด้วยดีไซน์แปลกใหม่ การขับขี่คล่องตัว มากด้วยประโยชน์ใช้สอย จวบจนปัจจุบัน ฮอนด้า แจ๊ซ ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องทั้ง 2 เจเนอเรชั่น ด้วยยอดขายสะสมในประเทศไทยกว่า 205,000 คัน และเป็นรถที่ครองใจ
ลูกค้าทั่วโลกด้วยยอดขายสะสมรวม 5.2 ล้านคัน สำหรับฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 3 นี้ ฮอนด้าได้วิจัย
และพัฒนาเพื่อให้มีความโดดเด่นทันสมัยเพิ่มมากขึ้นในทุกมิติ ทั้งนี้เพื่อให้ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ สามารถเติมเต็ม
ทุกมิติ ไลฟ์สไตล์ ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในยุคดิจิตอลได้เป็นอย่างดี สมกับเป็นนิยามใหม่ของรถยนต์แฮทช์แบ็กอย่างแท้จริง"

ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ พร้อมสร้างนิยามใหม่ของรถแฮทช์แบ็กในไทย ด้วยความโดดเด่น 4 ด้าน ได้แก่
 1. ตอบรับทุกการใช้งานแบบมัลติฟังก์ชั่น (Multi-Function) ด้วยระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส
ขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย รองรับการเชื่อมต่อภาพ
และเสียงผ่าน HDMI รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri Eyes Free Mode (สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป) รองรับการเชื่อมต่อ HondaLink Application (เฉพาะ Smart Phone บางรุ่น) จอแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์
แบบอัจฉริยะ สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นที่ให้การควบคุมง่ายเพียงปลายนิ้ว
ด้วยสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย

2. ขับสนุกเร้าใจด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ล้ำเกินคลาส (Multi-Drive) เครื่องยนต์ i-VTEC 4 สูบ
16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร ผสานระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 146 นิวตัน-เมตรที่ 4,700 รอบต่อนาที ตอบสนองทุกการขับขี่ที่สนุกยิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุม
การเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด สะดวกสบายกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังมี Eco Coaching ระบบแสดงผลการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน รวมทั้งปุ่ม Econ Mode เป็นระบบที่ช่วย
ลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง โดยจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งปรับการทำงานของระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสมกับอุณหภูมิภายนอกรถ เพื่อช่วยควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถรองรับพลังงานทางเลือก E85

3. ล้ำหน้าด้วยมาตรฐานความปลอดภัย (Multi-Safety) ด้วยโครงสร้างตัวถังแบบ G-Force Control
(G-CON) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบควบคุม
การทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) ซึ่งมีอยู่ในฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ทุกรุ่น นอกจากนี้ ยังเพิ่ม
ความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยกล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ และเทคโนโลยีความปลอดภัยของรถระดับพรีเมียม อาทิ ระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ (i-Side Airbag) พร้อมม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)

4. ตอบรับทุกการใช้งานที่หลากหลาย (Multi-Utility) ด้วยเบาะนั่งอัลตร้า ซีทที่ปรับเปลี่ยนได้ถึง 4 โหมด ได้แก่ Utility Mode, Long Mode, Tall Mode และเพิ่มโหมดใหม่ล่าสุด Refresh Mode ที่สามารถ
พับเบาะด้านหน้าเชื่อมต่อเบาะด้านหลัง สร้างพื้นที่ผ่อนคลายสะดวกสบายสูงสุด ตอบสนองได้
ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมที่วางแก้วน้ำมากสุด 9 ตำแหน่ง ที่วางโทรศัพท์มือถือ และกล่องเก็บแท็บเล็ต

ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ มีให้เลือก 6 รุ่น ได้แก่ รุ่น S MT ราคา 555,000 บาท, S AT ราคา 594,000 บาท, V ราคา 654,000 บาท, V+ ราคา 694,000 บาท, SV ราคา 739,000 บาท และรุ่น SV+ ราคา 754,000 บาท โดยมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก) และสีขาว
ทาฟเฟต้า และ 2 สีใหม่ ได้แก่ สีเหลืองแอทแทรค (มุก) สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) (สำหรับสีมุก
เพิ่ม 6,000 บาท) ส่วนภายในห้องโดยสารทุกรุ่นเป็นสีดำ รุ่น S, V และ V+ เป็นเบาะผ้าสีดำ และรุ่น SV และ SV+ เป็นเบาะผ้าสีดำแบบสปอร์ต

ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ เน้นการสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่ม GEN ME ซึ่งสนุกกับชีวิตที่เป็นได้มากกว่าหนึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพราะสะท้อนความเป็นฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ ที่สามารถตอบสนองได้ทุกไลฟ์สไตล์
โดยทางฮอนด้าได้เริ่มสร้างกระแสแคมเปญในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้ GEN ME ได้ลองนิยามความเป็น
ตัวของตัวเอง หรือ #NEWDEFINITIONOFME ของแต่ละคน ผ่าน Instagram หรือ facebook โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก และตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะมีการเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณา #NEWDEFINITIONOFHATCHBACK ซึ่งสื่อสารภายใต้แนวคิด Life is never too much เพื่อสะท้อนความเป็นรถยนต์แฮทซ์แบ็กที่ตอบสนอง
ความต้องการในการใช้งานที่หลากหลายได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมพิเศษ #MULTIFUNLIFE with All-new Honda Jazz เพื่อเชิญชวนประชาชนทั่วไปสร้างสรรค์คลิปวีดีโอภายใต้คอนเซ็ปต์ New Definition of Me ความยาวไม่เกิน 1 นาที โดยส่งคลิปวีดีโอเข้าร่วมประกวดได้ที่ www.honda.co.th/jazz ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มิถุนายน ศกนี้ โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับรางวัลรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ซ รุ่น SV มูลค่า 739,000 บาท จำนวน 1 คัน และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ติดตามความเคลื่อนไหว และรายละเอียดของกิจกรรมได้ที่ www.honda.co.th/jazz
ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศหรือ www.honda.co.th/jazz และสำหรับท่านสื่อมวลชนสามารถติดตามความเคลื่อนไหวหรือดาวน์โหลดข้อมูลข่าวสารของฮอนด้าเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/media