ไปรษณีย์ไทยลั่นกลองศึก พร้อมเปิดตัวบริการ Logispost โฉมใหม่เริ่ม 1 ก.ค.เป็นต้นไป ด้วยระบบ Track & Trace และมาตรฐานอัตราค่าบริการคิดตามระยะทางและน้ำหนัก ส่งสูงสุดได้ถึง 200 กิโลกรัม แถมอัตราพิเศษสำหรับสินค้าสำเร็จรูป ทีวี ตู้เย็น แอร์ มอเตอร์ไซค์ กำหนดราคาตายตัวตามประเภทสิ่งของและปลายทาง สะดวกทั้งส่งและรับทั่วไทย

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) แถลงต่อสื่อมวลชนในวันนี้ (28 มิ.ย.) ว่า หลังจากทดลองให้บริการ Logispost ในบางพื้นที่มาเป็นเวลากว่า 2 ปี  ขณะนี้พร้อมแล้วที่จะขยายบริการ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ 1,200 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ใช้บริการที่ต้องการฝากส่งสิ่งของที่มีขนาดและน้ำหนักเกินพิกัดน้ำหนักสูงสุดของบริการพัสดุไปรษณีย์ในประเทศซึ่งรับฝากได้เพียง 20 กก. โดยจะเริ่มให้บริการตั้ง 1 ก.ค.ศกนี้เป็นต้นไป

"การเปิดตัวโฉมใหม่ Logispost ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดขนส่งเชิงรุก ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการทั้งภาคธุรกิจ และประชาชนที่ต้องการส่งสิ่งของและสินค้าขนาดใหญ่ในราคาที่คุ้มค่า มีมาตรฐานคุณภาพที่วางใจได้ โดยเฉพาะสามารถติดตามและตรวจสอบสถานะการส่งผ่านระบบ Track&Trace  พร้อมรับประกันความเสียหาย และสูญหาย"

นายวุฒิพงษ์ โมฬีชาติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานระบบปฏิบัติการ กล่าวเสริมว่า ได้จัดตั้งศูนย์บริการ Logispost ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อกำกับดูแลให้การจัดส่งเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดใหม่ โดยเพิ่มขีดความสามารถของระบบให้รองรับปริมาณงานได้เพิ่มมากขึ้นจากเดิมเดือนละ 7,000 ชิ้น เป็นมากกว่าหมื่นชิ้นขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นการส่งแบบรายชิ้น หรือครั้งละจำนวนมาก ๆ ซึ่งอย่างหลังนี้จะมีความยืดหยุ่นในการกำหนดราคาเป็นพิเศษด้วย

อัตราค่าบริการ Logispost แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ  คิดตามพิกัดน้ำหนัก ตั้งแต่ 20 กก.จนถึง 200 กก. แบ่งตามโซนพื้นที่ปลายทาง 10 โซน ขึ้นอยู่กับว่าต้นทางเป็นโซนใด ราคาเริ่มต้นในโซนเดียวกันชิ้นละ 150 บาท และข้ามโซน 200 บาท ส่วนอีกลักษณะหนึ่งเป็นอัตราสำหรับสิ่งของหรือสินค้าสำเร็จรูป ส่วนใหญ่เป็นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า มีราคากำหนดแน่นอนตามประเภทของสิ่งของ เช่น โทรทัศน์  ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า เครื่องเล่นดีวีดี/วีซีดี โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ พัดลม เครื่องออกกำลังกาย รวมถึงรถจักรยานยนต์ เป็นต้น