เนื้อหาวันที่ : 2013-08-22 10:11:33 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1581 views

วอลโว่ กรุ๊ป ย้ำ ไทยพร้อมเป็นฐานการผลิตยูดี ทรัคส์ ขายทั่วโลก

วอลโว่ กรุ๊ป เดินหน้าแผนการตลาดยูดี ต้อนรับเควสเตอร์ย้ำ ไทยพร้อมเป็นฐานการผลิตยูดี ทรัคส์ ขายทั่วโลก

บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบและผู้จัดจำหน่ายรถวอลโว่ ทรัคส์ และรถยูดี ทรัคส์ แต่ผู้เดียวในประเทศไทย เดินหน้าแผนการตลาดยูดี ทรัคส์ เพื่อฟื้นตลาดรถยูดี ทรัคส์ในประเทศไทย โดยเริ่มจากกิจกรรม UD Activation ซึ่งเป็นกิจกรรมแนะนำและให้ความรู้เกี่ยวกับรถยูดี ทรัคส์ ให้กับพนักงานขับรถบรรทุกทั่วประเทศ

 มร. ฌาคส์ มิเชล ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าขณะนี้กิจกรรม UD Activation เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาและเสร็จสมบูรณ์เมื่อกลางเดือนสิงหาคม ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากพนักงานขับรถบรรทุกและเจ้าของรถบรรทุก เป็นอย่างดี

ภายใต้กิจกรรมดังกล่าว ทีมการตลาดยูดี ทรัคส์ จะจัดกิจกรรมให้ความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์และ แบรนด์ของยูดี ทรัคส์ แก่กลุ่มเป้าหมาย โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นที่สถานีบริการก๊าซ NGV ในจังหวัดหลักทั่วประเทศ 12 จังหวัดได้แก่นครราชสีมา ขอนแก่น สระบุรี บุรีรัมย์ นครสวรรค์ ตาก พิษณุโลก ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ระยอง อยุธยา และกรุงเทพมหานคร ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนอกจากจะได้รับข้อมูลแบรนด์ยูดี ทรัคส์ แล้ว ยังจะได้รับความสดชื่นจากการนวดผ่อนคลายพร้อมเครื่องดื่มขณะจอดพักรถ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังจะได้รับของชำร่วยพร้อมกับคูปองและเอกสารเพื่อนำไปมอบแก่เจ้าของรถเพื่อใช้เป็นส่วนลดและข้อเสนอพิเศษในการนำรถยูดี ทรัคส์หรือในอดีตนิสสัน ยูดี หรือนิสสัน ดีเซล เข้าใช้บริการหลังการขายที่ศูนย์บริการของวอลโว่ กรุ๊ป ที่ขณะนี้มีอยู่ 7 สาขาและกำลังเร่งขยายให้ครบ 17 สาขาภายในปีนี้

เราต้องการสร้างความสดใหม่ให้กับแบรนด์ยูดีทรัคส์และต้องการเน้นให้เห็นถึงคุณค่าหลักของเรา ซึ่งได้แก่ ‘ความไว้วางใจได้สูงสุด’ เราสัญญาว่าจะช่วยให้คุณไปได้ไกลกว่าเดิม เราต้องการที่จะใกล้ชิดกับลูกค้าของเรารวมถึงตัวผู้ขับขี่ให้มากขึ้น เพื่อทำความเข้าใจต่อความต้องการต่างๆ และหาแนวทางตอบสนองต่อความต้องการของพวกเขา ผลิตภัณฑ์ของเรามีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของความทนทานและความปลอดภัย – คุณสามารถไว้ใจเราได้ และถ้าคุณใช้ผลิตภัณฑ์ของเราด้วยความมั่นใจแล้ว คุณย่อมสามารถมั่นใจในแบรนด์ของเราได้เช่นกัน”

มร.มิเชล กล่าวเพิ่มว่าการกลับมาของยูดี ทรัคส์ นั้น มาพร้อมกับสโลแกนใหม่ที่ว่า” ไปด้วยกัน ไปได้ไกลกว่าเดิม” หรือ “Go for extra miles” “เราเอาใจใส่กับลูกค้าและผู้ขับขี่ ดังนั้น ถ้ายูดีสามารถไปได้ไกลกว่าเดิม เราก็ปราถนาจะให้ลูกค้าและผู้ขับขี่ไปได้ไกลกว่าเดิมด้วยเช่นกัน มันเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งกว่าเพียงแค่ความสัมพันธ์ทางธุรกิจเท่านั้น แต่นี่คือความเป็นหุ้นส่วนอย่างแท้จริงกับลูกค้าของเรา เราต้องการเข้าไปทำงานอย่างใกล้ชิดและตอบสนองความต้องการของพวกเขาให้ได้ เมื่อนั้นเราจึงจะสามารถช่วยเพิ่มผลกำไรให้กับลูกค้าได้ ในระยะยาวแล้ว ธุรกิจของลูกค้าจะเติบโตขึ้น ได้รับผลกำไรมากขึ้น และมียอดขายที่เพิ่มขึ้นด้วย”

ยูดี ทรัคส์ เข้าสู่ตลาดครั้งแรกในปี พ.ศ. 2498 และมีการนำเข้าผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2513 ผ่านบริษัท สยามนิสสัน จำกัดภายใต้ชื่อรถนิสสัน ดีเซล และต่อมาสิทธิ์การจัดจำหน่ายได้เปลี่ยนมาเป็นบริษัท นิสสัน ดีเซล ประเทศไทย จำกัด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530

จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดของนิสสัน ดีเซล เกิดขึ้นในปี พ.ศ 2550 เมื่อ วอลโว่ กรุ๊ป สวีเดน ได้เข้าซื้อกิจการของนิสสัน ดีเซล ที่ประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้สิทธิ์การผลิตและจัดจำหน่ายตกเป็นของ วอลโว่ กรุ๊ป สวีเดน นับจากนั้นเป็นต้นมา และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น ยูดี ทรัคส์

อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป จำกัด ได้เข้าดำเนินการจัดจำหน่ายยูดี ทรัคส์ อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2555 โดยในประเทศไทยมีรถนิสสัน ดีเซล หรือยูดี ทรัคส์ ในปัจจุบัน ให้บริการธุรกิจขนส่งอยู่ถึง 8,000 คัน โดยยูดี ทรัคส์ เคยมีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทยสูงสุดที่ 10.6% ในปี พ.ศ. 2551

มร.มิเชล กล่าวว่าขณะนี้ วอลโว่ กรุ๊ป มีความพร้อมที่จะให้บริการและจัดจำหน่ายรถยูดี ทรัคส์ โดยรุ่นเควสเตอร์ ซึ่งเป็นใหม่ล่าสุดที่ประกอบในในประเทศไทย จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการแก่สายตาสื่อมวลชนจากทั่วทุกมุมโลกที่จะเดินทางสู่ประเทศไทยเพื่อร่วมงานเปิดตัวครั้งนี้ ในวันที่ 26 สิงหาคมที่ เซ็นเตอร์ พ้อยท์ สตูดิโอ ซอยลาซาล

เมื่อครั้งที่ประธานวอลโว่ กรุ๊ป จากประเทศสวีเดนได้เดินทางเยี่ยมชมสายการประกอบยูดี ทรัคส์ ที่ถนนบางนา-ตราดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ประธานบริษัทฯ ได้แสดงความพอใจอย่างมากว่าประเทศไทยมีความพร้อมทึ่จะเป็นศูนย์กลางประกอบยูดี ทรัคส์ เพื่อจำหน่ายไปทั่วโลก โดยย้ำว่ายูดี ทรัคส์ ที่ประกอบในเมืองไทย จะประกอบเพื่อคนไทย เพื่อคนเอเชียและเพื่อคนทั่วโลก” มร. มิเชล กล่าว

วอลโว่ กรุ๊ป ได้มุ่งมั่นในการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นฐานการผลิตรถบรรทุกของวอลโว่ กรุ๊ป โดยได้ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 5 พันล้านบาทตั้งแต่ปีที่แล้ว และโครงการกำลังจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้ โดย 2 พันล้านบาทเป็นงบลงทุนสำหรับการขยายกำลังการผลิตรถบรรทุกในส่วนของวอลโว่ ทรัคส์ และยูดี ทรัคส์ ซึ่งขณะนี้สามารถขยายโรงงานได้เสร็จสมบูรณ์ ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 คันต่อปี