เนื้อหาวันที่ : 2013-07-30 15:47:30 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1366 views

กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 30M1 ชูผลตอบแทน 3.30%ต่อปี

บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 30M1 อายุ 2 ปี 6 เดือน ชูผลตอบแทน 3.30%ต่อปี

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี)เปิดเผยว่า “บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 30M1(KFFIX30M1) อายุประมาณ 2 ปี 6 เดือน มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร China Construction Bank (CCB) สัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร Union National Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China Asia Ltd. สัดส่วนการลงทุน 4% ตราสารหนี้ธนาคาร Kookmin Bank (เกาหลีใต้) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ธนาคาร Hana Bank (เกาหลีใต้) สัดส่วนการลงทุน 4% ตราสารหนี้ธนาคาร Korea Exchange Bank (เกาหลีใต้) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ธนาคาร Woori Bank (เกาหลีใต้) สัดส่วนการลงทุน 10% และหุ้นกู้ของบริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 22% ทั้งนี้ กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุก 6 เดือน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.30% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป”

บลจ.กรุงศรี มองว่า การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ดังกล่าวยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำและต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และต้องการล็อคผลตอบแทนโดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 2 ปีครึ่ง ทั้งนี้ คาดว่ากองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 30M1(KFFIX30M1) จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี” นายฉัตรพี กล่าว

บลจ.กรุงศรี มีมุมมองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะยังคงทรงตัวอยู่ในช่วงระหว่างร้อยละ 2.25 ถึง 3.25 ใน 3 ปีข้างหน้า (2556 – 2558) เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังไม่แข็งแกร่งมากนัก และภาวะความไม่แน่นอนของวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป การฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเศรษฐกิจสหรัฐรวมถึงการลดปริมาณการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบของธนาคารกลางสหรัฐ การดำเนินนโยบายอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบของธนาคารกลางญี่ปุ่น แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลง ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปี 2556 สู่ระดับ 6.05% จากเดิม 7% และมีแนวโน้มที่จะปรับลดลง ได้อีก อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์นี้ยังคงสูงกว่าที่ตลาดโดยรวมคาดไว้ที่ระดับ 4 - 5%” นายฉัตรพี กล่าว

นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 หรือติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา

ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนได้ที่เว็บไซต์บริษัทจัดการ www.krungsriasset.com เอกสารที่เกี่ยวกับกองทุนได้ที่บริษัทจัดการหรือสำนักงานของผู้สนับสนุนการขายก่อนตัดสินใจลงทุน