เนื้อหาวันที่ : 2006-05-18 12:02:19 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1503 views

ปตท. จับมือ บ.รุคส์โฮมส์ ติดตั้งอุปกรณ์และดัดแปลงใช้ NGV

ปตท.จับมือ บริษัท รุคส์โฮม จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงในการดำเนินโครงการการตั้งอุปกรณ์และดัดแปลงใช้ NGV ในเรือเฟอร์รี่ หนุนผู้ประกอบมาใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันมากขึ้น

ปตท.จับมือ บริษัท รุคส์โฮม จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงในการดำเนินโครงการการตั้งอุปกรณ์และดัดแปลงใช้ NGV ในเรือเฟอร์รี่ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการเดินเรือเฟอร์รี่ ทำการดัดแปลง/ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลมาใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมัน ในภาวะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลก

 
ปตท. จำกัด   (มหาชน)    นายจิตรพงษ์   กว้างสุขสถิตย์   รองกรรมการผู้จัดการใหญ่  กลุ่มธุรกิจสำรวจ ผลิต และก๊าซธรรมชาติ   บริษัท  ปตท. จำกัด   (มหาชน)  เป็นประธานใน  พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงในการดำเนินโครงการติดตั้งอุปกรณ์และดัดแปลงใช้ NGV ในเรือเฟอร์รี่   ระหว่าง   บริษัท  ปตท. จำกัด (มหาชน)  โดย  นายณัฐชาติ   จารุจินดา     ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์    กับ  บริษัท รุคส์โฮมส์ จำกัด  ผู้ประกอบการเดินเรือเฟอร์รี่ ที่ท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์  จังหวัดตราด   โดย  พลตำรวจตรี เจริญ   โชติดำรงค์   ประธานกรรมการ      ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเดินเรือเฟอร์รี่ ทำการดัดแปลง/ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลมาใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมัน  ในภาวะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลก
 
สำหรับสาระสำคัญในบันทึกความร่วมมือ มีดังนี้     บริษัท รุคส์โฮมส์ จำกัด  จะนำเรือเฟอร์รี่ จำนวน 1 ลำ มาทดลองดัดแปลงเป็นเครื่องยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงร่วมในระบบ Diesel Dual Fuel หรือ DDF เพื่อลดการใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง   และ  ปตท.  จะให้ความช่วยเหลือสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์ NGV ในเรือเฟอร์รี่ ดังกล่าว ให้แก่ บริษัท รุคส์โฮมส์  จำกัด    ตามค่าใช้จ่ายจริง   หรือวงเงินไม่เกิน  600,000  ( หกแสนบาทถ้วน )  รวมทั้งจัดหาก๊าซธรรมชาติ (NGV) เพื่อใช้ในการทดลองตั้งแต่เริ่มโครงการจนเสร็จสิ้นโครงการ  รวมระยะเวลาประมาณ   3 เดือน
 
นายณัฐชาติ  จารุจินดา    ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์  ปตท.   เปิดเผยว่า    หากความร่วมมือกันระหว่าง  ปตท. และ   บริษัท รุคส์โฮมส์ จำกัด  ในครั้งนี้    ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ จะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ประกอบการเดินเรือเฟอร์รี่อื่น ๆ สามารถนำเรือเฟอร์รี่ในสังกัดมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันดีเซลเพื่อลดต้นทุนในการดำเนินการ    เบื้องต้นจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ นำเรือเฟอร์รี่เข้าทำการดัดแปลง/ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้ก๊าซเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันดีเซลทั้งหมด ( Dedicated ) จำนวนทั้งหมด 3 ลำ  ภายในปี 2549   ซึ่งจะทำให้ประเทศลดการใช้น้ำมันดีเซลได้ปีละ  770,000 ลิตร   คิดเป็นเงินประมาณ   16 ล้านบาท     ทั้งนี้คาดว่าผู้ประกอบการเดินเรือเฟอร์รี่อื่น ๆ  จะทยอยนำเรือเฟอร์รี่ในสังกัดมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันดีเซลเพื่อลดต้นทุนในการดำเนินการ  ซึ่งจะทำให้ประเทศประหยัดเงินตราจากการนำเข้าเชื้อเพลิงได้เพิ่มมากขึ้น