เนื้อหาวันที่ : 2013-05-16 14:38:20 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1449 views

ช.ทวี ดอลลาเซียน อวดผลงานไตรมาส 1/2556 รายได้ 160.09 ล้านบาท

CHO ปิดงบ Q1/56 โชว์รายได้กว่า 160 ลบ. อัตรากำไรขั้นต้น 22.39% ส่งซิกตั้งแต่ Q2/56 เริ่มเห็นการขยายตัวโดดเด่น

บมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน หรือ CHO อวดผลงานไตรมาส 1/2556 รายได้จากการขายและบริการ 160.09 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 22.39% ซึ่งเป็นไปตามที่บริษัทตั้งเป้าไว้ “สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย” เผยรายได้จากการดำเนินธุรกิจขายและบริการพุ่งตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Made to Order) ให้กับภาคเอกชน และหน่วยงานราชการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ระบุภาพของ CHO ต่อจากนี้ยังสดใสต่อเนื่อง เหตุรับออเดอร์เพิ่มขึ้นหลังเซ็นสัญญารับงานผลิตรถให้ DHL จำนวน 90 คัน แถมได้รับ Certificate รับรองคุณภาพแต่เพียงผู้เดียวนอกทวีปยุโรปจากบริษัทรถยี่ห้อ MAN (ประเทศเยอรมนี) และเริ่มทยอยส่งมอบงานในมืออีกด้วย

นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด(มหาชน) หรือ CHO เปิดเผยถึง ผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2556 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 ของบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ อยู่ที่ 160.09 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 3.46 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 22.39% ซึ่งเป็นไปตามที่บริษัทตั้งเป้าไว้

ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2556 ถือว่าเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Made to Order) ที่บริษัทได้รับงานมา ขณะที่ ปัจจุบันบริษัทได้ตกลงเซ็นสัญญากับ DHL ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศไทย ให้บริษัทเป็นผู้ผลิตรถพ่วงตู้แห้ง จำนวน 90 คัน มูลค่า 108.9 ล้านบาท มีกำหนดส่งมอบ 60 คันแรก ภายในไตมาส 3/2556 นี้ ส่วนที่เหลือจะทยอยส่งมอบภายในไตรมาส 4/2556 และคาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดภายในปี ดังนั้นจึงสะท้อนให้เห็นแนวโน้มธุรกิจของ CHO ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะเติบโตได้อย่างโดดเด่นและมั่นคง”

นอกจากนี้ CHO ยังคงเดินหน้าประมูลงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 2556 จะได้รับงานเพิ่มขึ้น อีกทั้งการที่บริษัทได้รับใบ Certificate รับรองจากบริษัท MAN Truck & Bus AG ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตและจำหน่ายรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์รายใหญ่จากประเทศเยอรมนีได้แต่งตั้งให้บริษัทฯ เป็นตัวแทนดัดแปลงสภาพรถ ช่วงล่างและคัสซีตามความต้องการของลูกค้าแต่เพียงผู้เดียวนอกทวีปยุโรป ส่วนมูลค่างานในมือ (Backlog) ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มทยอยส่งมอบและเริ่มรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/2556 นี้เป็นต้นไป