เนื้อหาวันที่ : 2013-05-13 14:52:54 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1853 views

100 ปี ตราช้างที่สุดแห่งนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เพื่อที่สุดของคนไทย

เปิดแคมเปญ “100 ปี ตราช้างที่สุดแห่งนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ฉลองก้าวย่างครบ 100 ปี ไม่หยุดคิดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของคนไทย

ตราช้าง เปิดแคมเปญ “100 ปี ตราช้างที่สุดแห่งนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง” ฉลองก้าวย่างครบ 100 ปี ไม่หยุดคิดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของคนไทย อัดแน่นกิจกรรมการตลาดและซีเอสอาร์ต่อเนื่องตลอดปี ย้ำวัสดุก่อสร้างที่ดีที่สุดของไทย

ตราช้าง ผู้นำนวัตกรรมวัสดุก่อสร้าง เปิดตัวแคมเปญใหญ่แห่งปี “100 ปี ตราช้าง ที่สุดแห่งนวัตกรรม ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง” ฉลองครบรอบ 100 ปี ตอกย้ำแบรนด์ “ตราช้าง” วัสดุก่อสร้างที่ดีที่สุดของไทย ไม่หยุดคิด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของคนไทย ทุ่มงบกว่า 300ล้านบาท อัดแน่นกิจกรรมการตลาด ตลอดจนแนะนำภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “Invisible” ภายใต้คอนเซ็ปต์ไม่หยุดคิด ลงจอสร้างการรับรู้ทั่วประเทศ พร้อมสร้างสรรค์กิจกรรมซีเอสอาร์คืนกำไรสู่สังคมต่อเนื่องตลอดปี เพื่อตอบแทนทุกความเชื่อมั่นในแบรนด์

นายอนุวัตร เฉลิมไชยแบรนด์ไดเร็คเตอร์สำนักงานบริหารแบรนด์ บริษัท เอสซีจีซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างจำกัดกล่าวถึงกำเนิดแบรนด์ตราช้างและวิวัฒนาการของแบรนด์ 100 ปีที่ผ่านมาว่าจุดกำเนิดของแบรนด์ตราช้าง เริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์ปูนตราช้างซึ่งเป็นปูนซีเมนต์ยี่ห้อแรกของไทยเป็นที่วางใจของโครงการก่อสร้างระดับประเทศมากมายทั้งภาครัฐและเอกชน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2456 และเป็นสินค้าแรกของเอสซีจี สู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์

ตราช้างอีก 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่งได้แก่ หลังคา ฝ้าผนัง ไม้สังเคราะห์ ฉนวน วัสดุตกแต่งภูมิทัศน์ และท่อ โดยได้มีการรวมแบรนด์สินค้าที่เกี่ยวกับการก่อสร้างทั้งหมด ในปี 2553 ทำให้เกิดการประสานงานในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันจนกลายมาเป็น Integrated Solution ให้แก่ลูกค้าโดยตลอด 100 ปีที่ผ่านมา ตราช้างเป็นผู้นำในการคิดค้นนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างเป็นรายแรกของไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปในแต่ละยุคสมัยและจะยังคงเดินหน้าคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพราะตราช้างเชื่อว่าการ“ไม่หยุดคิด” เปลี่ยนทุกชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้นได้เสมอ

นายอนุวัตร กล่าวต่อไปว่า ดังนั้นเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีตราช้างจึงได้ทุ่มงบการตลาดกว่า 300ล้านบาทจัดแคมเปญ “100 ปีตราช้าง ที่สุดแห่งนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง” ซึ่งไม่เพียงอัดแน่นกิจกรรมการตลาดทั้งบีโลว์และอะเบิฟเดอะไลน์โดยเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่มีชื่อว่า “Invisible” ภายใต้คอนเซ็ปต์ไม่หยุดคิดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของคนไทยสร้างการรับรู้ทั่วประเทศ แต่ยังครอบคลุมถึงการสร้างสรรค์กิจกรรมซีเอสอาร์คืนกำไรสู่สังคมต่อเนื่องตลอดปี ได้แก่ “A Place We Stand 100 ปี ตราช้าง สร้างเพื่อให้” ซึ่งตราช้างตั้งเป้าสร้างสิ่งปลูกสร้างที่เป็นสาธารณประโยชน์มอบให้แก่คนไทยในสังคม 10 แห่ง ทั่วประเทศ และโปรเจคพิเศษ “Community Architects”

ที่ตราช้างจับมือ 3 สถาปนิกชั้นนำ สร้างอีก3 สิ่งปลูกสร้างที่เป็นสาธารณประโยชน์ “กิจกรรรมการตลาดในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดวัสดุก่อสร้าง โดยมุ่งสร้างการรับรู้ถึงบทบาทของ “ตราช้าง” แบรนด์วัสดุก่อสร้างรายแรกของไทย และเป็นวัสดุก่อสร้างที่ดีที่สุดชูจุดแข็งของผลิตภัณฑ์ อาทิ  ความหลากหลายและครบครันทุกระบบสามารถตอบทุกความต้องการด้านสิ่งปลูกสร้างและที่อยู่อาศัยคุณภาพความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโซลูชั่นและช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครบครันของตราช้าง”นายอนุวัตรกล่าว

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ตราช้างได้วางกลยุทธ์การตอบสนองความต้องการให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยเน้นเป็นรูปแบบ System & Solution เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายสูงสุด ซึ่งเป็นการรักษามาตรฐานของตราช้างในเรื่องความเป็น Trend Setter ด้านวัสดุก่อสร้างที่อยู่ในใจของผู้บริโภค โดยจะตอกย้ำบทบาทผู้นำในการสร้างนวัตกรรมวัสดุก่อสร้างใหม่ๆ สู่ตลาดอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคปัจจุบันซึ่งต้องการวัสดุก่อสร้างคุณภาพสูงมีโซลูชั่นที่ช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างง่ายดายไม่ยุ่งยากทดแทนปัญหาแรงงานที่อาจเกิดขึ้น โดยเน้นผลิตภัณฑ์ให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย

นายสยามรัฐ สุทธานุกูล Managing Director-Marketing Structural Businessบริษัท เอสซีจีซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัดกล่าวว่า ปูนตราช้างไม่เพียงมีความสำคัญในฐานะที่เป็นผลิตภัณฑ์แรกและผลิตภัณฑ์เดียวที่กล่าวได้ว่าเติบโตคู่กับเอสซีจีมาตั้งแต่ก่อตั้ง สร้างรากฐาน ความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ เรียกว่าแทบจะเป็นภาพเดียวกับแบรนด์องค์กรก็ว่าได้ แต่ด้วยการบริหารจัดการกำลังผลิตที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจปูนซีเมนต์มีผลประกอบการค่อนข้างดี โดยเฉพาะปูนซีเมนต์ตราช้าง ที่เติบโตต่อเนื่อง คงความเป็นที่ 1 มาตลอด 100 ปี

การครองใจผู้บริโภคของปูนตราช้างเกิดมานานนับรุ่นสู่รุ่นเพราะจุดแข็งทั้งด้านคุณภาพของปูนซึ่งมีคุณภาพดีที่สุด ตลอดจนการมีสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแต่ละ Segment โดยเราได้พัฒนาสูตรปูนซีเมนต์ร่วมกับ Business Partner เช่น ปูนตราช้างทนน้ำทะเล ปูนตราช้างสำหรับงานหล่อ เป็นต้น และสำหรับปีนี้เราอยู่ในระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมปูนซีเมนต์ที่เป็นสูตรพิเศษซึ่งคุณสมบัติจะดีขึ้นกว่าเดิมแต่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

นอกจากนี้เรายังมีบริการที่ถือว่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่สร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ด้วยการบริหารจัดการประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ จากทีมวิศวกร Customer Value Innovation Team ที่สำคัญเรามุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมก่อสร้าง เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยและมั่นคงสูงสุดล่าสุดในปีที่ผ่านมาเราได้เปิดแคมเปญโครงสร้างพื้นฐานแข็งแรง รุกสร้างการรับรู้ ให้ลูกค้าตระหนักถึงความสำคัญของโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบด้วย ปูนซีเมนต์ ท่อ และโครงหลังคา ทั้งหมดนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงวิสัยทัศน์ของตราช้างที่ดำเนินอย่างต่อเนื่องมา 100 ปี และตลอดไป เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของคนไทย” นายสยามรัฐ กล่าว

ด้าน นายสราวุฒิสำราญทรัพย์ Managing Director-MarketingHousing Business บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างจำกัด กล่าวว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์หลังคา ฝ้า ผนังและไม้สังเคราะห์ ของตราช้างครองความเป็นผู้นำในตลาดมาโดยตลอด เนื่องจากจุดแข็งที่ครองใจลูกค้า ทั้งความหลากหลายของสินค้า คุณภาพที่เชื่อถือได้ความแข็งแรงทนทาน ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของระบบหรือโซลูชั่นตลอดจนจุดแข็งด้านนวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ดังเช่นตัวอย่างของนวัตกรรมที่พัฒนาเป็นรายแรกของตลาด เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2481กำเนิดกระเบื้องหลังคาตราช้าง รุ่นลอนคู่ ซึ่งตราช้างเป็นรายแรกที่ผลิตกระเบื้องเพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ให้คนไทยได้มีบ้านที่แข็งแรง สวยงาม และอยู่สบาย เหมาะกับสภาพอากาศเมืองร้อน
พัฒนาจนมาถึงนวัตกรรมตัวล่าสุดกระเบื้องหลังคาเซรามิคตราช้าง Excellaรุ่นเซราฟิโน่ โซลาไทล์ ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าและประหยัดพลังงานได้ในเวลาเดียวกัน เป็นต้น นอกจากนั้นเรายังเป็นผู้ผลิตรายแรกที่ยกเลิก

การใช้แร่ใยหินในกระบวนการผลิตทุกผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันผลกระทบต่อร่างกายของลูกค้าที่เกิดจากแร่ใยหินรวมถึงยังได้มีการพัฒนาสินค้าทั้งฝ้า ผนังและพื้น ตราช้าง สมาร์ทบอร์ด ที่มีเทคโนโลยี “Firm&Flex”ทำให้สินค้ามีคุณสมบัติเหนือกว่าไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ดรายอื่นๆในตลาด และในปีนี้ยังได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ “Color Loc” ที่ใช้กับไม้สังเคราะห์ ตราช้างสมาร์ทวูดที่ทำสีสำเร็จรูปจากโรงงาน ล็อกโมเลกุลสี ให้ติดแน่นกับไม้สมาร์ทวูด ช่วยให้สีสวยทนนานกว่า

ทั้งนี้เพื่อขอบคุณที่คนไทยให้ความเชื่อมั่นในตราช้างเสมอมา เราได้เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นพิเศษที่เป็นลิมิเต็ดเอดิชั่น ฉลองครบรอบ 100 ปี ตราช้าง ที่สุดแห่งนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่งอาทิ กลุ่มหลังคา ได้แก่ กระเบื้องหลังคา สีพิเศษCentury ซึ่งใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีการเคลือบสีแบบพิเศษ มีให้เลือกทั้งรุ่นนิวสไตล์ ซีแพคโมเนีย และเคิฟลอน สำหรับกลุ่มฉนวน ได้แก่Stay Cool Century Limited Editionฉนวนกันความร้อนที่มีคุณสมบัติกันความร้อนได้ดีขึ้น พร้อมแพ็กเกจพิเศษ รวมถึงกลุ่มวัสดุตกแต่งภูมิทัศน์ ได้แก่กระเบื้องปูพื้น Stamp Pave รุ่น Florence สี Golden Centuryมีสีเหลือบทอง ทนทาน และทำความสะอาดได้ง่าย ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี”นายสราวุฒิ กล่าว

นายอนุวัตรกล่าวเพิ่มเติมว่าแผนการตลาดครั้งใหญ่เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีในครั้งนี้ ทำให้เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานธุรกิจเอสซีจีซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างในปี 2556 นี้จะมีอัตราการเติบโตได้ราว 11% จากปี 2555 ส่วนภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในปี2556คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดรวมจะเติบโตขึ้น 7% หรือคิดเป็นมูลค่า212,892ล้านบาท เนื่องด้วยปี2556 จะเป็นอีกหนึ่งปีทองของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยที่ได้รับแรงส่งต่อเนื่องจากปี2555 ที่ช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมนี้สามารถขับเคลื่อนไปได้ทั้งระบบโดยมีปัจจัยเสริมที่สำคัญจากการผลักดันโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐโดยเฉพาะระบบรถไฟฟ้าสายและสีต่างๆที่เป็นตัวกระตุ้นให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีความคึกคักส่งผลดีถึงผู้รับเหมาก่อสร้างที่มีงานไหลเข้าอย่างต่อเนื่องในส่วนของผู้ผลิตและผู้ค้าวัสดุก่อสร้างก็ได้รับอานิสงส์ต่อเนื่องทั้งตลาดด้วยเช่นกัน