เนื้อหาวันที่ : 2013-03-14 10:24:55 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1610 views

ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ เปิดแผนธุรกิจปี 2013 เน้นเจาะกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่

ลุยปั้นแบรนด์-ออกสินค้าใหม่ขยายตลาด ดันยอดขายโต 15%

ส.ขอนแก่นฟู้ดส์’ เปิดแผนธุรกิจปี 2013 ชูกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง กลุ่มอาหารขบเคี้ยว และร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ‘แซบ เอ็กซ์เพรส’ เป็นพระเอกลุยตลาด รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ พร้อมรุกปั้นแบรนด์ขนมไทยภายใต้ชื่อ “ทวีต” และ “ข้าวขาหมูยูนนาน” เดินหน้าขยายสาขา QSR พัฒนาเมนูใหม่เพิ่ม วางแผนออกสินค้าใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยวเสริมความแข็งแกร่ง มั่นใจจุดแข็งฐานการผลิตอาหารแปรรูปจากเนื้อสุกรและอาหารทะเลแปรรูปสร้างความได้เปรียบด้านต้นทุนวัตถุดิบ เล็งเพิ่มศักยภาพด้านการทำตลาด หนุนยอดขายปีนี้โต 15%

นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสุกร เปิดเผยแผนดำเนินธุรกิจและวิสัยทัศน์ปี 2013 ว่า ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จะชูกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยว และร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ภายใต้ชื่อ         ‘แซบ เอ็กซ์เพรส’ เป็นหัวหอกในการผลักดันธุรกิจในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ และสอดรับกับวิสัยทัศน์ ที่มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อหมูและอาหารทะเลแปรรูป เพื่อต่อยอดไปสู่การสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจโดยรวม

สำหรับแผนการทำตลาดผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งนั้น บริษัทฯ มีแผนพัฒนาสินค้าที่มีแบรนด์เป็นของตัวเองให้มากขึ้น จากเดิมที่เป็นรูปแบบการรับจ้างผลิตให้กับลูกค้า (OEM) โดยได้เปิดตัวแบรนด์ “ทวีต” (Tweet) ซึ่งเป็นเมนูขนมไทย ได้แก่ บัวลอย ทับทิมกรอบ บัวลอยน้ำขิง ขณะเดียวกัน ยังได้เปิดร้านข้าวขาหมู ‘ยูนนาน’ ในฟู้ดส์คอร์ท ตามห้างสรรพสินค้า รวมถึงเปิดเป็นร้านสแตนด์ อโลนในสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับการเสนอพื้นที่ให้เปิดจำหน่ายแล้วประมาณ 40 แห่ง นอกจากนี้ ยังขยายจุดจำหน่ายไปยังลูกค้าโรงแรม ภัตตาคาร และกลุ่มจัดเลี้ยง หรือ HoReCa ซึ่งเป็นตลาดที่มีการขยายตัวสูงอีกด้วย โดยมั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างแน่นอน

ขณะที่กลุ่มธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ภายใต้ร้าน ‘แซบ เอ็กซ์เพรส’ สามารถทำยอดขายเติบโตมากกว่าเท่าตัวในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการที่จำนวนลูกค้าและยอดค่าใช้จ่ายต่อหัวต่อคนเพิ่มขึ้นจาก 150 บาทต่อคนต่อครั้งเป็น 170 บาทต่อคนต่อครั้ง โดยปีนี้ บริษัทฯ จะพัฒนาเมนูอาหารใหม่ๆ พร้อมทั้งตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มเป็น 12 สาขา จากเดิมที่มี 6 สาขา หลังจากได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคที่ชื่นชอบรสชาติอาหาร โดยในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิด “แซบ เอ็กซ์เพรส” สาขาใหม่ที่ห้างสรรพสินค้าโซโห (โบ๊เบ๊ ทาวเวอร์) พร้อมกันนี้ยังจะเร่งวางระบบบริหารแฟรนไชส์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อการเติบโตในธุรกิจนี้อย่างยั่งยืน

ส่วนผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยวภายใต้แบรนด์ ‘อองเทร่’ และ ‘มูชิ’ ถือเป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จในการทำตลาดเช่นกัน เนื่องจากบริษัทฯ นับเป็นผู้บุกเบิกตลาดผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยวด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด โดยใช้วัตถุดิบในการผลิตอาหารแปรรูปจากเนื้อสุกร มาต่อยอดพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวสินค้ารองรับกับความต้องการของผู้บริโภครุ่นใหม่ ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด เพื่อผลักดันยอดขายสินค้าในกลุ่มนี้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

“ยุทธศาสตร์ของ ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ ในปีนี้ เราจะตอกย้ำในการสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวสินค้า โดยใช้ฐานการผลิตอาหารแปรรูปจากเนื้อสุกรและอาหารทะเลแปรรูปที่มีศักยภาพ มาช่วยสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจและต่อยอดความสำเร็จให้กลุ่มธุรกิจอาหารแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์อาหารขบเคี้ยวและร้านอาหารบริการด่วน แซบ เอ็กซ์เพรส ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันยอดขายและทำกำไรต่อหน่วยจากการขายสินค้าให้สูงขึ้นอีกด้วย” นายเจริญ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ กล่าวด้วยว่า สำหรับสินค้าอาหารพื้นเมืองที่แปรรูปจากเนื้อสุกรและอาหารแปรรูปจากทะเลที่นำไปผลิตลูกชิ้นปลา ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่มีสัดส่วนยอดขายประมาณ 80% จากยอดขายรวมนั้น บริษัทฯ มีแผนที่จะผลักดันทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจดังกล่าวให้เติบโตสูงขึ้น โดยจะพัฒนาสินค้าใหม่ที่เน้นคุณค่าทางโภชนาการสูงเพื่อเจาะกลุ่มเด็กและกลุ่มคนรักสุขภาพ และทำตลาดผ่านช่องทางขายร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ร้านสะดวกซื้อและร้านโชห่วยทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

ส่วนอาหารทะเลแปรรูปในกลุ่มลูกชิ้นปลา ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ มีความพร้อมด้านการผลิตมากขึ้น หลังจากเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 13,000 ตัน โดยเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ภายในปีนี้ และจะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการขยายตลาดลูกชิ้นปลาทั้งในประเทศและต่างประเทศได้มากขึ้น โดยเฉพาะในปีนี้ ที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างขยายตลาดไปยังประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียน (AEC) เช่น เวียดนาม กัมพูชา พม่า ลาว รวมทั้งประเทศในตะวันออกกลาง

 “ถึงแม้ว่า เราจะรุกตลาดผู้บริโภครุ่นใหม่ด้วยการผลักดันสินค้าที่รองรับกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่อย่างเต็มที่ แต่ ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ ก็ยังมีความแข็งแกร่งด้านสินค้าอาหารพื้นเมืองและลูกชิ้นปลา ที่เป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย ทำให้เราสามารถนำไปต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าได้ ซึ่งจากพื้นฐานของธุรกิจเดิมที่แข็งแกร่ง ผนวกกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่บริษัทฯ เดินหน้าพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงการขยายช่องทางการตลาดที่มีความหลากหลาย เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ทำให้มั่นใจว่า จะช่วยผลักดันยอดขายรวมปีนี้เติบโต 15% ได้ตามเป้าที่วางไว้” นายเจริญ กล่าว