เนื้อหาวันที่ : 2013-03-11 16:07:30 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1755 views

ฮอนด้า เปิดตัวแอคคอร์ด ใหม่ เจนเนอเรชั่น 9

ฮอนด้า แอคคอร์ด สานตำนาน 37 ปี สู่ยนตรกรรมเหนือระดับ ด้วยดีไซน์หรูหรา สง่างาม พร้อมความสะดวกสบายในการขับขี่ชั้นยอด

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัว ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ยนตรกรรมสุดหรูเจนเนอเรชั่นที่ 9 ที่มีการออกแบบใหม่ทั้งคัน ด้วยดีไซน์หรูหรา สง่างามเหนือระดับ เพื่อสะท้อนรสนิยมและเติมเต็มความต้องการยนตรกรรมระดับหรูของลูกค้าภายใต้การออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวล ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมี่ยม นวัตกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ความปลอดภัยสูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  มีจำหน่าย 5 รุ่น ราคาเริ่มต้น 1,299,000 บาท พร้อมแล้วที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งเป้ายอดขายที่  20,000 คันภายในหนึ่งปี

 

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "นับตั้งแต่ฮอนด้า แอคคอร์ด เจนเนอเรชั่นที่หนึ่งได้เปิดตัวสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในปี 2519 และสามารถครองใจผู้ขับขี่จากทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง จวบจนปัจจุบัน มียอดขายสะสมถึงสิ้นปี 2555 รวมทั้งสิ้นมากกว่า 19 ล้านคันใน 160 ประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทย มียอดขายสะสมตั้งแต่ปี 2527 จนถึงปลายปี 2555 รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 138,229 คัน"

ตลอดระยะเวลา 37 ปี ฮอนด้า แอคคอร์ด ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับนำเสนอนวัตกรรมแห่งโลกยานยนต์อันล้ำสมัยในแต่ละช่วงเวลา จึงทำให้ฮอนด้า แอคคอร์ด เป็นสุดยอดยนตรกรรมที่สะท้อนเอกลักษณ์อันโดดเด่น และส่งมอบความสุขในการขับขี่ให้กับลูกค้าทั่วโลกในทุกยุคทุกสมัย สำหรับฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่นี้เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 9  ที่มีดีไซน์สะท้อนถึงความหรูหรา สง่างามเหนือระดับ และสะดวกสบายมากที่สุดที่เคยมีมา ทั้งยังครบครันด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ และความคุ้มค่าสูงสุด"

การเปิดตัว ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่นี้ นับเป็นการพลิกโฉมการออกแบบยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมเหนือระดับของฮอนด้าอีกครั้ง ด้วยองค์ประกอบแห่งความเหนือชั้น ได้แก่

ดีไซน์หรูหรา สง่างามเหนือระดับ ผสานอารมณ์สปอร์ตอย่างลงตัว นอกจากประสิทธิภาพอันโดดเด่นทางด้านหลักอากาศพลศาสตร์แล้ว ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ยังมาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ทันสมัย เฉียบคมทุกตารางนิ้ว การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกของแอคคอร์ดใหม่ได้รับการพัฒนาให้โดดเด่นด้วยกระจังหน้าที่ล้ำสมัย เคร่งขรึมด้วยเสากลางรถสีดำหรูแบบเปียโนแบล็ค และไฟท้ายแอลอีดี

ความสะดวกสบายเหนือจินตนาการ ด้วยการออกแบบภายในห้องโดยสาร ที่เน้นการเพิ่มความสบายสูงสุดให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร  ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขึ้นกว่าเดิม และที่นั่งโดยสารทั้งตอนหน้าและตอนหลังมีพนักพิงที่กว้างขวางสะดวกสบาย ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมี่ยม เช่น เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Memory Seat) และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร (Active Noise Control) และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวาเพื่อสุนทรียภาพในการขับขี่ อีกทั้งยังมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) พร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) ที่ใช้งานง่ายสะดวก และรวดเร็ว

ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงข้อมูลแบบอัจฉริยะ i-MID หน้าจอแสดงข้อมูลขนาด 8 นิ้ว ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ โดดเด่นด้วยระบบสั่งการแบบ Smart Interface ที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานของระบบเครื่องเสียง ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth และข้อมูลรถยนต์ผ่านหน้าจอควบคุมอัจฉริยะระบบสัมผัส (On-demand Touch Panel)

ขุมพลังเหนือชั้น ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 2.4 ลิตร DOHC ใช้เทคโนโลยีเอิร์ธ ดรีม(Earth Dreams) เป็นรุ่นแรกของฮอนด้าในประเทศไทย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ฮอนด้าพัฒนาขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่และเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันสูงสุด ด้วยการพัฒนาองค์ประกอบการสันดาปภายในและการใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สมรรถนะเครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุดที่ 225 นิวตัน-เมตร (23.0 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 174 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที  และเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 2.0 ลิตร SOHC สมรรถนะเครื่องยนต์ให้แรงบิดสูงสุดที่ 190 นิวตัน-เมตร (19.4 กก.-ม.) ที่ 4,300 รอบต่อนาที กำลังสูงสุด 155 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที  ทั้งนี้ เครื่องยนต์ทั้งสองขนาดยังรองรับการใช้น้ำมัน E85 พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด

เทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือชั้น ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยใหม่ล่าสุดครอบคลุมรอบคันรถ เปิดมุมมอง 360 องศาให้แก่ผู้ขับขี่ อาทิ ระบบ CMBS ซึ่งเป็นระบบเตือนการชนด้านหน้าด้วยเรดาห์พร้อมระบบช่วยเบรก เพื่อช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็ว หรือเบรกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการชนหรือลดความรุนแรงจากการชน เทคโนโลยี Honda LaneWatch ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ช่วยลดจุดบอดและเพิ่มทัศนวิสัยด้านข้างขณะเปลี่ยนเลน ระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติ Active Cornering Light เพิ่มความสว่างขณะเลี้ยวรถในเวลากลางคืน กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ช่วยเติมเต็มทัศนวิสัยด้านหลัง พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบแอลอีดี Daytime Running Lights  ถุงลมคู่หน้าอัจฉริยะ Dual i-SRS  ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbag  ม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags  ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว VSA  ระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย MA-EPS  ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA  ระบบป้องกันล้อล็อก ABS  และระบบกระจายแรงเบรก EBD  ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer  สัญญาณฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS  และกระจกหน้าต่างคู่หน้าลดการเกาะตัวของหยดน้ำ Water Dispersing  รวมทั้งกระจกมองข้างลดการเกาะตัวของหยดน้ำเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ (อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น)

เพื่อตอกย้ำว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เป็นที่สุดแห่งยนตรกรรม และเป็นที่สุดแห่งความปรารถนาของผู้ขับขี่อย่างแท้จริง ฮอนด้าได้วางแนวทางการสื่อสารการตลาดภายใต้แนวคิด All My Desire โดยได้สร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาเพื่อสะท้อนแนวคิดดังกล่าว ผ่านบทเพลง “เสน่หา” ซึ่งได้ประพันธ์เนื้อร้องภาษาอังกฤษ และมีการเรียบเรียงดนตรีขึ้นมาใหม่ มีกำหนดออกอากาศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่น ขนาดเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ได้แก่ รุ่น 2.0EL และ 2.0EL (Navi) และขนาดเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ได้แก่ 2.4EL,  2.4EL (Navi)  และ 2.4 TECH ในราคาตั้งแต่ 1,299,000 บาท ถึง 1,799,000 บาท มีให้เลือก 5 สี คือ สีขาวออร์คิด (ขาวมุก-เพิ่ม 12,000 บาท)  สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีดำคริสตัล (มุก-เพิ่ม 8,000 บาท) และมี 2 สีใหม่ คือ สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และสีทองแชมเปญฟรอสต์ (มุก-เพิ่ม 8,000 บาท)

เรามั่นใจว่า ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ จะมาสร้างตำนานบทใหม่ของตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมที่ให้ความหรูหรา สง่างาม และความสะดวกสบายเต็มพิกัด พร้อมด้วยนวัตกรรมเทคโลยีอัจฉริยะอันล้ำสมัยให้ความคุ้มค่าสูงสุด และจะได้รับการต้อนรับอย่างดีจากลูกค้าชาวไทยเช่นเดียวกับทุกๆ เจนเนอเรชั่นที่ผ่านมา โดยเราตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้ที่ 20,000 คันภายในหนึ่งปี” นายพิทักษ์ กล่าวปิดท้าย