เนื้อหาวันที่ : 2012-12-11 08:20:40 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1451 views

เงินเฟ้อหลอนรัฐชูกรอบปีหน้า0.5-3%ขึ้นค่าแรงของแพงไม่มาก-ธปท.หวั่นเศรษฐกิจหด

ธปท.ผนึกคลังกำหนดกรอบเงินเฟ้อปีหน้า 0.5-3% เตรียมรับมือเศรษฐกิจหดตัวตามเศรษฐกิจโลก

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในวันที่ 11 ธ.ค. นายกิตติรัตน์ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง จะเสนอกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อพื้นฐานประจำปี 2556 โดยกำหนดไว้ที่ 0.5-3%

ตัวเลขดังกล่าวได้จากการหารือระหว่างกระทรวงการคลังกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงคาดว่าจะไม่มีความขัดแย้งระหว่าง2 หน่วยงานเหมือนในปีที่แล้ว ที่นายกิตติรัตน์ตีกลับตัวเลขกรอบเงินเฟ้อของ ธปท. โดยอ้างว่าไม่ทราบเรื่องมาก่อน

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า เงินเฟ้อปีหน้ามีแนวโน้มอยู่ในกรอบเป้าหมายที่0.5-3% แต่แรงส่งทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอ โดยเฉพาะส่งออก "ความเสี่ยงในปีหน้าอยู่ที่เศรษฐกิจโลกที่ยังมีแนวโน้มไม่สดใส ทั้งยุโรปที่อาจจะยังมีปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะปะทุขึ้นอีกในปีหน้า เอเชียที่เศรษฐกิจเริ่มชะลอเศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอลงชัดเจนและเศรษฐกิจสหรัฐยังฟื้นตัวอย่างไม่น่าพอใจ" ผู้ว่าการ ธปท. กล่าว

ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวล คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่นและจีน ดูเหมือนจะช่วยเยียวยาเศรษฐกิจได้ไม่มากนัก เพราะไม่ได้เป็นมาตรการที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่โครงสร้าง

นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี นักวิจัยอาวุโส ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า การที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างช้าๆจะไม่เป็นตัวเร่งให้เงินเฟ้อสูงขึ้น แต่ในครึ่งหลังของปีหน้า หากเศรษฐกิจสหรัฐและจีนกลับมาฟื้นตัว ให้จับตาอัตราเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้นจากราคาพลังงาน เพราะสองประเทศนี้เป็นผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลก

สำหรับการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำของรัฐบาลอีก 70 จังหวัดทั่วประเทศในวันที่ 1 ม.ค. 2556 จะเป็นแรงกดดันต่อเงินเฟ้อน้อย ระดับราคาเพิ่มเฉลี่ย 22% น้อยกว่าเมื่อครั้งที่ขึ้นค่าจ้าง 7 จังหวัด มีผลต่อระดับราคาถึง 40% เพราะสัดส่วนผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่อยู่ใน 7 จังหวัด
"แต่การขึ้นค่าจ้างรอบนี้จะทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเจ๊งมากกว่าเดิม เพราะกลุ่มนี้เจอผลกระทบต้นทุนสูงขึ้นทันที"นายเบญจรงค์ กล่าว