เนื้อหาวันที่ : 2012-12-07 11:43:10 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1576 views

รถแอลพีจีอ่วมรัฐลอยตัว 16 ม.ค. หดไฟฟ้าฟรีเหลือ65หน่วย

กพช.ตรึงแอลพีจีครัวเรื่อนถึงสิ้นปี 55 ภาคขนส่งเอ็นจีวีตรึงถึง 15 ม.ค. ปีหน้า

กพช.ตรึงแอลพีจีครัวเรื่อนถึงสิ้นปี 55 ภาคขนส่งเอ็นจีวีตรึงถึง 15 ม.ค. ปีหน้า จากนั้นปรับขึ้นเดือนละ 0.41 บาทต่อลิตร ประชาชนนิยมหดไฟฟรีเหลือหน่วย 65 หน่วย

คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้ให้ความเห็นชอบแนวทางการปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ โดยนายพิชัย นรพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมให้ตรึงราคาขายปลีกก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือนไว้ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม (กก.)ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2555 จากเดิมที่จะมาตราการตรึงราคาล่าสุดถึงในเดือนกันยายน 2554 ส่วนแอลพีจีภาคขนส่งขยายเวลาตรังราคาขายปลีกไปจนถึง 15 มกราคม 2555 เพื่อรอมาตราการบัตรเครดิตพลังงาน และเริ่มปรับขึ้นราคาขายปลีกเพิ่มเดือนละ 0.41 บาทต้อลขิตร ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2555

ส่วนแอลพีจีอุตสาหกรรมปิโตเลียม จะมีการเก็บเงินเข้าสู่กองทุนนำมันเชือเพลิงในส่วนของแอลพีจีใช้วัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตเคมี กิโลกรัมละ 1 บาทตั้งแต่วันที่ 1มกราคม 2555 เป้นต้นไป เพื่อเป็นการลดภาระกองทุนน้ำมัน จากการชดเชยการนำเข้าก๊าสแอลพีจีจากต่างประเทศซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการขยายตัวของการใช้ก๊าซในภาคอุตสาหกรรมปิโตเคมี" นายพิชัยระบุ

ทยอยปรับขึ้นเอ็นจีวี 50 สต./เดือน
ขณะที่ในส่วนของเอ็นจีวี รัฐมนตรีว่าการกรพะทรวงการพลังงาน บอกว่า จะมีการขยายระยะเวลาตรึงราคาขายปลีกไว้ที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัม และคงอัตราเงินชดเชยในราคา 2 บาทต่อกิโลกรัมต่อไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 จรชนถึงวันที่ 15 มกราคม 2555 เพื่อเตรียมพร้อมเรื่องบัตรเครดิตพลังงานและเรื่องการปรับเปลี่ยนรถแท็กซี่แอลพีจีและเอ็นจีวีเดือนละ 0.50 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2555 ถึงเดือนธันวาคม 2555 เพื่อไม่ให้กระทบผู้ใช้เอ็นจีวีมากเกินไป

พร้อมทั้งทยอยปรับอัตราเงินชดเชยก๊าซเอ็นจีวีลงเดือนละ 0.50บาทต่อกิโลกรัม จำนวน 4 ครั้งตั้งแต่วันที 16 มกราคม 2555 ถึงเดือนเมษายน 2555 ซึ่งปัจจุบันมีการชดเชยจากกองทุนน้ำมัน 2 บาทต่อกิโลกรัม และมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ไปพิจรณาแนวทางการช่วยเหลือกลุ่มรถโดยสารสาธารณะเพื่อบรรเทาผลกระทบจากแนวการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี" นายพิชัยกล่าว

นายพิชัยกล่าวต่อว่า กพช. ยังเห็นชอบแนวทางการปรับราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดยปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันแก๊สโซฮอล์เดือนละ 1บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2555 เป็นตันไป โดยมอบให้ กบง. พิจรณาระยะเวลากรส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันตามความเหมาะสมแปละปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมัน ของน้ำมันดีเซลอัตตรา 0.60 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2555เป็นต้นไป โดยมอบให้ กบง. พิจรณาระยะเวลาการส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันตามความเหมาะสม

แท็กซี่แอลพีจีเปลี่ยนใช้เอ็นจีวีฟรี
คาดว่า หากดำเนินการปรับโครงสร้าง"ราคาก๊าซแอลพีจีและเอ็นจีวี รวมทั้งแนวทางปรับราคาน้ำมันเชื่อเพลิงดังกล่าวแล้ว จพทำให้ฐานะกองทุนน้ำมัน สุทธิ สิ้นปี 2555 อยู่ที่ 3,877 ล้ายบาท" นายพิชัยกล่าวและ ว่าที่ประชุม กพช.ได้มอบหมายงานให้กับกบง. พิจรณาดำเนินการแก้ไข้คำสั่งนายกรัฐมนครีที่ 4/2547 เรื่อง กำหนดมาตราการเพื่อแก้ไขและปเองกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมัน และให้ กบง.พิจรณาจากการปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันต่อไป

นอกจากนี้ กพช. ยังเห็นชอบแนวทางการจัดหาเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยการกู้ยืมเงินสถาบันการเงิน วงเงินประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ระยะเวลาประมาณ 1 ปี

โดยให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) หรือสบพน. ขอขยายระยะเวลาการใช้หนี้คืนตามได้ความจำเป็นและความเหมาะสม หากกรณีกองทุนน้ำมันมีสภาพคล่องคงเหลือไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้และวงเงินสินเชื่อเป็นวงเงินที่สถาบันการเงินรับรองการเบิกได้อย่างแน่นอน(Committed Line)

นายพิชัยกล่าวต่ออีกว่า การช่วยเหลือหลังปรับโครงสร้างพลังงาน ในส่วนของรถยนต์สาธารณะจะออกบัตรพลังงานให้ภายในเดือนฑันวาคมนี้ โดยเฉพาะรถแท็กซี่และรถตู้สาธารณะจะยังคงซื้อเอ็นจีวีเพิ่ม คาดว่าในต้นปี 2555 จะมีทั้งหมด 500 แห่ง ส่วนแท็กซี่ที่ใช้แอลพีจีจะปรับเปลี่ยนเป็นรถเอ็นจีวีให้ฟรี ส่วนการยกเลิกจำหน่ายจำหน่ายเบนซิน 91 นั้น กพช.ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาแน่นอนแต่คาดว่าจะอยู่ในช่วงปลายปี 2555

จ่อลดเกณฑ์ใช้ไฟฟรี 65 หน่วย
นายบุญส่ง เกิดกลาง กรรมการกำกับกิจการพลังงาน สาขาพลังงานด้านกิจการไฟฟ้า เปิดเผยว่า สำนักงานกำกับกิจการพลังงาน  (สพก.) จะเสนอให้รัฐบาลปรับลดเงื่อนไขของผู้มีสิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี ให้เหลือ 65 หน่วย จากเดิม 90 หน่วย โดยพิจรณาผลศึกษาของกระทรวงมหาดไทยเรื่องเล้นแบ่งแยกความจน ซึ่งกำหนดว่าครัวเรื่อนต้องมีรายได้เดือนละไม่เกิน 5 พันบาท และกลุ่มนี่จะต้องใช้ไฟไม่เกิน 65 หน่วย

การปรับเปลี่ยนเงื่อนไขผู้ใช้ไฟฟ้าฟรี ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้าฟรีลดลงเหลือ 2 ล้านครัวเรื่อน จากเดิม 7 ล้านครัวเรือน
ขณะที่วงเงินที่ใช้นการสนับสนุนค่ไฟฟ้าจะลดลงเหลือปีละ3,600 ล้านบาท จากเดิม 1.2 หมื่นล้านบาท และอาจจะส่งผลให้รัฐบาลไม่ต้องเก็บเงินจากภาคอุตสาหกรรมและเจ้าของอาคารขณะใหญ่ เพื่อนำมาสนับสนุนค่าไฟฟรี จากปัจจุบันที่เรียกเก็บ 12 สตางค์ต่อหน่วย" นายบุญส่งกล่าว

ทั้งนี้ สพก.ได้เสนอรายละเอียดเรื่องนี้ให้นายพิชัย     นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพิจรณาแล้วขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของฝ่ายนโยบายว่าจะมการตัดสินใจอย่างไร โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1-2 เดือนนี้

ส่วนแนวโน้มค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่าเอฟที งวดเดือนมกราคม-เมษายน 2555 คาดว่าจะปรับสูงขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยสกพ.จะใช้เงินทีเรียกคืนจากหน่วยงานการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ประมาณ 3 พันล้านบาท ชดเชยส่วนต่างค่าเอฟทีที่จะเพิ่มขึ้น เพื่อจะลดภาระประชาชน ส่วนแนวโน้มค่าไฟฟ้าปีหน้าจะปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องรอผลสรุปโดครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ ซึ่งจะสะท้อนต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้า