เนื้อหาวันที่ : 2012-11-29 08:52:17 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1642 views

บี้รฟท.ยกเครื่องโครงสร้าง ประภัสร์ เร่งซื้อหัวรถจักร

เร่งรัดขยายเส้นทางรถไฟที่จะเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านให้เร็วขึ้น เพราะตามแผนจะดำเนินการในระยะที่ 2 หรือหลังปี 62

นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงการประชุมบอร์ด ร.ฟ.ท.ว่า ได้เร่งรัดการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ร.ฟ.ท. วงเงิน 176,808 ล้านบาท ที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม. เนื่องจากการดำเนินงานยังมีความล่าช้า ซึ่งนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. รับไปดำเนินการ รวมถึงการพิจารณาเร่งรัดขยายเส้นทางรถไฟที่จะเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านให้เร็วขึ้น เพราะตามแผนจะดำเนินการในระยะที่ 2 หรือหลังปี 62

นายประภัสร์ กล่าวว่า ได้พิจารณาแผนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน พบว่า ร.ฟ.ท. ยังไม่มีการจัดลำดับความสำคัญ ซึ่งตนจะเร่งดำเนินการ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างหัวรถจักร เพื่อให้ประกวดราคาเร็วขึ้นภายในปี 56 เนื่องจากต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยกว่า 2 ปี กว่าจะได้หัวรถจักร ส่วนงานซ่อม และปรับปรุงขยายทางจะเร่งรัดระบบการทำงานให้มีความชัดเจนขึ้น เพราะเป็นเรื่องความปลอดภัยในการให้บริการเดินรถไฟ

สำหรับเส้นทางรถไฟที่จะไปเชื่อมต่อทางใต้ที่ปาดังเบซาร์ ซึ่งตามแผนงานไม่ได้อยู่ในระยะเร่งด่วน แต่จากการพิจารณาเห็นว่า มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 58-59 ตนจะไปพิจารณาว่า เส้นทางเชื่อมต่อทางรถไฟเส้นทางใด ที่จะเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีการดำเนินการพร้อมแล้ว ร.ฟ.ท. จะต้องเร่งดำเนินการทันที ซึ่งจะสรุปรายละเอียดของแผนเสนอให้บอร์ด ร.ฟ.ท. พิจารณาในครั้งต่อไป ส่วนเรื่องงบประมาณนั้น เนื่องจากไม่ได้มีการจัดสรรงบประมาณปี 56 ไว้ ซึ่งหากจำเป็นต้องเร่งดำเนินการ จะเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาจัดหาให้แทน

"เรื่องการเชื่อมโยงโครงข่ายการขยายเส้นทาง ถือว่า เป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะต้องดำเนินการเร่งด่วน เพราะหลายโครงการในแผนพบว่า กว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จล่าช้า จึงจำเป็นต้องพิจารณาและจัดลำดับความสำคัญ"

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 53 ได้เห็นชอบแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของ ร.ฟ.ท. ระยะเร่งด่วน 5 ปี ระหว่างปี 53-57 วงเงิน 176,808 ล้านบาท แบ่งเป็นรัฐรับภาระลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และระบบอาณัติสัญญาณ 152,334 ล้านบาท ส่วน ร.ฟ.ท. จะรับภาระจัดหารถจักร และล้อเลื่อน 24,474 ล้านบาท แต่การดำเนินโครงการขณะนี้ ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร เมื่อกระทรวงการคลังได้ทักท้วง ฝ่ายบริหาร ร.ฟ.ท. จึงไม่ดำเนินการใด.