เนื้อหาวันที่ : 2012-10-01 15:40:37 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1616 views

ฮอนด้าประกาศตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ทั่วโลก 6 ล้านคันในปี 2017

เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าด้วยยานยนต์ที่มีเทคโนโลยีอันทันสมัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ประเทศญี่ปุ่น 1 ตุลาคม 2555–บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด โดยนาย ทาคาโนบุ อิโต้ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ ประกาศวิสัยทัศน์ และทิศทางการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อตอกย้ำการกำหนด “ทิศทางในอีก 10 ปี ข้างหน้า” ที่ประกาศไปเมื่อปี 2010 ในการที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าด้วยความรวดเร็ว ในราคาที่ย่อมเยา และมี CO2ต่ำ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฮอนด้ามุ่งมั่นคิดค้นเทคโนโลยีอันทันสมัย ที่มีไอเดียสร้างสรรค์ และนำเสนอผลิตภัณฑ์นั้นเพื่อสร้าง ความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ในฐานะผู้ผลิตยานยนต์ ฮอนด้าพยายามริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อลดการปล่อย CO2 เสมอมา

ในปี 2011 ฮอนด้าเผชิญกับอุปสรรคมากมาย อาทิ เงินเยนที่แข็งค่าขึ้น การหยุดการผลิตในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ปัญหาพลังงานไฟฟ้าขาดแคลนจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ รวมถึงอุทกภัยในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ฮอนด้าขอขอบคุณในความร่วมมือร่วมใจของซัพพลายเออร์หุ้นส่วนทางธุรกิจ และ
ความพยายามของพนักงานฮอนด้าทุกคน ที่ทำให้เราสามารถฟื้นฟูธุรกิจได้ในเวลาอันรวดเร็ว และวันนี้เราพร้อมที่จะกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม

ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทฯ ฮอนด้าได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่นที่มีเทคโนโลยีอันทันสมัย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้คนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น ทำงานได้ง่ายขึ้น เพิ่มความคล่องตัว และความสะดวกสบาย ให้กับลูกค้าเสมอมา ในปีงบประมาณ 2011 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2012) ผลิตภัณฑ์ของฮอนด้าได้ส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าทั่วโลกกว่า 23.9 ล้านคน ซึ่งประกอบไปด้วยลูกค้าผู้ใช้รถจักรยานยนต์ 15 ล้านคน ลูกค้าผู้ใช้เครื่องยนต์อเนกประสงค์ 5.8 ล้านคน และลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ 3.1 ล้านคนในปี 2017 ฮอนด้าตั้งเป้าหมายในการส่งต่อความสุขให้กับลูกค้าทั่วโลกมากถึง 39 ล้านคนรวมผลิตภัณฑ์ทุกประเภท

ทิศทางการดำเนินงานในธุรกิจรถยนต์

ในธุรกิจยานยนต์ ฮอนด้าเร่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลก ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในระดับโลก เพื่อให้ฮอนด้าสามารถสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ดีที่สุด ในต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ โดยมีการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1) การพัฒนาไปพร้อมๆ กันใน 6 ภูมิภาคทั่วโลก2) ประยุกต์การออกแบบให้เข้ากับแต่ละพื้นที่ 3) พัฒนาประสิทธิภาพในการผลิตในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างโดดเด่น ฮอนด้าจะตอบสนองความต้องการของตลาดที่หลากหลายด้วยความรวดเร็ว เช่นเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้ว พร้อมทั้งพัฒนารถยนต์แต่ละรุ่นให้สอดคล้องกับโครงสร้างอุตสาหกรรมของทุกประเทศในแต่ละภูมิภาค ตามแนวทางการดำเนินงาน “การพัฒนาไปพร้อมๆ กันใน 6 ภูมิภาค” โดยแต่ละภูมิภาคจะมีส่วนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน ตั้งแต่ในขั้นตอนแรกของการพัฒนา การแนะนำรถยนต์รุ่นเดียวกันในทุกภูมิภาคในเวลาไล่เลี่ยกัน จะช่วยให้ฮอนด้าสามารถกำหนดภาพรวมของกำลังการผลิตในระดับโลกได้ ตั้งแต่เริ่มแนะนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด นอกจากนี้ การผลิตชิ้นส่วนจำนวนมากครั้งเดียวในประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงจะสามารถช่วยลดต้นทุนการจัดหาชิ้นส่วนรถยนต์ได้อีกด้วย

ในขณะเดียวกันเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งเพื่อใช้วัตถุดิบ และโครงสร้างการผลิตที่มีอยู่ในแต่ละท้องถิ่นให้มากที่สุด ฮอนด้าจึงประยุกต์การออกแบบให้เข้ากับแต่ละพื้นที่ ด้วยแนวความคิดใหม่นี้ ฮอนด้าจะเพิ่มยอดขายรถยนต์ในตลาดกลุ่มภูมิภาคหลัก เช่น  ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป จาก 2.06 ล้านคันในปีงบประมาณ 2012 เป็นกว่า 3 ล้านคันในปีงบประมาณ 2017 และจะขยายธุรกิจในตลาดของประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างโดดเด่น โดยจะสร้างยอดขายรถยนต์ให้ได้มากกว่า 3 ล้านคันในปี 2017 ซึ่งนับเป็น 2 เท่าของปีงบประมาณ 2012 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2012) ด้วยการตั้งเป้ายอดการขายที่แข็งแกร่งในกลุ่มภูมิภาคหลัก และการรุกตลาดในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างโดดเด่นนี้ ฮอนด้าตั้งเป้าการขายรถยนต์รวมทั่วโลกให้ได้กว่า 6 ล้านคันภายในปีงบประมาณ 2017

เทคโนโลยียานยนต์อันทันสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ฮอนด้ายังคงพัฒนาเทคโนโลยี “เอิร์ธ ดรีม” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนในอนาคตที่เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ และเพิ่มประสิทธิภาพของการประหยัดน้ำมันสูงสุด ด้วยการพัฒนาองค์ประกอบการสันดาปภายในรวมทั้งเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ และเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าที่นำมาใช้กับมอเตอร์ และส่วนประกอบอื่นๆ สำหรับยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งยังคงเป็นที่นิยมใช้ในหลายประเทศทั่วโลก ฮอนด้าจะพัฒนาเครื่องยนต์ที่มีระบบการเผาไหม้ภายใน ที่ช่วยประหยัดน้ำมันสูงสุด ฮอนด้าจะเริ่มติดตั้งเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่นี้ในรุ่นแอคคอร์ด ปี 2013 และจะนำมาติดตั้งในรถยนต์รุ่นอื่นๆเป็นลำดับต่อไป สำหรับรถไฮบริด ฮอนด้าจะประยุกต์ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด 3 ระบบซึ่งมีคุณลักษณะอันโดดเด่น เพื่อเติมเต็มความต้องการให้กับลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น

สำหรับระบบไฮบริดมอเตอร์เดี่ยวที่มีน้ำหนักเบา จะถูกพัฒนาให้ range ของ EV มีช่วงเวลาที่นานยิ่งขึ้น (เมื่ออยู่ใน EV range รถจะไม่มีการปล่อยก๊าซ CO2ออกมาเลย) โดยจะพัฒนาสมรรถนะของมอเตอร์และแบตเตอรี่ ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบเกียร์แบบใหม่ ยิ่งไปกว่านั้น ฮอนด้ามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำยานยนต์พลังงานไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยการพัฒนาประสิทธิภาพของการนำพลังงานไฟฟ้าที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่กลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่

สำหรับรถยนต์ขนาดกลาง หลังจากที่ฮอนด้าเปิดตัว แอคคอร์ด ไฮบริด ปลั๊ก-อิน ใหม่ ในสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นปี 2013 แล้ว รถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่จะได้รับการติดตั้งระบบไฮบริดมอเตอร์คู่ซึ่งหลังจากเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาแล้ว รถยนต์รุ่นนี้จะเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่น และภูมิภาคอื่นๆ เป็นลำดับต่อมา รถยนต์ไฮบริด ปลั๊ก-อิน ที่จะเริ่มจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น จะได้รับการติดตั้งเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าที่สามารถใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานภายนอกได้ ซึ่งเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้านี้ได้รับการพัฒนามาจากเทคโนโลยีเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าของฮอนด้านั่นเอง

ฮอนด้ามุ่งสร้างสรรค์สมรรถนะในการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด จึงคิดค้นระบบไฮบริด 3 มอเตอร์หรือระบบสปอร์ตไฮบริด SH-AWD®(Super Handling All Wheel Drive) ที่สามารถให้การขับขี่สไตล์สปอร์ต และประหยัดน้ำมันไปพร้อมกันซึ่งระบบนี้จะได้รับการติดตั้งในรถยนต์รุ่น NCX รถสปอร์ตไฮบริด Acura RLX และรถยนต์รุ่นต่อมาของ Legend ซึ่งจะเปิดตัวที่ญี่ปุ่นในปี 2014 ฮอนด้ามุ่งมั่นที่จะตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าที่มีต่อรถไฮบริด ด้วยการนำเสนอรถไฮบริดรุ่นต่างๆ เหล่านี้ที่มีสมรรถนะการขับขี่ และการประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่า

สำหรับรถ EV ฮอนด้าจะเริ่มเปิดให้เช่าซื้อ ฟิตEV ที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานไฟฟ้าสูงสุด ในช่วงฤดูร้อนนี้ เนื่องจากสถานการณ์ด้านพลังงานในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป ฮอนด้าพยายามพัฒนารถ EV อย่างต่อเนื่องเพื่อเจาะตลาดกลุ่มรถ EV ให้มากขึ้น

ฮอนด้าวางแผนเทคโนโลยี EV สำหรับยานยนต์ส่วนบุคคลขนาดเล็ก (Micro-mini vehicle) เพื่อต่อยอดการพัฒนาคอนเซ็ปท์ของ Micro Commuter ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ เมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยฮอนด้าเป็นผู้ผลิตยานยนต์รายเดียวที่มีเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ ฮอนด้าจึงสามารถพัฒนายานยนต์ส่วนบุคคลรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และวางแผนทดสอบการสาธิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่ญี่ปุ่นในปี 2013

สำหรับยานยนต์พลังงานเซลล์เชื้อเพลิง ฮอนด้าคิดค้นพัฒนายานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงสุด และต้องการเป็นผู้นำด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงเป็นผู้นำด้านยอดขายในอุตสาหกรรม ฮอนด้าจะเปิดตัวยานยนต์พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงในประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรป ตามลำดับ ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นไป ยานยนต์พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงรุ่นนี้จะเป็นการแสดงถึงความสำเร็จของความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและความพยายามในการลดต้นทุน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัท โตชิบา คอร์ปอเรชั่นในการทดสอบระบบบ้านพลังงานอัจฉริยะที่ฮอนด้าได้สร้างไว้ในจังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น  และร่วมสาธิตระบบการจัดการพลังงานภายในบ้าน เพื่อให้มีการผลิตพลังงานและการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

นับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาฮอนด้าได้ดำเนินการทดสอบและสาธิตระบบบ้านพลังงานอัจฉริยะภายใต้โครงการ E-KIZUNA ของจังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้บ้านพลังงานอัจฉริยะ 2 หลังที่ก่อสร้างบนที่ดินติดกับมหาวิทยาลัยไซตามะ โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันและการใช้ยานพาหนะส่วนบุคคลให้มากยิ่งขึ้นและมีการสำรองพลังงานไว้ใช้ในภาวะฉุกเฉินและในกรณีที่มีภัยพิบัติเกิดขึ้น  สำหรับบ้านที่ใช้ในการสาธิตหลังที่ 3 จะดำเนินการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2013 (สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2014) พร้อมติดตั้งระบบการจัดการพลังงานของโตชิบาและฮอนด้า

สำหรับการเข้าร่วมการทดสอบและสาธิตระบบบ้านพลังงานอัจฉริยะครั้งนี้ โตชิบาจะใช้ระบบมาตรวัดอัจฉริยะและระบบจัดการพลังงานภายในชุมชน โดยเชื่อมโยงบ้านที่เข้าร่วมการทดสอบทั้ง 3 หลังเข้าไว้ด้วยกันเป็นเครือข่ายเดียว และใช้เทคโนโลยีควบคุมการทำงานของอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน ขณะที่ฮอนด้าจะนำเทคโนโลยีการผลิตและการจัดเก็บพลังงาน  รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในการทดสอบครั้งนี้ โดยทั้งสองบริษัทจะแสวงหาแนวทางในการทำงานร่วมกันบนระบบคลาวด์ เพื่อให้อุปกรณ์ต่างๆ ทำงานและเกื้อหนุนกันอย่างราบรื่น ทั้งยังรวมถึงการนำแบตเตอรี่ SCiB ของโตชิบาทดลองติดตั้งในรถยนต์ไฟฟ้า EV ของฮอนด้าอีกด้วย

นอกจากนี้ ฮอนด้าและโตชิบายังได้ร่วมกันสร้างสรรค์ระบบชุมชนพลังงานอัจฉริยะพร้อมด้วยระบบบ้านพลังงานอัจฉริยะ โดยใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าของโตชิบาทั้งภายในและภายนอกบ้านที่มีการควบคุมการทำงานด้วยเทคโนโลยีการจัดการพลังงาน ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมของฮอนด้าทางด้าน
การผลิตและสำรองพลังงาน ระบบเทเลแมติกส์ (telematics) และระบบยานยนต์

บริการ ฮอนด้า เทเลแมติกส์ หรือ ฮอนด้า ลิงค์ ได้รับการออกแบบเพื่อการเชื่อมโยงยานยนต์ ผู้คน และสังคม เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างการรับรู้ถึงความสนุกและความปลอดภัยในการใช้ชีวิตในสังคมที่มี CO2ต่ำ ซึ่งฮอนด้าจะนำระบบฮอนด้า ลิงค์ ไปใช้ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลกก่อนสิ้นปี 2014 นี้ ยิ่งไปกว่านั้น ฮอนด้าจะขยายการพัฒนาเทคโนโลยีโรโบติคส์ อาทิ เทคโนโลยี อาซิโม และการช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาเด็ก และส่งเสริมความปลอดภัยด้านการจราจร

ฮอนด้าต้องการเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยีอันโดดเด่นล้ำสมัย จึงแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากพลังแห่งความฝัน และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ยังคงความตื่นเต้น และความสนุก ให้กับลูกค้าและสังคมตลอดไป