เนื้อหาวันที่ : 2012-08-23 10:45:21 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1655 views

พาณิชย์ หามาตรการเฉพาะหน้ามาช่วยเสริมภาคการส่งออกไทย

นายกรัฐมนตรี สั่งกระทรวงพาณิชย์ หามาตรการเฉพาะหน้ามาช่วยเสริมภาคการส่งออกไทย

นายกรัฐมนตรี สั่งกระทรวงพาณิชย์หามาตรการเฉพาะหน้ามาช่วยเสริมภาคการส่งออกไทย เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้หลักเข้าประเทศมาช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ เพื่อให้สามารถเดินได้ตามเป้าส่งออกที่รัฐบาลวางไว้ที่ร้อยละ 10 ขณะที่ กระทรวงการคลัง จะเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณในส่วนที่ล่าช้า


วานนี้ (22 สิงหาคม 2555)เว็บไซต์สำนักข่าวแห่งชาติ รายงานว่า นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจหามาตรการเฉพาะหน้ามาดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ให้ไปดำเนินการหาตลาดส่งออกทดแทนเข้ามาเสริมตลาดส่งออกของประเทศ โดยภาคการส่งออกยังคงเป็นรายได้หลักของไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจำเป็นต้องทำให้คงที่หรือเพิ่มขึ้นจะปล่อยให้อ่อนตัวลงไม่ได้ ด้วยการออกมาตรการด้านภาษีในการลดต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและกลุ่มอัญมณี เพื่อช่วยเหลือภาคเอกชนให้มีหลักประกันที่เหมาะสม

เช่น การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มการนำเข้าอัญมณีที่ยังไม่ได้เจียระไน ยกเว้นภาษีให้กับผู้ที่จัดงานแสดงสินค้า หรือสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ยกเว้นภาษีเงินได้จากการลงทุนในต่างประเทศที่ต้องส่งกลับมาในไทย ยกเว้นภาษีอากรนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เสนอแบ่งสินค้าออกเป็นหมวดสินค้า 4 กลุ่ม ที่สร้างรายได้หลักเข้าประเทศมาเสริมภาคการส่งออก คือ สิ่งทอ-เครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนัง อาหาร และอัญมณี

โดย นายกรัฐมนตรี เน้นให้ดูแลกลุ่มอาหารเป็นหลัก คือ ไก่สดแช่แข็ง ที่อียูได้อนุญาตให้มีการนำเข้าจากไทยแล้ว หลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในยุโรปขึ้นว่าไทยได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง เบื้องต้นอาจต้องหาตลาดใหม่ๆมาทดแทนอยู่ระหว่างพิจารณาตลาดที่เหมาะสม เช่น จีน อินเดีย รัสเซีย

ซึ่งในช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมาผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่พึ่งฟื้นตัวจากน้ำท่วม แม้จะมีตลาดในการกระจายสินค้าแต่กลับพบว่าไม่มีสินค้าเพียงพอในการผลิตเพื่อส่งออก จำเป็นที่ภาครัฐต้องเข้าไปช่วยเหลือและกระตุ้นให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเพียงพอกับความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขณะที่ กระทรวงการคลัง ได้รายงานที่ประชุมฯว่า จำเป็นต้องให้หน่วยงานราชการ เร่งรัด การเบิกจ่ายงบประมาณให้รวดเร็วขึ้น จากปัจจุบันนี้หลายหน่วยงานยังมีตัวเลขการเบิกจ่ายงบประมาณที่ต่ำกว่าแผนมาก เพราะการเบิกจ่ายงบประมาณมาลงทุนจะเป็นอีกตัวช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ


สำหรับเป้าการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังที่เหลือเพียง 4 เดือน จะสามารถทำเป้าการส่งออกได้ถึงร้อยละ 15 หรือไม่นั้นปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะพยายามทำเป้าส่งออกให้ได้ตามที่รัฐบาลต้องการ แต่ยอมรับว่าเป้าที่ตั้งไว้สูงเกินไป โดยเฉพาะขณะนี้เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัวลงหลายประเทศปรับเป้าเศรษฐกิจและส่งออกภายในแต่ละประเทศลง จึงเป็นไปไม่ได้ที่ไทยจะคงเป้าที่ร้อยละ 15 เพราะจะไปไม่รอด

นายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งให้กระทรวงพาณิชย์หาแนวทางกระตุ้นยอดการส่งออกให้ขยับตัวได้ดีที่สุด ขณะเดียวกันรัฐบาลเองจะหามาตรการเข้ามาสนับสนุนภาคเอกชน โดยจะแยกเป็นรายสินค้ากระจายไปยังตลาดใหม่ๆ หรือที่ยังมีกำลังซื้อ ขณะที่มูลค่าการส่งออก เชื่อว่า ในเดือนกันยายนนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หากมูลค่าการส่งออกในเดือนต่อไปขยับขึ้นเป็น 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อาจทำให้เป้าการส่งออกอยู่ที่ร้อยละ 9