เนื้อหาวันที่ : 2012-07-27 17:00:49 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1818 views

ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ผ่านบททดสอบการชนกว่า 12,000 ครั้ง

ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ผ่านบททดสอบการชนกว่า 12,000 ครั้ง ทั้งแบบเสมือนจริงและทดสอบการชนจริง

วิศวกรด้านความปลอดภัยของฟอร์ดทั้งในประเทศสหรัฐและเยอรมนี ทดสอบการชนของฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ทั้งแบบเสมือนจริงและการชนจริงมากกว่า 12,000 ครั้ง เพื่อพิสูจน์การทำงานของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ออกแบบขึ้นเพื่อช่วยปกป้องความปลอดภัยของผู้โดยสารเมื่อเกิดการชน 

 ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ผ่านบททดสอบแบบเข้มข้นทั้งการทดสอบความสามารถในการปกป้องผู้โดยสารและการจำลองรถทั้งคันเพื่อทดสอบการชนแบบเสมือนจริง ซึ่งระบบจำลองที่คล้ายคลึงกับการทดสอบจริงอย่างมากนี้ ช่วยลดจำนวนครั้งในการทดสอบการชนจริงๆ ลงได้มาก 

“การพัฒนาโฟกัส ใหม่ ให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยในระดับโลก ทำให้รถคันนี้มีความสามารถในการปกป้องผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมากในกรณีที่เกิดการชน” มร. แมท นีสลูโควสกี ผู้จัดการด้านความปลอดภัยของฟอร์ด กล่าว “ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในประเทศต่างๆ นับว่ามีความซับซ้อนอย่างมาก การที่ทีมงานด้านความปลอดภัยของฟอร์ดทั่วโลกทำงานร่วมกันตั้งแต่ขั้นตอนแรกๆ ของการพัฒนารถ เราจึงมั่นใจว่าโฟกัส ใหม่ จะมีมาตรฐานเดียวกับหรือเหนือกว่าข้อกำหนดของแต่ละประเทศ” 

การนำระบบคอมพิวเตอร์ช่วยในการคำนวณงานวิศวกรรมมาใช้ในการจำลองรถและทดสอบการชนแบบเสมือนจริงหลายพันครั้ง ช่วยให้วิศวกรของฟอร์ดทดสอบผลงานการออกแบบได้หลายร้อยแบบ การทดสอบชนจริงๆ จะกระทำขึ้นหลังจากงานออกแบบดังกล่าวผ่านการทดสอบแบบเสมือนจริงมาแล้วมากมาย ทั้งนี้ เพื่อตรวจสอบและพิสูจน์ผลที่ได้จากการทดสอบแบบเสมือนจริงในระบบคอมพิวเตอร์อีกครั้ง เพื่อความมั่นใจว่าทุกรายละเอียดทั้งภายนอกและภายในจะได้รับการออกแบบอย่างถูกต้องตามกฎข้อบังคับต่างๆ 

เรานำระบบคอมพิวเตอร์แบบเสมือนจริงมาใช้มากกว่าที่เคย เพื่อช่วยให้ชิ้นส่วนของรถทุกรายการได้รับการออกแบบอย่างดีที่สุด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่” มร. นีสลูโควสกี กล่าว “เนื่องจากการทดสอบการชนเป็นงานที่มีความซับซ้อนอย่างมาก เพราะชิ้นส่วนและระบบต่างๆ หลายร้อยรายการต้องทำงานอย่างสอดประสานกัน เราจึงจำเป็นต้องทดสอบการชนด้วยรถจริงๆ เพื่อประเมินผลอีกครั้งหลังจากการทดสอบในระบบคอมพิวเตอร์เสร็จสิ้นลง” 

นอกจากนี้ โฟกัส ใหม่ ยังนำเสนอนวัตกรรมด้านความปลอดภัยใหม่ๆ อีกมากมาย ซึ่งรวมถึงถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับขี่รุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยช่วยปกป้องการบาดเจ็บบริเวณอก จากการออกแบบที่ใช้ระบบดึงส่วนล่างของถุงลมรูปทรงโค้งเข้าไปเก็บไว้ด้านใน ทำให้ถุงลมนิรภัยมี “ลักยิ้ม” เพื่อลดโอกาสที่ถุงลมนิรภัยจะกระแทกหน้าอกและซี่โครงของผู้ขับขี่เมื่อเกิดการชนจากด้านหน้า 

นอกจากการติดตั้งถุงลมนิรภัยรุ่นใหม่แล้ว โครงสร้างตัวถังของฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ยังช่วยปกป้องความปลอดภัยจากการชนได้ดียิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มความแข็งแรงให้กับเสากลาง ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักที่ทำจากเหล็กที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษ และผลิตขึ้นด้วยนวัตกรรม “กระบวนการรีดเหล็กให้เหมาะสมกับแต่ละส่วนโดยเฉพาะ” (Tailor rolling process) กระบวนการดังกล่าวช่วยให้แผ่นเหล็กที่ผ่านการรีดแล้วมีความหนาต่างกันตลอดความยาวของแผ่น ดังนั้น พื่นที่ซึ่งคาดว่าจะต้องรับแรงกระแทกมากที่สุดจึงมีความแข็งแรงมากขึ้น 

โครงสร้างตัวถังของฟอร์ด โฟกัส ใหม่ มีส่วนผสมของเหล็กที่มีความแข็งแรงสูงในสัดส่วนถึง 55 เปอร์เซ็นต์ โดยกว่า 26 เปอรเซ็นต์ของโครงสร้างตัวถังดังกล่าวทำจากเหล็กที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษและเหล็กโบรอน การเลือกใช้วัสดุที่ดีเยี่ยมเหล่านี้ทำให้โครงสร้างตัวถังของโฟกัส ใหม่ มีความสามารถรองรับการชนได้ตามมาตรฐานที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกกำหนด ทั้งยังช่วยลดน้ำหนักของรถเพื่อการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น 

 เทคโนโลยีทันสมัยช่วยปกป้องความปลอดภัยก่อนการชน ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ติดตั้งระบบป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุมากมายเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการเกิดการชน 

ระบบควบคุมเสถียรภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ (ESP) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งอยู่ในฟอร์ด โฟกัส ใหม่ ทุกรุ่นที่มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ ระบบอันทันสมัยนี้ใช้สมองกลอันชาญฉลาดตรวจวัดการทำงานของรถอย่างสม่ำเสมอและจะแทรกแซงการทำงานเมื่อจำเป็น ซึ่งโดยมากผู้ขับขี่จะไม่รู้สึกถึงการทำงานของระบบเลย 

ระบบดังกล่าวประกอบด้วย ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ซึ่งรวมถึงระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน ระบบช่วยเบรกล่วงหน้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ และระบบเตือนการเบรกฉุกเฉิน ระบบควบคุมเสถียรภาพในการขับขี่ ซึ่งประกอบด้วย ระบบควบคุมเสถียรภาพของเครื่องยนต์ และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง ระบบป้องกันล้อล็อกบนถนนลื่นเมื่อใช้เอนจิ้นเบรกการบูสต์เพลาขับล้อหลังแบบไฮดรอลิกระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน