เนื้อหาวันที่ : 2006-05-04 17:14:08 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1223 views

ปตท.และเชลล์ อั้นไม่อยู่ยอมปรับขึ้นตามผู้ค้ารายอื่นแล้ว อีก 50 สต.

ปตท.และเชลล์อั้นไม่อยู่ยอมปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในกรุงเทพฯและเขตปริมณฑลแล้วอีก 50 สตางค์ต่อลิตรโดยจะมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.ในวันที่ 5 พ.ค.นี้ รับช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ส่งผลให้ราคาขายของเชลล์ปรับเท่าผู้ค้ารายอื่นแล้ว แต่ปตท.ยังต่ำกว่ารายอื่นอีก 40 สตางค์ต่อลิตร

ปตท.และเชลล์อั้นไม่อยู่ยอมปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในกรุงเทพฯและเขตปริมณฑลแล้วอีก 50 สตางค์ต่อลิตรโดยจะมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.ในวันที่ 5 พ.ค.นี้ รับช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ส่งผลให้ราคาขายของเชลล์ปรับเท่าผู้ค้ารายอื่นแล้ว แต่ปตท.ยังต่ำกว่ารายอื่นอีก 40 สตางค์ต่อลิตร

.

ปตท.และเชลล์ ได้ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลขึ้นอีก 50 สตางค์ต่อลิตร โดยจะมีผลในวันที่ 5 พ.ค.49 ตั้งแต่เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป หลังจากที่ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นได้ประกาศปรับขึ้นไปก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลของเชลล์จะเท่ากับผู้ค้ารายอื่น ๆ โดยราคาเบนซิน 95 อยู่ที่ 29.24 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 อยู่ที่  28.44 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 27.74 บาทต่อลิตร และดีเซลอยู่ที่ 26.59 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันของ ปตท.จะยังคงต่ำกว่าผู้ค้ารายอื่น ๆ อยู่ 40 สตางค์ต่อลิตร โดยเบนซิน 95 อยู่ที่  28.84 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 อยู่ที่ 28.04 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ อยู่ที่ 27.34 บาทต่อลิตร และดีเซลอยู่ที่ 26.19 บาทต่อลิตร

 .

นายสุพรรณ สุทธิสาร ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การปรับราคาน้ำมันขายปลีกภายในประเทศครั้งนี้ ก็ยังทำให้ค่าการตลาดทั้งเบนซินและดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณติดลบบาทกว่า ซึ่งถือว่าผู้ค้าน้ำมันทุกบริษัทยังคงต้องแบกรับภาวะต้นทุนต่อไปประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดยังปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่สามารถที่จะมีใครตอบได้ว่าราคาน้ำมันจะพุ่งสูงไปอยู่ที่ระดับเท่าไร เพราะต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาเพราะมีปัจจัยหลักหลายตัวที่ทำให้ราคาน้ำมันไม่แน่นอน

.

จากราคาน้ำมันตลาดโลกปิดวันที่ 3 พ.ค.49 ราคาดูไบ เพิ่มขึ้น 0.25 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อยู่ที่ 68.35 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล  เบรน ลดลง 0.89 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อยู่ที่ 73.55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล  และเวสต์เท็กซัส  ลดลง 2.24 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อยู่ที่ 73.70เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันเบนซิน เพิ่มขึ้น 0.60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อยู่ที่ 90.65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และดีเซล เพิ่มขึ้น 0.18 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อยู่ที่ 87.01 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

.

สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ปิดตลาดวันที่ 3 พ.ค. น้ำมันดิบดูไบ เพิ่มขึ้น 0.25 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อยู่ที่ 68.35 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เบรนท์ ลดลง 0.89 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อยู่ที่ 73.55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และเวสต์ เท็กซัส ลดลง 2.24 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อยู่ที่ 73.70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์ เบนซิน 95 เพิ่มขึ้น 0.60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อยู่ที่ 90.65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เบนซิน 92 เพิ่มขึ้น 1.15 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อยู่ที่ 89.68 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และดีเซล เพิ่มขึ้น 0.18 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อยู่ที่ 87.01 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

.

ส่วนแนวโน้มคาดว่าราคาน้ำมันยังคงมีความผันผวนและแกว่งตัวอยู่ในระดับสูงจากปัจจัยทางความรู้สึกที่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมัน โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและกลุ่มประเทศตะวันตกเกี่ยวกับการทดลองพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลง ซึ่งอิหร่านยังคงยืนยันจุดยืนเดิมที่จะเดินหน้าการทดลองดังกล่าว ท่ามกลางแรงกดดันจากนานาชาติที่ต้องการให้อิหร่านยุติโครงการ โดยผู้อำนวยการโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านระบุว่าขณะนี้ อิหร่านสามารถเสริมสมรรถนะยูเรเนียมได้ถึง 4.8 % ซึ่งใกล้เป้าหมายที่เพียงพอจะเดินเครื่องโรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ขณะที่สหรัฐและกลุ่มพันธมิตรเกรงว่าหากอิหร่านเสริมสมรรถนะต่อไปจนถึง 90% จะสามารถนำมาผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ จึงพยายามโน้มน้าวให้รัสเซียและจีนยอมลงมติคว่ำบาตรต่ออิหร่าน

.

นอกจากนี้ปัญหาความขัดแย้งในประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก เช่น ไนจีเรีย อิรัก และโบลิเวีย ล้วนเป็นปัจจัยลบที่สร้างความกังวลแก่ตลาดและอาจส่งผลให้กองทุนเฮดจ์ ฟันด์ มีการกลับเข้าซื้อในตลาดซื้อขายล่วงหน้า