เนื้อหาวันที่ : 2012-05-25 16:01:39 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2589 views

ปัญหาการขาดแคลนอาหารโลกความสำคัญ ของอินเดียในอนาคต

ปัญหาการขาดแคลนอาหารของโลก บทบาทและความสำคัญของอินเดียในอนาคต

จากประชากรโลกมากกว่า 7 พันล้านคน มีเพียงร้อยละ 14 เท่านั้นที่ใช้ชีวิตอยู่โดยมีมาตรฐานสุขอนามัยและคุณภาพการบริโภคอาหารที่ดี ประชากรส่วนที่เหลือของโลกนั้นยังต้องเผชิญกับปัญหาสุขอนามัย สภาวะขาดแคลนอาหาร และขาดแคลนกำลังซื้อสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และเพียงพอกับความต้องการ

 
ความต้องการผลผลิตทางการเกษตรและสินค้าโภคภัณฑ์ในอินเดียมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น และกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการอาหารที่มีคุณภาพดีและปลอดภัย โดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูปที่ได้มาตรฐาน ความต้องการที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้ทำให้ราคาของสินค้าเกษตรกรรมและโภคภัณฑ์มีการปรับตัวสูงขึ้น

และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อกลุ่มผู้บริโภคซึ่งเดิมมีกำลังซื้อน้อยอยู่แล้วให้มีความสามารถในการซื้อลดลงไปอีกจนไม่สามารถเข้าถึงสินค้าเกษตรกรรมที่มีคุณภาพดีเหล่านั้นได้ ประกอบกับสภาพการเปลี่ยนแปลงของอากาศที่เห็นได้อย่างชัดเจนและส่งผลกระทบมากขึ้นในทุกๆ ปี เช่น แผ่นดินไหว ความแห้งแล้ง อุทกภัย หรือการแพร่ระบาดของเชื้อโรค

 ซึ่งเกิดขึ้นได้ง่ายและทวีความรุนแรงขึ้นในแต่ละปี สร้างปัญหาเรื่องการขนส่ง ความอดอยาก และอาหารเป็นพิษ นอกจากนี้ สินค้าที่ได้จากการผลิตโดยเกษตรกร กว่าที่จะผ่านกระบวนการต่างๆ จนออกสู่ตลาดและมาถึงผู้บริโภคในที่สุดนั้น มีการสูญเสียสินค้าถึงร้อยละ 40 หรือมากกว่าหนึ่งในสามของสินค้าที่มีการผลิตได้ ทำให้โอกาสสำหรับประชากรที่รายได้ต่ำหรือยากจนที่จะสามารถเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพดีลดต่ำลงเรื่อยๆ

ปัญหาเรื่องของความต้องการสินค้าเกษตรกรรมและโภคภัณฑ์จึงกลายเป็นปัญหาอันดับหนึ่งที่รัฐบาลของอินเดียพยายามที่จะแก้ไข โดยในปี2011 อินเดีย จีน และบราซิล ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการประชุม G20 และ World Economic Forum เนื่องจากเป็นประเทศที่มีกำลังการผลิตสินค้าสูง จากการประชุมของประเทศกลุ่ม G20 ในปี 2011 เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในปี 2012

จากสภาวะอากาศและภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้น (โดยเฉพาะปัญหาฝนแล้ง) ราคาสินค้าที่สูงขึ้น การแพร่กระจายของโรคระบาด และคุณภาพสินค้าที่ต่ำลง ทำให้มีการวางโครงการเพื่อความร่วมมือของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ในระบบการผลิตสินค้าสำหรับอาหารและสินค้าเกษตรกรรมในเรื่องคุณภาพของสินค้าและความปลอดภัย

รวมทั้งยังรวมถึงการผลิตโดยคำนึงถึงการประหยัดทรัพยากรและลดปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตที่ในขณะเดียวกันก็จะต้องช่วยในการประหยัดต้นทุนและสามารถปรับให้ราคาสินค้าอยู่ในระดับที่ผู้บริโภคทุกกลุ่มเข้าถึงได้เพื่อเป็นการรับมือกับปัญหาใหม่ๆ ที่รัฐบาลจะต้องเจอหลังจากนี้ซึ่งได้แก่ ปัญหาการขาดแคลนน้ำและพื้นที่เพาะปลูก

ปัญหาการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโรคและศัตรูพืช โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการเสื่อมสภาพของดินซึ่งทำให้พื้นที่เพาะปลูกทั่วโลกลดลงไปถึงปีละ 12 ล้านเฮกเตอร์ โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการไถกลบหน้าดินหลังการเก็บเกี่ยวที่ไม่ดี และระบบการผลิตที่เกิด Organic waste และ Chemical Waste ในปริมาณมาก

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสถานการณ์ของสินค้าเกษตรกรรมและสินค้าอาหารของอินเดีย คือ พฤติกรรมการบริโภคของชาวอินเดียที่เปลี่ยนแปลงไป ช่องว่างระหว่างชนชั้น ระดับรายได้ และความรู้ของประชากร การเสื่อมสภาพของพื้นที่เพาะปลูกและทรัพยากรธรรมชาติ และผลผลิตทางการเกษตรที่ลดลงทั้งในด้านปริมาณ คุณภาพ และความปลอดภัย

ในอนาคต รัฐบาลอินเดียมีความพยายามที่จะแก้ไขโดยการออกกฎหมายที่เอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนในการเกษตรและการผลิตอาหารแบบยั่งยืน การลงทุนในด้านข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อลดความเสียหายของสินค้าเกษตรกรรม และรัฐบาลมีนโยบายที่จะให้ความสำคัญมากที่สุดกับผู้บริโภคที่มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบมากที่สุดซึ่งก็คือผู้มีรายได้ต่ำ รวมทั้งการสร้างความร่วมมือกับเอกชนในการสร้างระบบตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า

ในขณะที่ประเทศต่างๆ มีการบริโภคเพิ่มขึ้น จนปริมาณสินค้าในตลาดไม่เพียงพอต่อความต้องการ และการเพิ่มกำลังการผลิตต่อไปอยู่ในปริมาณที่ยากที่จะรักษาสมดุลของทรัพยากรที่ลดลงอย่างรวดเร็ว อินเดียยังคงเป็นประเทศที่มีกำลังในการผลิตสินค้าเกษตรกรรมที่สูงมาก

และด้วยปริมาณการผลิตที่แท้จริงในแต่ละปีของอินเดียจะช่วยให้สามารถรักษาสมดุลของการบริโภคสินค้าเกษตรกรรมในตลาดโลกไว้ได้ อย่างไรก็ตาม อินเดียยังคงต้องใช้เวลาและการพัฒนาอีกมากมายในทุกๆ ด้านเพื่อที่จะรักษาไม่ให้ผลผลิตทางการเกษตรต้องสูญเสียไปในกระบวนการที่ไม่ได้มาตรฐานถึงร้อยละ 40 เช่นในปัจจุบัน

นายศศินทร์ สุขเกษ
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ
พฤษภาคม 2555