เนื้อหาวันที่ : 2012-04-11 10:14:30 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1277 views

เปิดโครงการพัฒนาธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์สู่มาตรฐาน ISO ประจำปี 2555

นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์สู่มาตรฐาน ISO ประจำปี 2555

นายศิริวัฒน์  ขจรประศาสน์   รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์  เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์สู่มาตรฐาน ISO ประจำปี 2555 และพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO ประจำปี 2554 เมื่อวันพฤหัสบดีที่  5  เมษายน  2555  ณ  กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ท่านผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่ได้รับการสนับสนุนส่งเสริมโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในการพัฒนาธุรกิจจนผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO และขอแสดงความยินดีกับท่านผู้ประกอบการทั้ง 40 ราย โดยความสำเร็จครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการเตรียมความพร้อมของธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ไทย เพื่อก้าวไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

เห็นได้ชัดเจนว่า ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์เป็นสาขาธุรกิจที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยกลุ่มธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ครอบคลุมถึงธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้า ขนถ่ายสินค้า บริการพิธีการทางศุลกากร ตัวแทนรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ บริการคลังสินค้า การบรรจุภัณฑ์และหีบห่อ และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งซึ่งกลุ่มธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์เหล่านี้ สามารถสร้างรายได้รวมเป็นมูลค่าประมาณ 8 แสนล้านบาท นายศิริวัฒน์   กล่าว

นอกจากนี้ ธุรกิจให้บริการ โลจิสติกส์ยังเป็นบริการที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจการค้าและบริการอื่นๆ ไม่ว่าภาคเกษตรกรรมหรืออุตสาหกรรมโดยบริการโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน จะส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจการค้าและบริการทุกประเภท ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์จึงเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของไทย ในเวทีโลก

นายศิริวัฒน์   กล่าวว่า ประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมากในขณะนี้ คือแนวโน้มการแข่งขันทางการค้าเสรี ภายใต้กรอบความร่วมมือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ซึ่งธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์เป็นหนึ่งในสาขาธุรกิจที่มีการเปิดเสรีทางการค้า โดยผู้ประกอบการอาเซียนจะสามารถถือหุ้นในประเทศสมาชิกได้ถึงร้อยละ 70 ในปี 2556 ดังนั้น ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ไทยจะต้องปรับตัวและเร่งพัฒนาตนเองเพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพ โดยการพัฒนาศักยภาพบริหารจัดการธุรกิจ พัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากร และยกระดับคุณภาพการให้บริการ ให้สามารถแข่งขันได้ใน AEC

กระทรวงพาณิชย์ เล็งเห็นความสำคัญของธุรกิจบริการโลจิสติกส์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย จึงมีนโยบายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจบริการโลจิสติกส์ของไทยให้มีความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาธุรกิจให้ได้คุณภาพมาตรฐานสากล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการแข่งขันในระบบการค้าเสรีเนื่องจากเปรียบเสมือนเครื่องหมายรับรองมาตรฐานและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร อีกทั้ง เป็นการพัฒนาศักยภาพขององค์กรให้มีความเข้มแข็ง และมีความพร้อมต่อการเปิดเสรีสาขาบริการโลจิสติกส์ในอนาคตอันใกล้

นายศิริวัฒน์   กล่าวว่า ต้องขอชื่นชมและขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO และทุกบริษัทที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์สู่มาตรฐาน ISO ซึ่งผู้ประกอบการทุกท่านล้วนมีความุ่งมั่น ตั้งใจในการพัฒนาธุรกิจให้ได้คุณภาพมาตรฐานสากล จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเข้าร่วมโครงการพัฒนาธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์สู่มาตรฐาน ISO และนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีความเชื่อมั่นว่าทุกท่าน จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ของไทย

หวังว่าผู้ประกอบการทุกท่าน จะมีส่วนร่วมในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ไทยให้เข้มแข็งและแข่งขันในระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากท่านใดมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะแนวทางการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ กระทรวงพาณิชย์ และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือเพื่อพัฒนาธุรกิจของไทยให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต