เนื้อหาวันที่ : 2012-03-22 09:48:36 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1538 views

แลงเซสเข้าซื้อ ทีซีบี มุ่งสู่ผู้นำอุตฯ ยางรถยนต์ชั้นนำของโลก

แลงเซส เดินหน้าซื้อกิจการ ทีซีบี ขยายเครือข่ายธุรกิจยางในระดับโลก

แลงเซส เดินหน้าซื้อกิจการ ทีซีบี  ขยายเครือข่ายธุรกิจยางในระดับโลก

ไรน์ เคมี (Rhein Chemie) ขยายเครือข่ายธุรกิจยางในระดับโลก อุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก (Mobility megatrend) กระตุ้นความต้องการยางรถยนต์พุ่ง เป็นการเข้าซื้อกิจการครั้งที่สามในสหรัฐอเมริกา ในช่วง 6 เดือน

แลงเซส (LANXESS) บริษัทผู้ผลิตเคมีภัณฑ์เฉพาะด้านชั้นนำของโลก จากประเทศเยอรมนี เดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะซัพพลายเออร์ชั้นแนวหน้าในอุตสาหกรรมยางรถยนต์ โดยล่าสุด ไรน์ เคมี (Rhein Chemie) บริษัทในเครือที่แลงเซสเป็นเจ้าของเองทั้งหมด ได้เข้าซื้อกิจการของ บริษัท ไทร์ คูริ่ง เบลดเดอร์ส แอล แอล ซี จำกัด (Tire Curing Bladders LLC: TCB) หนึ่งในผู้นำด้านการผลิตยางในรถยนต์ สำหรับอุตสาหกรรมยางรถยนต์ของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขมูลค่าการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ โดยการดำเนินงานจะมีผลในทันที ที่การเข้าซื้อกิจการเสร็จสิ้น

บริษัท ไทร์ คูริ่ง เบลดเดอร์ส แอล แอล ซี จำกัด หรือ ทีซีบี (TCB) เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในเมือง ลิตเติล ร็อค รัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา และมีโรงงานผลิตยางในรถยนต์ ด้วยกำลังการผลิตกว่า 400,000 ยูนิต บริษัทแห่งนี้มียอดขาย 21 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 646 ล้านบาท) ในปี พ.ศ. 2554 และมีพนักงานราว 100 คน โดย ทีซีบี (TCB) ผลิตยางในเพื่อจำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือเป็นหลัก 
 
“การเข้าซื้อกิจการของ ทีซีบี (TCB) ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในกลยุทธ์การผลักดันให้ ไรน์ เคมี (Rhein Chemie) ก้าวสู่ตำแหน่งผู้ผลิตยางในคุณภาพสูงระดับโลก”

มร. ไรน์เนีย แวน รอสเซล กรรมการบริหาร ของแลงเซส กล่าว “บริษัทกำลังเร่งเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตของฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมยางรถยนต์ และนอกจากนี้เรายังบุกตลาดยางในสำหรับยางของรถบรรทุก ออฟโร้ด (Off-road) และยานพาหนะที่ใช้ในการเกษตร รวมถึงเครื่องจักรกลก่อสร้างอีกด้วย”

“เรารู้สึกยินดีที่ ไรน์ เคมี (Rhein Chemie) จะช่วยให้กลุ่มพนักงานที่มีความมุ่งมั่นทุ่มเทของเรามีโอกาสก้าวหน้าและประสบความสำเร็จมากขึ้นอีกขั้นผ่านเครือข่ายการดำเนินธุรกิจที่กระจายอยู่ทั่วโลกและแบรนด์ที่มีชื่อเสียง” มร. เวอร์นอน อัลมอน และ มร. มาร์ค นัตต์ (Mark Nutt) อดีตเจ้าของ ทีซีบี (TCB) กล่าว  

ไรน์ เคมี (Rhein Chemie) เริ่มผลิตยางในเมื่อปีที่แล้วโดยการเข้าซื้อกิจการของดาร์เม็กซ์ (Darmex) ในอาร์เจนตินา โดยยางในของ ไรน์ เคมี (Rhein Chemie) ทำตลาดภายใต้แบรนด์ “เรโนเชป” (Rhenoshape) 

"ยางใน “เรโนเชป” (Rhenoshape) รวมถึง เรโนดิฟ (Rhenodiv) ตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของเราอย่างครบครัน ทำหน้าที่จัดหาผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมครบวงจรให้แก่ผู้ผลิตยางรถยนต์ทั่วโลก ซึ่งช่วยยกระดับประสิทธิภาพและคุณภาพของผู้ผลิตเหล่านั้นได้อย่างมาก ดังนั้น การพัฒนาทั้งหลายในอนาคตของเราจะช่วยขยายขอบเขตความเชี่ยวชาญเหล่านี้” ดร. แอนโน บอร์โควสกี ประธาน ไรน์ เคมี (Rhein Chemie) กล่าว 

ยางในมีไว้ใช้ในกระบวนการผลิตยางรถยนต์ โดยยางที่ใช้ผลิตยางรถยนต์ที่ยังไม่ได้เติมสารทำให้คงรูป (Nonvulcanized tire) จะถูกนำไปวางในแม่พิมพ์ เมื่อแม่พิมพ์ถูกปิด แรงดันภายในจะดันให้ยางนั้นแนบติดกับผนังด้านในของแม่พิมพ์ยาง ซึ่งขั้นตอนนี้ทำได้โดยใช้ยางในชนิดบิวทิล (Butyl Rubber Bladder) ที่จากนั้นจะพองขึ้นภายใต้แรงดันสูง และที่อุณหภูมิสูงเพื่อให้ได้รูปทรงของยางที่ต้องการในขั้นสุดท้าย

คาดการณ์ว่าปริมาณความต้องการยางในจะเพิ่มขึ้นตามการผลิตยางรถยนต์ทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ย 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า กระแสโลกด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังมาแรง เป็นแรงกระตุ้นการเติบโตดังกล่าว ซึ่งมีปัจจัยหนุนมาจากการขยายตัวของจำนวนประชากรชนชั้นกลาง ในหลายประเทศ เช่น บราซิล จีน และอินเดีย

นอกจากนี้ จำนวนบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็กำลังนิยมจ้างเหมาบริษัทอื่นผลิตยางในเพื่อเพิ่มผลิตผลโดยรวม และเพื่อประโยชน์ด้านการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น ซึ่งผู้ผลิตยางในที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะสามารถตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้ ทั้งนี้ คาดว่าขนาดตลาดยางในทั่วโลกจะมีมูลค่ากว่า 300 ล้านยูโร (ประมาณ 12.24 หมื่นล้านบาท)

ไรน์ เคมี (Rhein Chemie)  มียอดขายประมาณ 280 ล้านยูโร (ประมาณ 11.43 หมื่นล้านบาท) ในปี พ.ศ. 2553 และมีพนักงานประมาณ 1,000 คนทั่วโลก บริษัทนี้ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2432 ในเมืองมันน์ไฮม์ ประเทศเยอรมนี และมีฐานการผลิตในประเทศเบลเยียม สหรัฐอเมริกา อุรุกวัย บราซิล อินเดีย จีน อาร์เจนตินา และญี่ปุ่น 

การเข้าซื้อกิจการของ ทีซีบี (TCB) ครั้งนี้นับเป็นการเข้าซื้อกิจการครั้งที่ 3 ของ แลงเซส ในสหรัฐอเมริกา ในช่วงระยะเวลาเพียง 6 เดือน โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา แลงเซสได้เข้าซื้อกิจการของยูนิเท็กซ์ (Unitex) บริษัทผู้ผลิตสารที่ใช้เติมในพลาสติกเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น ทนทาน โปร่งแสงและใช้งานได้นาน โดยปราศจากสารทาร์เลส (Phthalate) หรือที่เรียกว่า Phthalate-free Plasticizers ในเมืองกรีนสโบโร รัฐนอร์ท แคโรไลนา

และจากนั้นอีกหนึ่งเดือนถัดมาได้ทำการเข้าซื้อกิจการของ เวอริเคม (Verichem) ผู้เชี่ยวชาญด้านสารป้องกันวัสดุที่เติมสารไบโอไซด์ อันเป็นสารกำจัดอินทรีย์สาร (Biocide Material Protection) ในเมืองพิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลวาเนีย
“ทวีปอเมริกาเหนือยังคงเป็นตลาดที่สำคัญอย่างมาก  สำหรับอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์เฉพาะทางและโซลูชั่น  ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาโดย      แลงเซส” มร. แวน รอสเซล กล่าว

แลงเซส (LANXESS) เป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำที่มียอดขายรวม 7.1 พันล้าน   ยูโร (ประมาณ 2.89 แสนล้านบาท) ในปี พ.ศ. 2553 ปัจจุบันมีพนักงานราว 16,100 คนใน 30 ประเทศ มีฐานการผลิต 47 แห่งทั่วโลก ทั้งนี้ ธุรกิจหลักของ แลงเซส (LANXESS) ได้แก่ การพัฒนา การผลิต และการจัดจำหน่ายพลาสติก ยาง สารที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิต (intermediates)  และเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเฉพาะด้าน แลงเซส เป็นสมาชิกของ Dow Jones Sustainability Index (DJSI)  และ FTSE4Good