เนื้อหาวันที่ : 2012-03-05 14:43:48 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2743 views

มารู้จักการทำข้าวกล้องเพาะงอก

มารู้จักกับคุณค่าของข้าวกล้อง จากการศึกษาของนักวิจัยในการบริโภค ข้าวกล้องงอก ที่มีสาน GABA มากกว่าปกติถึง 25 เท่า

ธนสาร สาสังข์

          ฉบับนี้ผมจะนำเสนอถึงคุณค่าของข้าวกล้อง จากการศึกษาของนักวิจัยในการบริโภค “ข้าวกล้องงอก” ที่มีสาน GABA มากกว่าปกติถึง 25 เท่า กาบา เป็นกรดอมิโนที่ผลิตจากกระบวนการ Decarboxylation ของกรดลูตามิคในระบบประสาทส่วนกลาง นอกจากนี้กาบายังถือเป็นสารสื่อประสาทประเภทการกระตุ้น ซึ่งช่วยทำให้สมองเกิดการผ่อนคลายและนอนหลับสบาย อีกทั้งยังทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นต่อมไร้ท่อ ซึ่งทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโต HGH (Human Growth Hormone) ช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อทำให้กล้ามเนื้อเกิดความกระชับ และเกิดสาร Lipotropic ซึ่งเป็นสารป้องกันการสะสมของไขมัน

          ข้าวกล้องมีสรรพคุณเป็นกลางมีค่า PH = 7 ใกล้เคียงกับค่า PH ในเลือดของคนปกติคือ 7.3 ในข้าวกล้องมีแป้ง 74% มีโปรตีน 8% มีไขมัน 0.5-1% และวิตามินต่างๆ นักวิจัย (แมคโครไบโอติกส์) กล่าวว่า “ข้าวกล้องเพาะงอก” สามารถให้คุณค่าทางอาหารต่ออวัยวะของคนเราได้เป็นอย่างดี

          ข้าวกล้องนำมาเพาะงอกได้ต้องมีจมูกข้าวอยู่สมบูรณ์ คือข้าวกล้องที่ไม่ใช่ข้าวซ้อมมือ เมื่อนำข้าวกล้องมาแช่น้ำส่วนของจมูกข้าวจะมีการผลิต “กาบา” เพิ่มขึ้น น้ำเป็นตัวส่งถ่ายสารอาหารจากเนื้อในเมล็ดมายังส่วนจมูกข้าว ทำให้เกิดการสังเคราะห์โปรตีน การเพิ่มใยอาหารวิตามิน และเอนไซม์ต่างๆ ภายในเมล็ดจะทำหน้าที่ย่อยสลาย และเสริมสร้างสารอาหารต่างๆ หลายชนิด

วิธีทำข้าวกล้องงอก สูตร 4+6+14 = 24 ชั่วโมง
          1. คัดเลือกข้าว เลือกข้าวกล้องสีใหม่ๆ (ไม่เกิน 2 สัปดาห์ การงอกจะมีประสิทธิภาพมาก) หากซื้อข้าวกล้องจากตลาดอายุไม่ควรเกิน 1 ปี อัตราการงอกควรมากกว่า 80% มีเมล็ดเต็ม ถ้ามีข้าวหักมาก อาจจะทำให้เกิดการเน่าในระหว่างการแช่ข้าว (ไม่ควรซื้อข้าวกล้องจากถุงบรรจุสูญญากาศ) ควรเป็นข้าวกล้องแดงหรือข้าวกล้องหอมนิลจะดีกว่า

          2. ล้างให้สะอาด ตวงข้าวกล้องที่คัดเลือกแล้วในปริมาณที่เราต้องการรับประทาน ซาวข้าวเบาๆ  ไม่ซาวมากเกินไป เพราะข้าวอาจหักและสูญเสียวิตามินในข้าว

          3. แช่ในน้ำสะอาด 4 ชั่วโมง ใส่น้ำในปริมาณเท่ากับเวลาหุงข้าวกล้องปกติ

          4. เทใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ แล้วเทใส่ตระกร้าตาถี่ๆ เพื่อให้มีการระบายอากาศ เมล็ดข้าวมีอากาศหายใจ

          5. นำไปตั้งไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดทึบ 6 ชั่วโมง ควรใช้ผ้าขาวบางห่อเพื่อรักษาความชื้น แต่ระยะยาวจะมีกลิ่นอับหรืออาจเกิดเชื้อรา

          6. นำออกมาล้างน้ำสะอาดใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำอีกครั้ง เพราะอาจมีกลิ่นเกิดจากปฏิกิริยาของเมล็ดข้าวที่หัก และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในเมล็ดข้าวอีกครั้งหนึ่ง

          7. เทใส่ตระกร้าโปร่ง นำไปตั้งไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดทึบอีก 14 ชั่วโมง กระบวนการทำข้าวกล้องงอกทั้งหมด ไม่ควรเกิน 24 ชั่วโมง เพราะจะทำให้ปริมาณสาร “กาบา” ที่มีอยู่ในข้าวลดลง

          เมื่อเราได้ข้าวกล้องงอกแล้ว จะนำไปหุงรับประทานเป็นข้าวสวย โดยใส่น้ำ 1 เท่า หรือจะทำให้เป็น “น้ำข้าวกล้อง” ควรใส่น้ำ 4 เท่า ไว้ดื่มก็ได้ครับ หรือจะหุงแบบข้าวต้มไว้รับประทานก็ได้ครับ

          ผู้เขียนได้นำมารับประทานอยู่ประมาณ 2-3 เดือน ปรากฏว่าร่างกายสดชื่น สุขภาพแข็งแรง ระบบการย่อยและการขับถ่ายดีขึ้นมากกว่าเดิม และยังทำให้การนอนหลับสบายได้ดีอีกด้วย เห็นว่าเหมาะสำหรับผู้สูงอายุควรแก่การบริโภคอย่างยิ่ง ยังมีต่ออีกเกี่ยวกับธัญพืชอื่นๆ ขอให้ติดตามครับ

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก Add Free Magazine