ผลิตภัณฑ์ตราเพชร โชว์ผลงานปี 54 รายได้พุ่งแตะ 3,693 ล้านบาท ลั่นพร้อมเดินหน้าสายผลิต NT 10 ลุยดันยอดปี 55 โต 10%
ผลิตภัณฑ์ตราเพชร โชว์ผลงานปี 54 รายได้พุ่งแตะ 3,693 ล้านบาท ลั่นพร้อมเดินหน้าสายผลิต NT 10 ลุยดันยอดปี 55 โต 10%
“ผลิตภัณฑ์ตราเพชร” โชว์ผลประกอบการปี 54 ทำกำไร 460 ล้านบาท ส่วนรายได้พุ่งแตะ 3,693 ล้านบาท ด้านผู้บริหารพอใจผลงาน ที่อัตราการเติบโตยังโดดเด่น แม้เจอวิกฤติน้ำท่วมช่วงไตรมาส 4 เผยปี 55 เร่งเครื่องลุยตลาดเต็มพิกัด ดันรายได้โตไม่ต่ำกว่า 10% รับตลาดวัสดุก่อสร้างคึกคัก ชูความพร้อมด้านไลน์การผลิต NT 10 ที่จะเริ่มเดือนเครื่องได้กลางปีนี้ เชื่อเสริมศักยภาพความแข็งแกร่ง ลั่นพร้อมลุยตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเต็มสูบ
นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ “DRT” ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ พื้นไม้ลามิเนต แผ่นบอร์ด ยิปซัม และบริการหลังการขาย ภายใต้
แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2554 ว่า บริษัทฯ ต้องเสียภาษีนิติบุคคลเพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 30% แต่ก็สามารถทำกำไรสุทธิได้ 460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 453 ล้านบาท โดยมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.46 บาท
ขณะที่รายได้อยู่ที่ 3,693 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่บริษัทฯ มีรายได้ 3,304 ล้านบาท ซึ่งผลการดำเนินงานในปี 2554 นี้ ถือว่าเป็นที่น่าพอใจที่ DRT ยังสามารถรักษาการเติบโตที่ดีไว้ได้ แม้ว่าในช่วงปลายปีที่ผ่านมา จะเกิดวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ที่ส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจมากมาย ถึงแม้ว่าโรงงานจะไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ก็ได้รับผลกระทบจาก Supply Chain ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ ระบบขนส่งมีปัญหาอย่างมาก ทั้งในด้านการขนส่งวัตถุดิบและการจัดส่งสินค้า โดยยอดขายบางส่วนก็ได้รับผลกระทบจากการที่ไม่สามารถใช้เส้นทางในการขนส่งสินค้าได้
“ในปี 2554 เรายังคงรักษาอัตราการเติบโตได้ดีทั้งในส่วนยอดขายและการทำกำไร ซึ่งต้องยอมรับว่า ความสำเร็จดังกล่าวนั้นมาจากการที่บริษัทฯ ได้ใช้กลยุทธ์ Everything in One ในการทำตลาด เพราะภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าวที่มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ ทั้งในกลุ่มกระเบื้องคอนกรีต กลุ่มสินค้าไฟเบอร์ซีเมนต์
รวมถึงระบบโครงหลังคาสำเร็จรูป ‘ไดมอนด์ อัลตร้า ทรัส’ และระบบผนังสำเร็จรูป ‘ไดมอนด์ วอลล์’ นอกจากจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในการทำตลาดของตราเพชรได้ดีขึ้นแล้ว ยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในปัจจุบัน ที่มองหานวัตกรรมของสินค้าที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการก่อสร้างได้รวดเร็วขึ้นด้วยต้นทุนที่ลดลงได้อีกด้วย” นายอัศนี กล่าว
กรรมการผู้จัดการ DRT กล่าวอีกว่า ส่วนเป้าหมายดำเนินงานในปี 2555 นั้น บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตอย่างน้อย 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเดินเครื่องสายการผลิต NT 10 ซึ่งผลิตสินค้าในกลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด ด้วยกำลังการผลิต 7.2 หมื่นตัน ซึ่งจะสามารถเริ่มเดินเครื่องผลิตสินค้าได้ในกลางปีนี้ และจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนด้านความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าไฟเบอร์ซีเมนต์ที่ลูกค้านิยมนำไปซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถทนทานต่อน้ำท่วม และลดความสูญเสียด้านทรัพย์สินที่อาจเกิดเหตุอุทกภัยลงได้
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงดำเนินกลยุทธ์ทำตลาดภายใต้แนวคิด Everything in One ที่มุ่งสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ภายใต้
แบรนด์ตราเพชร ผ่านการนำเสนอนวัตกรรมสินค้าใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
โดยมีเป้าหมายรุกขยายตลาดไปสู่ช่องทางขายผ่านห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเร่งขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศพม่า ที่มีแนวโน้มความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่รัฐบาลพม่าเปลี่ยนแปลงนโยบายการบริหารด้วยการเปิดประเทศมากขึ้น เพื่อดึงดูดการค้าการลงทุน และทำให้บรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอยดีขึ้น
“ในส่วนของ ‘ตราเพชร’ ได้เริ่มเข้าไปทำตลาดประเทศพม่ามานานกว่า 10 ปี จึงมีความเข้าใจสภาวะแวดล้อมทางการตลาดและพฤติกรรมความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี จึงสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ตรงต่อความต้องการของลูกค้า ดังนั้น บริษัทฯ จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถผลักดันสัดส่วนยอดขายจากการส่งออกเพิ่มเป็น 10% เทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีสัดส่วนยอดขายจากการส่งออกอยู่ที่ 7-8% โดยตลาดในภูมิภาคอาเซียนยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญในการขยายตลาดของ DRT ในปีนี้” นายสาธิตกล่าว
Thailandindustrycom_official
