ด้วยกองบรรณาธิการวารสาร Mechanical Technology Magazine ได้มีโอกาสเยี่ยมชม บริษัท คอนวูด จำกัด ผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์วัสดุทดแทนไม้ จำพวกไม้เชิงชาย ไม้ระแนง ไม้บัว ไม้พื้น และไม้ฝาชั้นนำของประเทศไทย โดยมีผู้บริหารระดับสูงให้การตอนรับ พร้อมทั้งเปิดวิสัยทัศน์และกลยุทธ์การตลาดในปี 2550 ก่อนเยี่ยมชมโรงงานพร้อมกันนี้ ยังเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ ภายใต้แนวคิดของการเปิดรับธรรมชาติสู่ชีวิต

โดยมีนายสุทธิพันธ์ วัชโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด จำกัด เปิดเผยถึงกลยุทธ์การตลาดในปี 2550 ว่า บริษัทฯ เน้นให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์เป็นหลัก โดยตั้งเป้าหมายไว้อีก 5 ปี ข้างหน้าแบรนด์ของคอนวูดจะเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค และก้าวสู่ความเป็นผู้นำตลาดที่ได้รับการยอมรับ นอกจากการมุ่งสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักแล้ว ยังส่งเสริมการตลาดด้วยการใกล้ชิดกับเจ้าของบ้านมากขึ้น รวมทั้งกลุ่มสถาปนิก และเจ้าของโครงการ ซึ่งจะเน้นการอธิบายถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการเป็นผู้นำทางด้านราคา

คุณสุทธิพันธ์ วัชโรภาส

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอนวูด จำกัด

คุณธงชัย กมลพัฒนะ

ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท คอนวูด จำกัด

บริษัท คอนวูด จำกัดเป็น บริษัทในเครือปูนซีเมนต์นครหลวง ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ชั้นแนวหน้าของไทย หนึ่งในกลุ่ม บริษัท โฮลซิม แห่งประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2545 โดยมีเงินทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท มีสำนักงานฝ่ายการตลาดและการขายตั้งอยู่ที่เลขที่ 199 อาคารคอลัมน์ทาวเวอร์ ชั้น 7-12 ถนน รัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานครและโรงงานตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.สระบุรี บนเนื้อที่ 139.5 ไร่ และเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2546 ปัจจุบันมีกำลังการผลิตปีละ 90,000 ตันต่อปี โดย 75% เป็นสินค้าที่ผลิตอยู่ในปัจจุบัน ส่วนอีก 25 % นำไปผลิตสินค้าใหม่ได้แก่ ไม้ผนังบังใบ ไม้รั้ว ไม้บันได ไม้ระแนง และไม้ฝา ปัจจุบันมีพนักงานทั้งหมดประมาณ 200 คน

เป็นผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์คุณภาพสูง ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ผ่านการคัดเลือกวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน ทั้งปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ และเยื่อเซลลูโลส ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ คือความสวยงาม ทนทาน ใช้งานได้เหมือนไม้ธรรมชาติ ในการทำวัสดุทดแทนไม้ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ ดังนี้

1. ไม้ระแนง

2. ไม้เชิงชาย

3. ไม้พื้น

4. ไม้บันได

5. ไม้ผนังบังใบ

6. ไม้ฝา

7. ไม้ตกแต่งผนัง

8. ไม้บังตา

9. ไม้รั้ว

10. ไม้บัวคาดผนัง

11. ไม้บัวพื้น

1. ความสวยงาม ซึ่งมีเอกลักษณ์ของไม้คอนวูด ได้แก่การทำพื้นผิวเป็นเสี้ยนไม้เหมือนกับไม้ธรรมชาติ

2. ความแข็งแรง ทนทาน ไม่มีปัญหาเรื่องปลวก และความชื้น จึงทำให้มีอายุการใช้งานยาวนาน

3. การใช้งานได้เหมือนไม้จริง คือ สามารถดัดโค้ง ตัดต่อ ตกแต่งได้ เช่นเดียวกับไม้ธรรมชาติ

แนวทางการบริหารในปี 50

เป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 50 คือ เพิ่มยอดขาย 10% จากเดิม 730 ล้านบาท เป็น 800 ล้านบาท และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด จากเดิม อยู่ที่ 8.78% เป็น 9.28% โดยเน้นที่การเติบโตอย่างช้าๆ แต่ยั่งยืน

นายธงชัย กมลพัฒนะ ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท คอนวูด กล่าวถึงกลยุทธ์สำคัญของทางบริษัทฯ โดยมีแผนธุรกิจแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลักใหญ่ๆ ดังนี้

1. แผนการสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานการตลาดเดิม

2. การขยายเข้าสู่ตลาดใหม่

3. สร้างแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ

4. การพัฒนาบุคลากร

1. แผนการสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานการตลาดเดิมเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดทดแทนไม้

1.1 มุ่งเน้นในงานโครงงาน ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัท ให้มีความแข็งแกร่งยิ่ง ๆ ขึ้น โดยทางบริษัทได้มีการพัฒนาทีมงานที่จะเข้าไปวางสเปกในโครงการ เพื่อที่จะตอบสนองต่อความต้องการของเจ้าของโครงการ สถาปนิก ผู้รับเหมาได้อย่างรวดเร็ว คอนวูดจะไม่ใช่เพียงบริษัท Supplier สำหรับงานโครงการอีกต่อไป แต่จะก้าวสู่ความเป็น Business partner โดยได้เริ่มโครงการนี้กับแลนด์แอนด์เฮาส์มาเป็นระยะเวลาประมาณครึ่งปีแล้ว และกำลังจะขยายต่อ โดยมีแผนการในการพัฒนาความสัมพันธ์จากบริษัท Supplier สู่ Business Partner กับงานโครงงาน

- ให้คำปรึกษาหรือแนะนำในเรื่องรูปแบบการประยุกต์ใช้งานที่หลากหลายของผลิตภัณฑ์คอนวูด โดยจัดทีมขายพร้อมติดตั้งแนะนำสินค้า

- เพิ่มความหลากหลายของรูปแบบผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความหลากหลายของงานโครงการ

- รับสั่งทำสินค้า ไม่ว่าจะเป็นขนาดหรือแบบตามที่ลูกค้าต้องการ (เฉพาะงานโครงการเท่านั้น)

1.2 เนื่องจากโครงการหมู่บ้านที่มีราคา 10 ล้าน เริ่มชะลอตัว บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวสู่ตลาดระดับกลาง ซึ่งมุ่งเน้นไปที่เจ้าของบ้านมากขึ้น โดยบริษัทฯ ได้ใช้งบในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ด้วยงบประมาณ 34 ล้านบาท ทั้งทางสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ วารสารต่าง ๆ งานแสดงสินค้า และการจัดงานสัมมนาเพื่อให้สินค้า คอนวูดเป็นที่รู้จักมากขึ้น

1. ขยายเข้าสู่ตลาดตกแต่งให้มากขึ้น โดยเข้าหาบริษัทตกแต่งภายในและแนะนำสินค้าเข้าร้านเซรามิคสุขภัณฑ์มากขึ้น

2. เริ่มเข้าสู่ตลาดส่งออกมากขึ้นโดยเน้นไปที่ ตลาดกัมพูชาและเวียดนาม โดยอาศัยเครือข่ายของกลุ่ม Holcim ก่อน และนอกจากนี้ยังรวมไปถึงตลาดส่งออกบริเวณชายแดนได้แก่ ลาว พม่า ด้วยการอาศัยเอเยนต์ทางชายแดนเป็นผู้ติดต่อ

3. สร้างแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และประยุกต์ใช้สินค้าเดิมในฟังก์ชันการใช้งานใหม่

โดยได้ลงทุนพัฒนาทางด้าน R&D และ Product development ของบริษัท เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น นอกจากสินค้าที่ได้ออกไปในปีที่แล้ว เช่น ไม้พื้น ไม้บันได ไม้ผนังบังใบ ไม้ฝา และไม้ตกแต่งผนัง

1. ไม้บังตา

2. ไม้รั้ว

3. ไม้บัวคาดผนัง

4. ไม้บัวพื้นลายใหม่ ๆ เช่น ลายโมเดิรน์ ลายคลาสสิก ไม้บัวพื้นแบบรอยสายไฟ

การประยุกต์ใช้สินค้าเดิมเพื่อฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่ ๆ

1. การใช้ไม้ระแนงทำส่วนตกแต่งผนัง

2. การใช้ไม้เชิงชายและไม้ระแนงประยุกต์ในการตกแต่งสวน

บริษัทได้ทุ่มงบประมาณในการจัดการอบรมแก่พนักงาน ทั้งในและนอกสถานที่ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการจ้างผู้มีความเชี่ยวชาญ เฉพาะด้านให้มาเป็นวิทยากรแก่พนักงานบริษัท หรือการจัดหางานสัมมนาหรือหลักสูตรการอบรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์แก่พนักงานและบริษัท

นอกจากบริษัทจะมีแผนในการพัฒนาความรู้ความสามารถให้แก่พนักงานแล้ว ทางบริษัทได้มีแผนงานเพื่อที่ให้พนักงานได้มีการเติบโตในหน้าที่การงานได้อย่างมั่นคงอีกด้วย เพื่อให้พนักงานได้มีความตั้งใจและมีกำลังใจในการทำงานอย่างเต็มที่ไม่ว่าแผนงานของบริษัทจะดีแค่ไหนแต่หัวใจสำคัญของบริษัทอยู่ที่บุคลากรที่มีศักยภาพ พร้อมที่จะทำงานด้วยความทุ่มเทและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน

คุณปมุข ศุภสาร

ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารและกิจกรรมการตลาด บริษัท คอนวูด จำกัด

คุณนริศ ศรัทธาสมบูรณ์

ผู้จัดการฝ่ายโรงงาน บริษัท คอนวูด จำกัด

นาย ปมุข ศุภสาร ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารและกิจกรรมการตลาด บริษัท คอนวูด กล่าวถึงโฆษณาชุดใหม่ชื่อชุด Psychic (พลังจิต) ที่กำลังเปิดตัวของบริษัท ที่ต้องการนำเสนอถึงคุณสมบัติอันโดดเด่นของไม้เชิงชายคอนวูด ที่ขจัดปัญหาเรื่องหดตัวของเนื้อไม้ จึงไม่มีอาการบิดงอ ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ไร้ปัญหาเรื่องปลวก ผลิตด้วยเทคโนโลยี "สีเขียว" จากสวิตเซอร์แลนด์

1.การผสมวัตถุดิบ เป็นการเตรียมเยื่อกระดาษผสมกับปูนซีเมนต์เข้าเครื่องผสม

2.การขึ้นรูปแผ่นผลิตภัณฑ์ ให้เป็นแผ่นตามขนาดความกว้างและหนาของสินค้าแต่ละชนิด

3.ขบวนการเซตตัว

4.การอบไล่ความชื้น เป็นการทำให้ซีเมนต์แห้งเพื่อให้มีคุณสมบัติทางกลที่ถูกต้อง

5.แปรรูปทั้ง ตัด ไส เซาะร่องเอาชิ้นงานที่เป็นแผ่นบอร์ดมาตัดและแต่งให้ได้ตามแบบที่ต้องการ

6.ทาสีรองพื้น เมื่อแห้งแล้วบรรจุหีบห่อ

โดยมีรายละเอียดดังนี้  ผสมเยื่อกระดาษกับปูนซีเมนต์เข้าเครื่องผสมขึ้นรูปเป็นแผ่น (forming mold) โดยมีสูตรที่แตกต่างกันไปตามผลิตภัณฑ์ โดยใช้เครื่องจักรขึ้นรูปเป็นแผ่น มีความหนาแตกต่างกัน เช่น ไม้เชิงชายหนา 7 มม. ไม้ระแนง 11 มม. ไม้พื้น 20 มม. เมื่อได้ความหนาตามต้องการ นำมาตัดตามขนาด จากนั้นเรียงซ้อนทับกันโดยมีชิ้นงาน 1 แผ่น และมีแผ่น plate (แผ่นเหล็ก) ซ้อนทับอีกที เพื่อให้ชิ้นงานตรงและเรียบ จากนั้นนำมาอบบ่มขั้นที่ 1 เนื่องจากแผ่นบอร์ดมีความชื้นมากประมาณ 34% ซึ่งถ้าเอามือกดดู ชิ้นงานจะมีการยุบตัวได้ ฉะนั้นในขั้นตอนแรกจะเป็นการอบไอน้ำโดยมีความร้อนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อให้ชิ้นงานมีความแข็งแรงพร้อมที่จะนำไปถอดแบบได้ ซึ่งการอบขั้นที่ 1 ใช้เวลาประมาณ 16 ชั่วโมง จากนั้น นำมาแยกชิ้นงานกับแผ่น plate เมื่อได้ชิ้นงานแล้วนำไปบ่มขั้นที่ 2 อีก 16 ชั่วโมง เพื่อให้บอร์ดแข็งขึ้น จากนั้นทำการอบแห้ง (dryer) เพื่อให้แผ่นบอร์ดที่ชื้นมีความแข็งและคุณสมบัติทางกลต่างๆ อีก 6 ชั่วโมง จนแห้ง หลังจากได้แผ่นบอร์ดที่แห้งแล้ว ทำการขัดด้านหน้าเพื่อให้เกิดเสี้ยนไม้เล็ก ๆ ซึ่งถ้าเอามือลูบดูจะรู้สึกเหมือนกับไม้ธรรมชาติจริง ๆ จากนั้นนำมาตกแต่งลบมุมและทำสีแล้วแพ็กและจัดเก็บเพื่อส่งต่อลูกค้า

บริษัท คอนวูด จำกัด มีกระบวนการผลิตที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยได้รับประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานสากลการจัดการด้านคุณภาพ ISO 9001:2000 ตั้งแต่ปี 2548 และได้รับประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ISO 14001 ปี 2549 และปี 2550 อยู่ระหว่างการดำเนินการยื่นขอประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมระบบการจัดการชีวอนามัยและความปลอดภัย ISO 18000 ซึ่งคาดไว้ว่าน่าจะได้รับภายในปี 2550

บริษัท คอนวูด จำกัด เลขที่ 199 อาคารคอลัมน์ทาวเวอร์ ชั้น 7-12 ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110