เนื้อหาวันที่ : 2011-12-22 16:51:15 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2312 views

คอนเนอร์ยีคว้างานสร้างโซลาร์ฟาร์มให้กับช.การช่าง

คอนเนอร์ยีปลื้มได้รับเลือกจาก ช.การช่าง ให้เป็นผู้จัดหารชิ้นส่วนและเป็นที่ปรึกษาด้านวิศกรรมและการออกแบบโครงการโซลาร์ฟาร์มแห่งใหม่ขนาด 9 เมกกะวัตต์

คอนเนอร์ยีปลื้มได้รับเลือกจาก ช.การช่าง ให้เป็นผู้จัดหารชิ้นส่วนและเป็นที่ปรึกษาด้านวิศกรรมและการออกแบบโครงการโซลาร์ฟาร์มแห่งใหม่ขนาด 9 เมกกะวัตต์

คอนเนอร์ยี เผย น้ำท่วมไม่กระทบธุรกิจ พร้อมยืนยันประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้านการผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์

คอนเนอร์ยี ได้รับเลือกจาก บริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) ให้เป็นผู้จัดหาชิ้นส่วนและร่วมกันทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมและการออกแบบโครงการก่อสร้างโรงผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ขนาด 9 เมกะวัตต์ ในประเทศไทย

นอกจากนี้ คอนเนอร์ยีจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรในประเทศไทย คือ บริษัท เอ็นซิส จำกัด (Ensys) ผู้ซึ่งจะให้บริการด้านวิศวกรรมและการติดตั้งชิ้นส่วนต่าง ๆ ในโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ โรงผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ดังกล่าวมี บริษัท บางเขนชัย จำกัด (ในเครือบริษัท ช.การช่าง) เป็นผู้รับเหมาร่วมในการก่อสร้างด้วย

โซลาร์ฟาร์มแห่งใหม่นี้มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2555 โดยโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ 79,000 ตารางเมตร ในอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพฯ ประมาณ 259 กม. เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จคาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 12,778 เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี และสามารถป้อนกระแสไฟฟ้าให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้เกือบ 4,000 ครัวเรือน นอกจากนี้ยังช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ประมาณ 7,000 ตันต่อปี

สำหรับบริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) โซลาร์ฟาร์มแห่งนี้เป็นก้าวย่างสำคัญอีกขั้นของบริษัท ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมายาวนานถึง 40 ปี ในด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่โดดเด่นทั้งในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแล้วหลายโครงการ โซลาร์ฟาร์มขนาด 9 เมกะวัตต์ แห่งนี้นับเป็นโซลาร์ฟาร์มแห่งที่ 4 ที่คอนเนอร์ยีมีส่วนร่วมก่อสร้างในประเทศไทย และถือเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องของโครงการโซลาร์ฟาร์มในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ผู้บริหารจากทั้งสามบริษัทยอมรับว่า การตัดสินใจของประเทศไทยที่จะเพิ่มเป้าหมายการใช้พลังงานหมุนเวียนให้เป็นร้อยละ 25 ของการใช้พลังงานโดยรวมภายในปี 2565 นั้นจะเป็นรากฐานสำคัญที่จะรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์

“อุทกภัยในประเทศไทยเป็นปัญหาที่ท้าทายอย่างมากแต่จะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อแผนการก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มในประเทศไทยของเรา หรือหากมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นเราถือว่าสภาวะอากาศที่รุนแรงในประเทศไทยและที่เราได้พบเห็นในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกจะเป็นเหตุผลสนับสนุนให้มีการก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มมากขึ้น เพราะเป็นแหล่งพลังงานที่สะอาด ยั่งยืน และปลอดภัย” มร.อเล็กซานเดอร์ เลนซ์  ประธานประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง บริษัท คอนเนอร์ย รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์ยี สิงคโปร์ จำกัด กล่าว

“ผมรู้สึกภูมิใจในขีดความสามารถของทีมงานคอนเนอร์ยีประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างมาก ที่ได้รับเลือกทำการก่อสร้างในโครงการใหม่นี้ เพื่อจะได้มีส่วนร่วมก่อสร้งโซลาร์ฟาร์มที่สำคัญอีกแห่งในประเทศไทย แม้ล่าสุดต้องประสบกับภัยธรรมชาติร้ายแรงที่เกิดจากสภาพอากาศที่รุนแรงก็ตาม และเป็นอีกครั้งที่ความสำเร็จของทีมงานได้ตอกย้ำความแข็งแกร่งของคอนเนอร์ยีในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเติบโต

ซึ่งสอดรับกับความสำเร็จของคอนเนอร์ยีในประเทศอินเดีย ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง ลูกค้าได้ให้ความไว้วางใจโซลูชั่นคุณภาพสูงของบริษัท เพราะต่างทราบว่าคอนเนอร์ยีมีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แม้ในสภาพแวดล้อมที่แสนท้ายทาย “ มร.มาร์ก โลฮอฟฟ์  รองประธานฝ่ายจัดการองค์กรและประธาน ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง ของคอนเนอร์ยี กล่าวเสริม

“เห็นได้ชัดว่าในอนาคตเราจะให้ความสนใจในแหล่งพลังงานหมุนเวียน ที่ส่งผลกระทบน้อยและมีความยั่งยืนมากขึ้น และแผนพัฒนาพลังงานของประเทศไทยยังมุ่งเน้นและสอดคล้องกับแนวโน้มดังกล่าวเรายินดีมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการโซลาร์ฟาร์มขนาด 9 เมกะวัตต์แห่งนี้ของบริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) พร้อมกับคอนเนอร์ยี เพื่อจัดหาพลังงานสะอาดและยั่งยืนให้แก่ชุมชนของเรา” นายชุมพล ปทานุคม กรรมการบริหาร บริษัท เอ็นซีส จำกัด กล่าว