เนื้อหาวันที่ : 2011-12-20 15:09:08 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2106 views

DRT มั่นใจตลาดวัสดุก่อสร้างปี 55 คึกคัก

ผลิตภัณฑ์ตราเพชร มั่นใจวัสดุก่อสร้างปี 55 คึก ชี้สินค้ากลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์มาแรง หลังผู้บริโภคขยาดน้ำท่วม

          ผลิตภัณฑ์ตราเพชร มั่นใจวัสดุก่อสร้างปี 55 คึก ชี้สินค้ากลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์มาแรง หลังผู้บริโภคขยาดน้ำท่วม ตีปีกรับสายการผลิต NT-10 เดินเครื่องกลางปี ดันเป้าขายรวมโต 10%

          ‘ผลิตภัณฑ์ตราเพชร’ ชี้แนวโน้มตลาดวัสดุก่อสร้างปี 55 คึกคัก หลังจากภาครัฐเดินหน้าลงทุนฟื้นฟูประเทศเรียกความเชื่อมั่นต่างชาติ ขณะที่ผู้บริโภคเร่งซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังน้ำลด ดันความต้องการสินค้ากลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์มาแรง คาดตลาดโตกว่า 50% หลังลูกค้าปรับพฤติกรรมเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่สามารถทนน้ำท่วม สบช่องลุยทำตลาดเต็มสูบรับสายการผลิต NT-10 พร้อมเดินเครื่องจักรกลางปี กำลังการผลิต 7.2 หมื่นตัน ตั้งเป้าสิ้นปีหน้า ยอดขายโต 10%

          นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ พื้นไม้ลามิเนต แผ่นบอร์ด ยิปซัม และบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 2555 ว่า

เชื่อว่าจะมีความคึกคักมากขึ้น หลังจากที่ภาครัฐมีนโยบายลงทุนในระบบสาธารณูปโภคเพื่อฟื้นฟูประเทศ รวมทั้งป้องกันอุทกภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับประชาชนจะเริ่มทยอยซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำท่วม ส่งผลให้ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

          ทั้งนี้ คาดว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ จะได้รับความนิยมจากลูกค้ามากขึ้น เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่ได้รับการพิสูจน์ว่ามีความทนทานและได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมครั้งนี้น้อยมาก เมื่อเทียบกับวัสดุก่อสร้างชนิดอื่นๆ

อีกทั้งความหลากหลายของผลิตภัณฑ์กลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์ที่สามารถผลิตเป็นกลุ่มสินค้าไม้สังเคราะห์ หรือผลิตเป็นสินค้ากลุ่มแผ่นบอร์ด เช่น ฝ้า เพดาน ผนัง โดยประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้านำไปซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ส่งผลให้ตลาดผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ในปี 2555 จะเติบโตเพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปีนี้ที่มีมูลค่า 20,000 ล้านบาท

          “น้ำท่วมครั้งนี้ส่งผลต่อพฤติกรรมการเลือกซื้อวัสดุก่อสร้าง ที่ผู้บริโภคมองหาสินค้าเพื่อนำไปซ่อมแซมหรือสร้างใหม่ โดยจะต้องมีคุณสมบัติสามารถแช่น้ำได้นานโดยไม่รับความเสียหาย ซึ่งสินค้ากลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์มีความเหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า อีกทั้งเทคโนโลยีการก่อสร้างสมัยใหม่ต่างเลือกใช้สินค้ากลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์เพื่อลดต้นทุนก่อสร้าง จึงมั่นใจเชื่อว่าสินค้ากลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์จะได้รับความนิยมนำมาใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างมากยิ่งขึ้น” นายสาธิต กล่าว

         นายสาธิต กล่าวด้วยว่า จากแนวโน้มความต้องการดังกล่าว บริษัทฯ คาดว่าจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของผลิตภัณฑ์ตราเพชร เนื่องจากบริษัทฯ มีความพร้อมด้านการผลิตสินค้ากลุ่มไฟเบอร์ซีเมนต์ หลังสายการผลิต NT-10 ซึ่งเป็นสายการผลิตไฟเบอร์ซีเมนต์ กำลังการผลิต 72,000 ตัน ที่ใช้เงินลงทุน 480 ล้านบาท จะสามารถเริ่มเดินเครื่องได้กลางปี 2555

โดยสายการผลิตดังกล่าว จะผลิตสินค้าไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด ที่มีความหนาตั้งแต่ 3.5-12 มิลลิเมตร เพื่อนำไปใช้ในการก่อสร้างทั้ง ฝ้า เพดานและผนัง และยังสามารถรองรับแผนทำตลาด ‘ไดมอนด์วอลล์’ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการก่อสร้างผนังสำเร็จรูปที่สามารถใช้แผ่นบอร์ดมาเป็นโครงผนังขึ้นรูป ที่ช่วยลดต้นทุนและเวลาการก่อสร้างอาคารสูง ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสร้างโอกาสการขายสินค้าจากสายการผลิต NT-10 ได้เป็นจำนวนมาก

          ทั้งนี้ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร  ตั้งเป้าว่าสายการผลิต NT-10 จะสร้างรายได้ให้ประมาณ 300-500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการผลักดันยอดขายผลิตภัณฑ์ตราเพชรให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปี 2555 จะทำยอดขายรวมเติบโตขึ้นได้ 10% เมื่อเทียบกับเป้ายอดขายในปีนี้