พลังงาน ออกประกาศสัมปทานปิโตรเลียม รอบที่ 20 เดือนพ.ค.นี้ อีก 65 แปลง คาดยังมีนักลงทุนสนใจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในไทย เหตุราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูง จูงใจพัฒนาแหล่งใหม่ ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงในการจัดหาพลังงาน

ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามสัมปทานปิโตรเลียม ว่า ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงในการจัดหาพลังงาน ซึ่งปัจจุบันมีการผลิตปิโตรเลียมจากแหล่งผลิตในประเทศแล้วรวม 40 แหล่ง เป็นแหล่งบนบก 19 แหล่ง และในอ่าวไทย 21 แหล่ง

ขณะเดียวกันการพัฒนาปิโตรเลียม ก็ยังช่วยสร้างรายได้เข้ารัฐ โดยมีรายได้เป็นค่าภาคหลวงปิโตรเลียมจากผู้รับสัมปทานในประเทศ และผู้ประกอบการในพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย รอบ 6 เดือนที่ผ่านมา เป็นเงิน 17,000 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีงบประมาณ 2550 รัฐจะมีรายได้จากการประกอบกิจการปิโตรเลียมเป็นเงิน 91,550 ล้านบาท

ขณะนี้กระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างการแก้ไขปรับปรุงพรบ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 เพื่อเพิ่มมาตรการส่งเสริมและเร่งรัดให้มีการลงทุนสำรวจและพัฒนาปิโตรเลียมในแหล่งขนาดเล็ก หรือแหล่งที่มีการผลิตลดลง โดยกำหนดเพดานและระยะเวลาการลดหย่อนค่าภาคหลวงปิโตรเลียมในพื้นที่ดังกล่าวให้เหมาะสมขึ้น รวมถึงการกำหนดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และการรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียมให้ชัดเจน

นอกจากนี้ยังปรับปรุงขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติ อนุญาตเกี่ยวกับการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งขณะนี้ร่างพรบ.ฉบับดังกล่าว อยู่ระหว่างการตรวจแก้ไขของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2550 จากนั้นจะเสนอครม. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติออกประกาศเป็นกฎหมายต่อไป

 .

นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมออกประกาศเชิญชวนให้มีการยื่นขอสัมปทานปิโตรเลียมครั้งที่ 20 ในช่วงเดือนพฤษภาคม โดยจะเปิดให้ยื่นขอสัมปทานในแปลงสำรวจทั้งหมด 65 แปลง เป็นแปลงบนบก 56 แปลง และในทะเลอ่าวไทย 9 แปลง ส่วนแปลงในทะเลอันดามันบริเวณน้ำตื้นติดชายฝั่งนั้นจะมีการชะลอไว้ก่อน เพื่อรอดูผลการสำรวจในทะเลอันดามันน้ำลึกที่กระทรวงพลังงานได้ให้สัมปทานในการประกาศเชิญชวนครั้งที่ 19 ที่ผ่านมา

 .

ทั้งนี้คาดว่าการประกาศเชิญชวนรอบใหม่ยังคงมีนักลงทุนสนใจเข้ามาพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมในประเทศไทย เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และเทคโนโลยีมีความทันสมัย ทำให้การสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งขนาดเล็กมีความคุ้มค่าในการลงทุนมากขึ้น

สำหรับการประกาศ ครั้งที่ 19 นั้น ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยได้มีการให้สัมปทานเพื่อสิทธิในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำนวน 16 สัมปทาน ครอบคลุม 21 แปลง เป็นแปลงบนบก 9 แปลง อ่าวไทย 9 แปลง และทะเลอันดามัน 3 แปลง ทำให้เกิดการลงทุนในกิจกรรมสำรวจปิโตรเลียมในระยะ 3 ปีข้างหน้า เป็นเงิน 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรัฐได้รับผลประโยชน์ในรูปโบนัสลงนาม ทุนการศึกษา และทุนฝึกอบรม ประมาณ 5 ล้านดอลลาร์ รวมเป็นเงิน 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,150 ล้านบาท

 .

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์