เนื้อหาวันที่ : 2011-11-04 16:21:56 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2026 views

ผู้ถือหุ้น BWG ไฟเขียวส่ง อัคคีปราการ เข้า mai

ผู้ถือหุ้น BWG ไฟเขียวส่งบริษัทย่อย อัคคีปราการ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดทางแผนเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 84 ล้านหุ้น เพิ่มทุนเป็น 202 ล้านบาท

          ผู้ถือหุ้น BWG ไฟเขียวส่งบริษัทย่อย อัคคีปราการ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดทางแผนเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 84 ล้านหุ้น เพิ่มทุนเป็น 202 ล้านบาท

          ผู้ถือหุ้น BWG ไฟเขียวส่งบริษัทย่อย "อัคคีปราการ" เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เปิดทางแผนเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 84 ล้านหุ้น ด้วยการเพิ่มทุนจาก 160 ล้านบาท เป็น 202 ล้านบาท ที่ราคาพาร์ 0.50 บาท พร้อมให้ผู้ถือหุ้น BWG จองซื้อก่อนไม่เกิน 21 ล้านหุ้นหรือ 25% ของหุ้น IPO เพื่อบรรเทาผลกระทบจาก Dilution Effect ตามมติบอร์ด "สุวัฒน์ เหลืองวิริยะ" เผยผู้ถือหุ้นเข้าใจ เพราะช่วยให้อัคคีปราการขยายธุรกิจได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น เตรียมเดินหน้าตามขั้นตอนต่อไป

          นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ผู้ประกอบธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจรทั้งฝังกลบ เผาทำลาย และนำกลับมาใช้ใหม่รายเดียวในประเทศไทย กล่าวภายหลังการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2554ว่า

ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแผนการนำบริษัทย่อย คือ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด หรือ AKP ผู้ได้รับสิทธิบริหารศูนย์บริหารจัดการวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรม (เตาเผาขยะอุตสาหกรรม)บางปู จ.สมุทรปราการ จากกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นระยะเวลา 20 ปี เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai)

พร้อมเห็นชอบแผนการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 160,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 202,000,000 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 84,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 20.79ของทุนชำระแล้วภายหลังการเสนอขาย ตามที่คณะกรรมการเสนอ

          เขากล่าวอีกว่า การที่ผู้ถือหุ้นลงมติอนุมัติให้ อัคคีปราการ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เพราะเข้าใจถึงผลดีที่จะเกิดขึ้นกับอัคคีปราการในอนาคต เนื่องจากจะสามารถขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น รองรับโอกาสทางธุรกิจได้อย่างทันท่วงที เนื่องจากปัจจุบันพบว่าธุรกิจเผาทำลายกากอุตสาหกรรมมีทิศทางเติบโตอย่างโดดเด่น

ซึ่งจะเห็นได้จากผลประกอบการของบริษัทฯ ที่เติบโตในอัตราค่อนข้างสูงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น จากการศึกษาพบว่าธุรกิจดังกล่าวสามารถต่อยอดไปสู่การผลิตไฟฟ้าได้ในอนาคตอีกด้วย ดังนั้นหากเปิดทางให้อัคคีปราการสามารถระดมทุนได้ด้วยตัวเอง เชื่อว่าจะทำให้บริษัทฯ เติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาวได้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่ออัคคีปราการอย่างแท้จริง

          “ผู้ถือหุ้นลงมติเห็นชอบให้อัคคีปราการเข้าจดทะเบียนใน mai ได้ตามที่บอร์ดเสนอ เพราะเข้าใจในสถานการณ์ทางธุรกิจ ที่ผ่านมาจะเห็นว่าธุรกิจเติบโตได้ดี แต่มีข้อจำกัดเรื่องการระดมทุน เนื่องจาก BWG ไม่สามารถเข้าลงทุนใน อัคคีปราการได้อย่างเต็มที่ เพราะจะต้องลงทุนขยายงานในธุรกิจหลักคือการฝังกลบก่อน เนื่องจากธุรกิจมีการเติบโตในทิศทางเดียวกัน ดังนั้น การเปิดทางให้อัคคีปราการสามารถระดมทุนได้เองก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี ที่จะทำให้บริษัทฯ ขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัวในระยะยาว” นายสุวัฒน์ กล่าว

          นอกจากนั้น ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ยังได้เห็นชอบตามคณะกรรมการที่จะให้สิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญของ อัคคีปราการแก่ผู้ถือหุ้นสามัญทุกรายของบริษัทฯตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Rights) จำนวนรวมไม่เกิน 21,000,000หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 25.00 ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายต่อประชาชน 84,000,000 หุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.20 ของทุนชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)

เพื่อลดผลกระทบ จาก Dilution Effect เนื่องจากภายหลังการเสนอขายหุ้นดังกล่าวต่อประชาชน จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน AKP ของ บริษัทฯ ต้องลดลงจากร้อยละ 64.62 เหลือร้อยละ 51.18 หรือคิดเป็นอัตราลดลง (Dilution Effect) เท่ากับร้อยละ 20.79 และเป็นผลให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากส่วนแบ่งกำไรและ/หรือสิทธิในการออกเสียงลดลงในสัดส่วนเดียวกันด้วย