เนื้อหาวันที่ : 2011-11-03 10:34:18 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1829 views

ศปภ. ย้ำเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ สนง.ปรมาณูเพื่อสันติ ปลอดภัยจากน้ำท่วม

ศปภ. วอนประชาชนอย่าห่วงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ปลอดภัย น้ำท่วมไม่ถึงแน่นอน หวังระดับน้ำเจ้าพระยาลดต่ำกว่าระดับน้ำประตูจุฬาฯ จะระบายน้ำได้มากขึ้น

          ศปภ. วอนประชาชนอย่าห่วงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ปลอดภัย น้ำท่วมไม่ถึงแน่นอน หวังระดับน้ำเจ้าพระยาลดต่ำกว่าระดับน้ำประตูจุฬาฯ จะระบายน้ำได้มากขึ้น

          ศปภ. คาดหากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงน้ำทะเลลดต่ำกว่าระดับน้ำประตูจุฬาฯ จะสามารถเปิดประตูเพื่อระบายน้ำจากตอนเหนือกรุงเทพฯ สู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้มากขึ้น ย้ำเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ สนง.ปรมาณูเพื่อสันติ ถนนวิภาวดีฯ อยู่สูง 8.70 ม. ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขอประชาชนอย่าวิตกกังวล 

          ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ เลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย แถลงรายงานสถานการณ์อุทกภัย โดยสรุปว่า สถานการณ์น้ำภาพรวมวันนี้ปริมาณน้ำด้านตอนเหนือของประเทศตั้งแต่ด้านใต้จังหวัดนครสวรรค์ลงมา ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับเมื่อวานนี้ ทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาด้านท้าย

รวมถึงระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ที่จังหวัดปทุมธานีมีระดับลดลงอย่างต่อเนื่อง 3 วันแล้ว ซึ่งคาดการณ์ว่าถ้าระดับน้ำยังเป็นลักษณะนี้ต่อไป อีกไม่กี่วันจากนี้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ในช่วงน้ำทะเลลดต่ำลงนั้น น่าจะมีโอกาสลดต่ำกว่าระดับน้ำในประตูจุฬาลงกรณ์ ซึ่งจะทำให้สามารถเปิดประตูระบายน้ำเพื่อระบายน้ำจากพื้นที่ตอนเหนือของกรุงเทพฯ ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้มากขึ้น และสามารถระบายน้ำได้เร็วขึ้น

ขณะเดียวกันกรมชลประทานได้ทำการหน่วงน้ำบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเหมือนกับเมื่อวานนี้ เพื่อลดปริมาณน้ำที่ไหลลงฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ที่ฝั่งธนบุรี ให้ได้จำนวนประมาณ 60 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ภายใน 12 พ.ย.นี้ โดยจะค่อย ๆ ลดลงเป็นระยะ อันจะทำให้น้ำที่ไหลเข้าพื้นที่ฝั่งตะวันตกลดลง รวมทั้งทำให้เร่งระบายน้ำทางฝั่งตะวันตกได้เพิ่มมากกว่าน้ำที่ไหลเข้า

          ส่วนการแก้ไขปัญหาบริเวณคลองสามวา ขณะนี้มีการชะลอการระบายน้ำจากด้านทิศเหนือ ซึ่งเป็นตอนบนของคลองสามวาบริเวณแนวคลองรังสิตที่รังสิตคลอง 8 -10 เพื่อจะลดปริมาณน้ำลงระดับหนึ่ง ให้น้ำที่ไหลลงคลองสามวา สามารถที่จะลดปัญหาความกระทบกระเทือนถึงบริเวณชุมชนในแถบนั้น และเร่งการระบายน้ำเข้าสู่คลองแสนแสบให้เต็มศักยภาพ โดยยึดหลักการรักษาพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจไว้

ขณะที่การท่วมขังของระดับน้ำในกรุงเทพฯ วันนี้มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อวาน โดยตอนเหนือของกรุงเทพฯ มีน้ำไหลมาตามแนวถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดี-รังสิต ที่คืบหน้ามาถึงแนวถนนพหลโยธินตัดถนนรัชดาภิเษก เลยแยกเสนานิคมเล็กน้อย รถเล็กไม่สามารถสัญจรบนถนนวิภาวดี-รังสิตได้ ส่วนพื้นที่ฝั่งตะวันตกมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นทุกเขตโดยเฉพาะเขตตลิ่งชัน บางพลัด หนองแขม และทวีวัฒนา รวมตลอดถึงพื้นที่บางส่วนของเขตบางแคและเขตภาษีเจริญ

ขณะเดียวกันที่ฝั่งตะวันออกก็มีระดับน้ำสูงขึ้นในบริเวณเขตสายไหม ริมคลองลาดพร้าว และเขตมีนบุรี ถนนหทัยราษฎร์ ซึ่งสรุปได้ว่าพื้นที่กรุงเทพฯ มีน้ำเพิ่มขึ้นในหลายเขตสอดคล้องกับประกาศแจ้งเตือนหรือแจ้งข่าวจากกรุงเทพมหานคร

โดยกรุงเทพมหานครได้ประกาศให้เขตจตุจักรบางพื้นที่ เขตหนองแขม เขตคลองสามวา และเขตลาดพร้าว เป็นพื้นที่อพยพเพิ่มเติม และแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่บริเวณเขตภาษีเจริญตอนบนติดกับเขตหนองแขม เตรียมตัวเก็บของเผื่อเตรียมการอพยพด้วย

          ส่วนกรณีที่ประชาชนแสดงความกังวลเกี่ยวกับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ (เครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูวิจัย)ที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ถนนวิภาวดี-รังสิต ที่อาจได้รับผลกระทบกับน้ำที่ขึ้นสูงนั้น ยืนยันว่า เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ดังกล่าวติดตั้งอยู่ในสระน้ำที่อยู่สูงกว่าระดับพื้นถนนวิภาวดี-รังสิต 8.70 เมตร จึงเป็นไปได้ยากที่น้ำจะท่วมเข้าถึงเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ รวมทั้งฝาผนังของสระน้ำก็หนา 1 เมตร ซึ่งผู้บริหารของทั้งสองหน่วยงานยืนยันเชื่อมั่น 100 เปอร์เซ็นต์ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จึงขอย้ำให้ประชาชนอย่าวิตกกังวล

          สำหรับสถานการณ์น้ำประปานั้น การประปานครหลวง (กปน.) ได้พยายามแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำดิบที่ด้อยคุณภาพเนื่องจากมีน้ำรั่วไหลเข้าระบบคลองประปา โดยกปน. ได้เติมสารเคมีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตกตะกอนและฆ่าเชื้อโรค รวมทั้งล้างบ่อกรองน้ำให้บ่อยขึ้น เพื่อให้ประชาชนมั่นใจในคุณภาพน้ำประปา

ทั้งนี้น้ำประปาอาจมีกลิ่นคลอรีนในช่วงนี้มากกว่าปกติ แต่ยืนยันว่าปริมาณคลอรีนไม่เกินกว่าค่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนด ซึ่งประชาชนสามารถกำจัดกลิ่นคลอรีนได้ด้วยการรองน้ำตั้งทิ้งไว้ 30 นาที หรือต้มน้ำโดยเปิดฝาภาชนะเพื่อให้คลอรีนระเหยไปได้

          ด้านความคืบหน้าในการแก้ไขการผลิตน้ำที่โรงผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ในวันนี้สามารถปรับกำลังการผลิตได้ที่ 850,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันซึ่งใกล้เคียงกำลังการผลิตเดิม 900,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันแล้ว ดังนั้นสถานการณ์การใช้น้ำฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ด้านฝั่งธนบุรีจึงใกล้เหมือนเดิมแล้ว

ขณะที่การเร่งทำแนวกั้นน้ำด้วยถุงทรายขนาดใหญ่หรือบิ๊กแบ็คด้านตอนเหนือของกรุงเทพฯ บริเวณประตูน้ำจุฬาลงกรณ์โดยกระทรวงคมนาคมร่วมกับกองทัพไทย และกทม. เพื่อจะลดการไหลของน้ำทางตอนเหนือที่เข้ามาด้านถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดี-รังสิต นั้น มีความคืบหน้าทำได้ 4 กิโลเมตรจาก 6 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเช้าวันศุกร์ที่ 4 พ.ย.นี้ ซึ่งจะส่งผลให้น้ำที่ไหลเข้าตอนเหนือกรุงเทพฯ มีสถานการณ์ดีขึ้น