เนื้อหาวันที่ : 2007-04-19 09:51:39 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 943 views

สหประชาชาติ เตือน ศก.ไทยมีสิทธิโตแค่ 3% ต่ำสุดในอาเซียน

เอสแคปส่งสัญญาณเตือนไทย ชี้จีดีพีปีนี้มีสิทธิวูบเหลือ 3% โตต่ำสุดในอาเซียน ชี้ชัดสาเหตุหลักมาจากปัญหาการเมือง จี้รัฐหามาตรการดูแลบาทไม่ให้แข็งค่าไปมากกว่านี้ แต่ต้องไม่ช็อคตลาดซ้ำรอยเดิม ติงค่าบาทไม่นิ่งจะสร้างปัญหาตลอดทั้งปี ขณะที่คลังยังเสียงแข็งยืนเป้าปีนี้โต 4-4.5% เหมือนเดิม

เอสแคปส่งสัญญาณเตือนไทย ชี้จีดีพีปีนี้มีสิทธิวูบเหลือ 3% โตต่ำสุดในอาเซียน ชี้ชัดสาเหตุหลักมาจากปัญหาการเมือง จี้รัฐหามาตรการดูแลบาทไม่ให้แข็งค่าไปมากกว่านี้ แต่ต้องไม่ช็อคตลาดซ้ำรอยเดิม ติงค่าบาทไม่นิ่งจะสร้างปัญหาตลอดทั้งปี ขณะที่คลังยังเสียงแข็งยืนเป้าปีนี้โต 4-4.5% เหมือนเดิม

.

ชิเกรุ โมชิดะ รองเลขาธิการคณะผู้แทนเศรษฐกิจและสังคม สหประชาชาติ (เอสแคป) แถลงผลการวิเคราะห์เศรษฐกิจและสังคมเอเชียแปซิฟิก ปี 2550 ว่า จากการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในปี 2550 คาดว่าจะขยายตัว 7.6% ลดลงจากปี 2549 ที่ขยายตัว 7.9% เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มชะลอตัว การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นลดลง รวมถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีน และการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก

.

สำหรับประเทศไทย เอสแคปคาดว่าในปี 2550 อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะขยายตัวน้อยกว่าปี 2549 ที่ขยายตัว 4.7% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3.6% ลดลงจากปี 2549 ที่มีอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 4.6% นอกจากนี้ ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่ำที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เอสแคปเห็นว่าไทยควรเร่งดูแลปัญหาเรื่องการจัดการค่าเงินบาทให้มีเสถียรอยู่ในระดับที่เหมาะสม

.

"ปัญหาค่าเงินบาทที่ไม่นิ่งจะยังคงเป็นปัญหาต่อเนื่องตลอดปี 2550 และจนถึงขณะนี้ไทยยังไม่มีมาตรการดูแลการเงินในระยะยาวที่เหมาะสมพอ ฉะนั้น รัฐบาลควรเร่งดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทต้องแข็งค่าไปมากกว่านี้ พร้อมทั้งออกนโยบายการเงินที่เป็นอิสระ และยืดหยุ่นอัตราแลกเปลี่ยนจะเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ไม่ส่งผลกระทบต่อตลาด หรือทำให้ตลาดเงินต้องตกใจเหมือนเมื่อปลายปี 2549 ตลอดจนช่วยลดการเก็งกำไรขาเดียวที่ลงทุนเพื่อหวังผลกำไรเกินควร" รองเลขาธิการเอสแคปกล่าว

.

ราช คูมาร์ ที่ปรึกษาอาวุโสเอสแคป กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2550 คงจะขยายตัวต่ำกว่า 4.7% ซึ่งหากมองแต่ปัจจัยบวกคาดว่าน่าจะอยู่ที่ 4.5% แต่ก็เป็นไปได้ที่จะขยายตัวเพียง 3% เนื่องจากราคาน้ำมันที่ค่อนข้างผันผวน ประกอบกับไทยพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก ทำให้ต้องนำเข้าพลังงานและวัตถุดิบจำนวนมาก นอกจากนี้ เอสแคปยังว่าเศรษฐกิจไทยโดยพื้นฐานถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก

.

"รัฐควรเร่งการลงทุนภาครัฐ เช่น โครงสร้างพื้นฐานให้มีความคืบหน้า พร้อมทั้งผลักดันการส่งออกให้เต็มที่ เชื่อว่าจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ดี แต่จากการเมืองที่ไม่นิ่ง ทำให้การลงทุนภาครัฐและเอกชนชะลอตัว ความเชื่อมั่นการบริโภคลดลงต่อเนื่อง เพราะการลงทุนขึ้นอยู่กับการส่งสัญญาณ นโยบายต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันทิศทางยังขาดความชัดเจน" ที่ปรึกษาอาวุโสเอสแคปกล่าว

.

นางพรรณ สถาวโรดม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับกระทรวงเศรษฐกิจต่างๆ เพื่อหาแนวทางบรรเทาปัญหาการชะลอตัวของการใช้จ่ายในประเทศว่า ที่ประชุมได้มีข้อสรุปร่วมกัน 6 มาตรการ ประกอบด้วย 1.มาตรการบรรเทาปัญหาประชาชนระดับล่าง 2.มาตรการบรรเทาปัญหาการบริโภคชะลอตัว 3.มาตรการบรรเทาปัญหาการลงทุนชะลอตัว 4.มาตรการบรรเทาปัญหาความเชื่อของนักลงทุนและผู้บริโภคที่ลดลง 5.มาตรการบรรเทาปัญหาการใช้จ่ายของภาครัฐที่ยังไม่ลงไปสู่ภาคเศรษฐกิจ 6.มาตรการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

.

นายสมชัย สัจจพงษ์ ที่ปรึกษาด้านการคลัง สศค. กล่าวว่า ขณะนี้คลังยังยืนยันประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ที่ 4-4.5% เนื่องจากยังมีเวลาอีก 1 เดือนที่จะประเมินปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

.

ที่มา : มติชน