เนื้อหาวันที่ : 2007-04-18 09:36:16 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2176 views

ยูบิส เจ้าตลาดเคมีภัณฑ์ผลิตกระป๋อง เร่งระดมทุน รุกขยายธุรกิจทั่วโลก

บริษัท ยูบิส (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำตลาดยางยาแนวฝากระป๋องและ แล็คเกอร์เคลือบกระป๋องครบวงจรของไทย ระดมทุนครั้งใหญ่เข้าจดทะเบียนในตลาด mai เปิดรายได้ปี 2549 โตต่อเนื่อง

 

บริษัท ยูบิส (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำตลาดยางยาแนวฝากระป๋องและ แล็คเกอร์เคลือบกระป๋องครบวงจรของไทย ระดมทุนครั้งใหญ่เข้าจดทะเบียนในตลาด mai ในเดือนเมษายนนี้พร้อมเดินหน้าขยายตลาดทั่วโลกหลังครองตลาดยางยาแนวฝากระป๋องในประเทศครบวงจร

 

นายสวง ทั่งวัฒโนทัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิส (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตยางยาแนวฝากระป๋องและแล็คเกอร์เคลือบกระป๋องซึ่งเป็นวัสดุจำเป็นสำหรับการผลิตกระป๋อง เปิดเผยว่าบริษัทเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยซึ่งมีจุดแข็งด้านการค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยีด้านการผลิตที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก และมีทีมผู้บริหารมืออาชีพที่มีประสพการณ์ตรงในอุตสาหกรรมมากว่า 20 ปี มีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ที่ทำธุรกิจด้วยกันกว่า 10 ปี ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกับฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีอัตราส่วนหนี้ต่อทุนเพียง 0.34 เท่า

.

รายได้ของบริษัทมาจากผลิตภัณฑ์หลัก 2 กลุ่มคือ ยางยาแนวฝากระป๋องและแล็คเกอร์เคลือบกระป๋อง ซึ่งเป็นวัสดุที่จำเป็นสำหรับการผลิตสินค้าประเภทกระป๋องบรรจุอาหารและเครื่องดื่ม กระป๋องบรรจุสินค้าทั่วไป หลอดอลูมิเนียมและโมโนบลอค รวมถึงฝาประเภทอื่นๆโดยบริษัททำธุรกิจครบวงจรคือเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเองสำหรับตลาดในประเทศ และส่งออกให้แก่ตัวแทนจำหน่ายของบริษัทสำหรับตลาดต่างประเทศ

.

นายสวงกล่าวว่า ในปี 2549  บริษัทมีรายได้รวม 463 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2548 และ 2547 ที่มีรายได้รวม 433 ล้านบาท และ 386 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 6.8 % และ 12% ต่อปี ขณะที่มีอัตราผลกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 29% และมีผลกำไรสุทธิในปี 2549  จำนวน 41 ล้านบาท ใกล้เคียงกับผลกำไรสุทธิ 44 ล้านบาทในปี 2548 และจำนวน 43 ล้านบาทในปี 2547 โดยสาเหตุที่กำไรสุทธิลดน้อยลงทั้งที่มียอดกำไรสุทธิเฉพาะบริษัทสูงขึ้นเป็น 46 ล้านบาทในปี 2549 เนื่องจากบริษัทรับรู้ผลขาดทุนจากการลงทุนในบริษัทย่อยในประเทศจีนที่ได้เข้าครอบครองกิจการในเดือนพฤษภาคม 2549

.

รายได้รวมของบริษัทเป็นรายได้จากการขายในประเทศประมาณ 308 ล้านบาทหรือ 70% ของรายได้ทั้งหมดและรายได้จากการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ 129.3 ล้านบาท คิดเป็น30% ของรายได้ทั้งหมด โดยรายได้จากต่างประเทศมาจากประเทศจีน 18% และจากประเทศอื่นๆ 12% โดยปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตจากตลาดในประเทศ 12% และ จากตลาดส่งออกประมาณ 40% จากความร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท Henkel KGaA บริษัทเคมีภัณฑ์ระดับโลกโดยบริษัทได้ตกลงขายลิขสิทธิ์การผลิตยางยาแนวฝากระป๋องของบริษัทให้บริษัท Henkel KGaA เป็นผู้ทำตลาดในทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา ขณะเดียวกันบริษัทได้ขยายธุรกิจในประเทศจีนอย่างเต็มตัวด้วยการเข้าครอบครองกิจการบริษัท ไวต้า อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง (กว่างโจว) จำกัดซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายซึ่งในปัจจุบันได้ขยายธุรกิจในกลุ่มกระป๋องสเปรย์ซึ่งแพร่หลายอย่างสูงในประเทศจีน  นายสวงกล่าว

.

 

ทางด้านนายสว่าง ทั่งวัฒโนทัย ผู้อำนวยการสายปฏิบัติการ บริษัทยูบิส (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งตลาด 65% ในตลาดยางยาแนวฝากระป๋องในประเทศซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 100-200 ล้านบาทและมีส่วนแบ่งตลาด 15% ในตลาดแล็คเกอร์เคลือบกระป๋องในประเทศซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท โดยได้รับความเชื่อมั่นอย่างสูงจากลูกค้ามากว่า 10 ปี โดยมีกลุ่มลูกค้าหลัก คือ บริษัทผู้ผลิตกระป๋องขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในธุรกิจอาหารกระป๋องส่งออกและปลาทูน่ากระป๋องส่งออก ซึ่งลูกค้าหลักของบริษัทรายหนึ่งเป็นผู้ส่งออกปลาทูน่ากระป๋องที่ใหญ่ที่สุดของโลกรายหนึ่ง บริษัทจึงมีการขยายตลาดอย่างต่อเนื่องและมั่นคง นอกจากนี้บริษัทยังได้ทำตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับกระป๋องบรรจุสินค้าทั่วไป อาทิ กระป๋องสเปรย์ ซึ่งในต่างประเทศมีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ เนื่องจากใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมอาทิ อาหาร เครื่องสำอาง เคมีภัณฑ์ เป็นต้น

.

บริษัทเตรียมนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เพื่อระดมทุนสำหรับการขยายธุรกิจไปยังตลาดโลกอย่างเต็มที่และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของบริษัท และชำระหนี้จำนวนบางส่วนโดยปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 190 ล้านบาท เป็นทุนที่ชำระแล้ว 145 ล้านบาท และได้จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 45,000,000 หุ้น เพื่อเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปจำนวน 41 ล้านหุ้นและพนักงานของบริษัทจำนวน 4 ล้านหุ้น ทั้งนี้ราคาเสนอขายให้แก่พนักงานจะมีส่วน 20% จากราคาที่เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปในวันที่ 26-27 เมษายนนี้ อนึ่งหุ้นเดิมจำนวน 145 ล้านหุ้นและหุ้นที่เสนอขายพนักงานจำนวน 4 ล้านหุ้นติด silent period เป็นระยะเวลา 18 เดือน

..

นางพรพิมล ดำรงศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาด้านการเงินในการทำ IPO ครั้งนี้ กล่าวว่า บริษัทยูบส (เอเชีย) มีความแข็งแกร่งในธุรกิจด้วยศักยภาพของความเป็นผู้นำตลาดยางยาแนวและแลคเกอร์ที่เป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตกระป๋อง ซึ่งมีอนาคตที่เติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้กระป๋องเป็นภาชนะบรรจุทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค เป็นที่ใช้กันทั่วทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นการกระจายความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจของบริษัท

อีกทั้งผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากผู้ผลิตกระป๋องและผู้ใช้กระป๋องมาตลอดการดำเนินงานกว่า 10 ปี ประกอบกับบริษัทมีผู้บริหารและบุคลากรที่มีความสามารถและประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 20 ปีในอุตสาหกรรม ทำให้ประเมินได้ว่ายูบิสเป็นกิจการที่มีพื้นฐานที่ดีและมีโอกาสในการเติบสูง

.

อนึ่ง บริษัทยูบิส (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2540 โดยกลุ่มผู้บริหารที่มีประสบการณ์ระดับสูงกว่า 20 ปีในอุตสาหกรรมเคมี นำโดยนาย สวง ทั่งวัฒโนทัย ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 190,000,000 บาท และรับชำระแล้ว 145,000,000 บาท โดยมีกลุ่มทั่งวัฒโนทัยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัทมีศักยภาพในการรองรับงานเคมีภัณฑ์สำหรับการผลิตกระป๋องได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศที่สำคัญ โดยปัจจุบัน บริษัทมีบริษัทย่อยในประเทศจีน ได้แก่ บริษัท ไวต้า อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง (กว่างโจว) จำกัด เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งสองของบริษัทในประเทศจีน นอกจากนี้บริษัทยังให้สิทธิในการผลิตยางยาแนวฝากระป๋องผ่านพันธมิตรระดับโลกเพื่อขยายตลาดในทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกาและอเมริกา