เนื้อหาวันที่ : 2011-09-14 16:19:56 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2365 views

AAM รุกขยายฐานผลิตเอเชีย เปิดโรงงานใหญ่ในไทย

AAM เปิดโรงงานระดับภูมิภาคที่ระยอง ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ รับยุทธศาสตร์ขยายฐานเอเชีย คาดสร้างงานกว่า 400 อัตรา

 

          AAM เปิดโรงงานระดับภูมิภาคที่ระยอง ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ รับยุทธศาสตร์ขยายฐานเอเชีย คาดสร้างงานกว่า 400 อัตรา

          บริษัท อเมริกัน แอ็คเซิล แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง โฮลดิ้งส์ จำกัด American Axle & Manufacturing Holdings, Inc., (AAM) (หรือ AXL ในตลาด NYSE) ประกาศเปิดฐานการผลิตใหญ่ในประเทศไทย จังหวัดระยอง ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด (Hemaraj Eastern Seaboard Industrial Estate)

          โจเซฟ เอส ถัง Joseph S. Tang ผู้จัดการโรงงานประจำฐานการผลิตระยอง รับหน้าที่ดูแลควบคุมระบบการผลิตทางวิศวกรรมที่ล้ำสมัยสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคนี้ โดยชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตขึ้นในฐานการผลิตในประเทศไทยได้แก่ เพลาหน้า front axles เพลาหลัง rear axles และ เพลาขับ driveshafts.

          "เรามีความยินดีอย่างยิ่งในการเปิดตัวฐานการผลิตแห่งที่หกในภูมิภาคเอเชีย" จอห์น เจ เบลลันติ John J. Bellanti รองประธานบริหารฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของ AAM กล่าว พร้อมออกความเห็นว่า "ฐานการผลิตที่เปิดใหม่ที่ระยองนี้จะนำเอาประสบการณ์ซึ่งมีมายาวนานของบริษัท AAM ในด้านคุณภาพมาตรฐานที่วางใจได้ ตลอดจนระบบรับประกันที่โดดเด่นมานำเสนอต่อลูกค้าของเรา และในขณะเดียวกันจะขยายฐานธุรกิจของ AAM ระดับโลก ในตลาดรถปิคอัพที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลกอีกด้วย "

          "การขยายฐานในเอเชีย คือเงื่อนไขสำคัญในยุทธศาสตร์ธุรกิจระดับโลกของเรา" สตีเว่น เจ พร็อคเตอร์์ Steven J. Proctor ประธาน AAM เอเชีย และรองประธานบริหาร AAM กล่าว "ฐานการผลิตใหม่นี้คือการยืนยันความมุ่งมั่นของเราในการหยั่งรากธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยของเราสำหรับลูกค้าของเราในย่านนี้ทั้งในปัจจุบันและอนาคตต่อไป"

          ฐานการผลิตที่ระยองนี้คือ โรงงานระดับภูมิภาคที่มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 125,000 ตารางฟุต สำหรับใช้ในส่วนของการผลิต และพื้นที่เพิ่มเติมอีก 13,000 ตารางฟุต สำหรับงานบริหารจัดการระบบการผลิตและโรงงาน ในขั้นต้นนี้จะมีพนักงานกว่า 195 คนประจำในศูนย์การผลิต และเมื่อมีการขยายเต็มกำลังการผลิตแล้ว คาดว่าศูนย์การผลิตแห่งนี้จะมีพนักงานด้านวิศวกรรมและการผลิตรวมกันกว่า 275 คน