เนื้อหาวันที่ : 2007-04-09 18:04:22 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2484 views

กทม.เล็งปรับผังเมืองใหม่รับศูนย์ราชการ เล็งรอบสุวรรณภูมิ

รัฐบาลพอเพียง สั่งฉีก พ.ร.บ. สุวรรณภูมิมหานคร ไอเดียรัฐบาลทักษิณ ได้ไม่นาน กทม. กลับเล็งพื้นที่รอบสุวรรณภูมิ ที่มีปัญหามลภาวะทางเสียง สร้างศูนย์ราชการไม่หวั่นผลกระทบ

กทม.ปรับแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินใหม่ เตรียมแก้ผังเมืองก่อนกำหนด เพื่อรองรับโครงการศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะในปี 2551 ส่วนทำเลรอบสนามบินดอนเมืองยังเหมือนเดิมเน้นประเภทการอยู่อาศัยแบบหนาแน่นน้อย เร่งเครื่องสำรวจพื้นที่ชุมชนรอบสนามบินสุวรรณภูมิ เผยในรัศมี 30 กิโลเมตรยังมีพื้นที่ว่างรอการพัฒนาสร้างเมืองในอนาคต

.

นายพิชัย ไชยพจน์พานิช รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ทางสำนักผังเมืองกรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างประเมินผลการประกาศใช้กฎกระทรวงผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครฉบับปัจจุบันใหม่ ซึ่งทุกครึ่งปีจะมีการประเมินผลและปรับปรุงใหม่ให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน โดยในการประเมินผลนั้น จะดูว่ามีผลกระทบหรือมีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหนในแต่ละพื้นที่ ส่วนหนึ่งมาจากการที่มีคนร้องขอให้มีการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดิน แต่ส่วนหนึ่งมาจากการที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจริงๆ เช่น มีการตัดถนนใหม่ โครงการรถไฟฟ้าตัดผ่าน เป็นต้น

.

"ตรงไหนที่สภาพพื้นที่เปลี่ยนแปลงมากๆ เราจะปรับปรุงใหม่ ส่วนไหนที่ไม่กระทบมากนัก ก็ อาจจะไม่มีการปรับ ซึ่งเมื่อเราประเมินผลปีนี้แล้ว ดูว่าพื้นที่ไหนที่จะเปลี่ยนแปลงบ้าง เราก็จะดำเนินการปรับปรุงการใช้ประโยชน์ที่ดินใหม่เลยปีต่อไป เป็นการปรับเปลี่ยนก่อนที่ผังเมืองรวมจะครบกำหนดอายุ 5 ปี"

.

นายพิชัยกล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่ที่มีแนวโน้มจะทำการปรับการใช้ประโยชน์ที่ดินใหม่ ที่เห็นชัดๆ คือ บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ อาจจะต่อเนื่องไปถึงพื้นที่โดยรอบอย่างเขตบางเขน เขตหลักสี่ เขตสายไหม เนื่องจากมีศูนย์ราชการเกิดขึ้น มีกำหนดจะเปิดใช้ในปี 2551 ที่จะถึงนี้แล้ว ซึ่งเมื่อศูนย์ราชการเปิดใช้จะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เกิดขึ้นตามมา

.

ทั้งเรื่องการอยู่อาศัย การคมนาคม ที่จะมารองรับกับการเปิดใช้ศูนย์ราชการ โดยอาจจะปรับการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เอื้อกับการอยู่อาศัยมากขึ้น จากเดิมเป็นพื้นที่สีเหลือง (ที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย) อยู่แล้ว เพราะอาจจะมีบางพื้นที่ที่ก่อสร้างได้ไม่เต็มที่ แต่ขึ้นอยู่กับผลการประเมินว่าจะออกมายังไง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่จริงๆ

.

"ส่วนสนามบินดอนเมือง หลังจากกลับมาเปิดใช้อีกครั้ง อาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น อาจจะต้องคงเดิมไว้ ให้เป็นพื้นที่สีเหลืองหรือที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย"

.

นายพิชัยกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะมีการปรับพื้นที่ย่านสนามบินสุวรรณภูมิที่จะต้องมีการปรับการใช้ประโยชน์ที่ดินใหม่เหมือนกัน โดยเฉพาะบริเวณถนนลาดกระบัง หนองจอก ร่มเกล้า เป็นต้น ซึ่งอยู่ในแผนการพัฒนาเมืองของ กทม. ที่กำลังดำเนินการอยู่แล้ว เพื่อให้สอดรับกับการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิว่าจะสามารถทำอะไร ได้บ้าง

.

แหล่งข่าวจากสำนักผังเมือง กทม. กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดการพัฒนาชุมชนชานเมืองโซนตะวันออกรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ในรัศมี 30 กิโลเมตร ที่ยังมีพื้นที่ว่างเหลือสำหรับการพัฒนา ในพื้นที่เขตคลองสามวา เขตมีนบุรี เขตหนองจอก เขตลาดกระบังและเขตประเวศ รองรับกับการเติบโตของเมืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะมีคนมาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้นประมาณ 350,000 คน จากเดิมทั้ง 5 เขตมีประชาชนอาศัยอยู่กว่า 6 แสนคน เนื่องจากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในพื้นที่โดยรอบ

.

โดยจะเน้นการเพิ่มศักยภาพของบริเวณศูนย์ ชุมชนชานเมือง จำนวน 5 แห่ง คือ ศูนย์ชุมชนหนองจอก พื้นที่ 18 ตารางกิโลเมตร ศูนย์ชุมชนลาดกระบังเดิม (ตลาดหัวตะเข้) พื้นที่ 12 ตารางกิโลเมตร ศูนย์ชุมชนลาดกระบังใหม่ พื้นที่ 20 ตารางกิโลเมตร ศูนย์ชุมชนประเวศทั้งเขต พื้นที่ 52 ตารางกิโลเมตรและศูนย์ชุมชนมีนบุรี พื้นที่ 53 ตารางกิโลเมตร

.

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า ในการพัฒนา วางแผนไว้ 10 ปี ใช้งบประมาณ 35,800 ล้านบาท แบ่งเป็นในศูนย์ชุมชน วงเงิน 12,752 ล้านบาท คือ เขตหนองจอก วงเงิน 1,742 ล้านบาท เขตลาดกระบังเดิม วงเงิน 2,493 ล้านบาท เขตลาดกระบังใหม่ วงเงิน 1,920 ล้านบาท เขตประเวศ วงเงิน 5,030 ล้านบาท และเขตมีนบุรี วงเงิน 1,567 ล้านบาท ส่วนการพัฒนาพื้นที่รอบนอกศูนย์ชุมชนทั้ง 5 เขต ใช้งบ 23,048 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณบางส่วนจะใช้งบประมาณของ กทม.เองและมีบางส่วนที่ได้จากการใช้ระบบภาษี ช่วยในการส่งเสริมจูงใจให้เอกชนพัฒนาพื้นที่ของตนเองตามแผนงานที่ กทม.กำหนด

.

"ระยะเร่งด่วน เริ่มตั้งแต่ปี 2550-2551 จะเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์ตามริมคลองและถนน ตามชุมชนเดิม ให้มีความสวยงาม เช่น ตลาดหนองจอก ตลาดหัวตะเข้ ปรับปรุงถนนศรีนครินทร์ เป็นต้น หลังจากนั้นจะแบ่งการพัฒนาออกเป็นช่วงละ 4 ปี ตั้งแต่ปี 2552-2555 และปี 2556-2560 ปี"

.

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า โดยจะเพิ่มโครงข่ายถนนและการขนส่งสาธารณะเชื่อมโยงพื้นที่ศูนย์ชุมชนหลักศูนย์กลางธุรกิจของ กทม. สนามบินสุวรรณภูมิและพื้นที่ปริมณฑลโดยรอบ การเตรียมพื้นที่พักน้ำ สวนสาธารณะและที่อยู่อาศัย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียดเพื่อนำเสนอให้คณะผู้บริหาร กทม.พิจารณาต่อไป

.

สำหรับแนวคิดการพัฒนา ศูนย์ชุมชนมีนบุรี เป็นศูนย์กลางการค้าและการบริการ เป็นพื้นที่ธุรกิจแห่งใหม่ชานเมืองตะวันออก ศูนย์ชุมชนหนองจอก เป็นศูนย์กลางกิจการเกษตรและศูนย์ กลางการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ศูนย์ชุมชนลาดกระบัง (ใหม่) เป็นศูนย์ธุรกิจและบริการเกี่ยวเนื่องกับการบินและศูนย์วิจัยพัฒนาและออกแบบ อยู่ทางด้านตะวันตกของถนนร่มเกล้าตัดกับถนนอ่อนนุช ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิและจะได้รับอิทธิพลจากกิจกรรมที่เกิดขึ้นต่อ เนื่องจากสนามบิน ทำให้บริเวณนี้มีศักยภาพการพัฒนาสูงมาก

.

ศูนย์ชุมชนลาดกระบังเดิม (ตลาดหัวตะเข้) เป็นเมืองวัฒนธรรมและวิถีชีวิตไทยริมน้ำ ประกอบด้วยชุมชนที่อยู่อาศัยริมน้ำ ตลาดน้ำ แหล่งที่พักและเส้นทางการท่องเที่ยวทางน้ำ เหมาะจะพัฒนาแบบคงความดั้งเดิม และให้เป็นที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศทั้งไทยและต่างประเทศ

.

ศุนย์ชุมชนประเวศ เป็นพื้นที่อยู่อาศัยและพักผ่อนหย่อนใจ ประกอบด้วย แหล่งที่อยู่อาศัยชั้นดี สวนสาธารณะขนาดใหญ่ คือ สวนหลวงร.9 สวนพันธุ์ไม้และสมุนไพรชุมชน เพื่อเสริมสร้าง สิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่และบริเวณโดยรอบ อนุรักษ์ให้เป็นที่อยู่อาศัยชั้นดี การคมนาคมสะดวก มีการพัฒนาโครงข่ายถนนเข้าไปอีก จะทำให้พื้นที่รับการพัฒนาได้อีกและเป็นการเปิดพื้นที่ตาบอด เช่น ถนนพัฒนาการ- ร่มเกล้า ที่จะต่อเชื่อมจากกรุงเทพกรีฑา เป็นต้น

.

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ