เนื้อหาวันที่ : 2011-09-12 11:33:24 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2158 views

จีเอ็ม เปิดศูนย์ผลิตเครื่องยนต์ดีเซลที่ระยอง

จีเอ็ม ทุ่มลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาทเปิดศูนย์ผลิตเครื่องยนต์ดีเซล ในไทยเป็นแห่งแรกของโลกที่จะผลิตเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ

          จีเอ็ม ทุ่มลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาทเปิดศูนย์ผลิตเครื่องยนต์ดีเซล ในไทยเป็นแห่งแรกของโลกที่จะผลิตเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ

          จีเอ็ม เปิดศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซล มูลค่า 6,000 ล้านบาท ยกระดับศักยภาพการผลิตในไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

          จีเอ็ม ประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศเปิดศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลมูลค่า 6,000 ล้านบาท (200 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในจังหวัดระยองอย่างเป็นทางการ เสริมศักยภาพการผลิตร่วมกับศูนย์การผลิตรถยนต์ของจีเอ็มที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการลงทุนที่มีมูลค่าสูงสุดของ จีเอ็ม ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

          ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลแห่งนี้มีพื้นที่ 54,275 ตารางเมตรหรือราว 34 ไร่ นับเป็นศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นแห่งแรกในโลกที่จะผลิตเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ใหม่ล่าสุดในตระกูลดูราแมกซ์ (Duramax)

          ด้วยกำลังการผลิตประมาณ 120,000 เครื่องยนต์ต่อปี ศูนย์การผลิตฯ ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่สามารถรองรับการปรับเปลี่ยนแผนการผลิตสำหรับใช้ในยานยนต์ที่ผลิตในประเทศไทย และส่งออกไปในอีกหลายประเทศทั่วโลก จีเอ็ม คาดการณ์ว่า ภายในปี 2555 จะสามารถสร้างเม็ดเงินได้ราว 2,800 ล้านบาท (94 ล้านเหรียญสหรัฐ) จากการใช้ชิ้นส่วนและการบริการที่เกี่ยวข้องภายในประเทศเพื่อการผลิตเครื่องยนต์รุ่นนี้

          เครื่องยนต์ดีเซลเครื่องแรกที่ออกจากสายการผลิตจะถูกติดตั้งอยู่ในรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาด้านวิศวกรรม และผลิตโดยศูนย์การผลิตรถยนต์ของจีเอ็ม ในจังหวัดระยองแห่งนี้เช่นกัน

          ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลของจีเอ็มแห่งนี้ เป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์สำคัญเพื่อการเติบโตและก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์และเครื่องยนต์ระดับโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

          โดยก่อนหน้านี้ จีเอ็ม ได้ประกาศการลงทุนมูลค่า 4,500 ล้านบาท (150 ล้านเหรียญฯ) เพื่อเปิดดำเนินการศูนย์การผลิตรถยนต์เบกาซี ในอินโดนีเซียอีกครั้ง รองรับการผลิตรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

          ในงานแถลงข่าวเปิดศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม มร.ไมเคิล แอล.แมคกี ที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์จากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานมากมาย ทั้งพนักงานจีเอ็ม ประเทศไทย ผู้แทนจำหน่ายรถเชฟโรเลต คู่ค้า ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งได้รับการต้อนรับจากมร.มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

          “จีเอ็ม มีความมุ่งมั่นที่จะเติบโตและขยายการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” มร.แอพเฟล กล่าว “ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลของเราแห่งนี้ เป็นไปตามปณิธานที่ให้ไว้ นั่นคือ การพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทรงประสิทธิภาพ และเปี่ยมด้วยสมรรถนะเพื่อลูกค้าของเรา”

          มร.แอพเฟล กล่าวเพิ่มเติมว่า “การผลิตเครื่องยนต์ในประเทศไทย ตอกย้ำคำมั่นของเราที่ต้องการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมการเติบโตของจีเอ็มในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป ขณะเดียวกัน ยังเป็นสัญญาณที่ดีที่ชี้ว่าอุตสาหกรรมภายในประเทศมีประสิทธิภาพ และเรามีความเชื่อมั่นอย่างมาก”

          การผลิตด้วยเทคโนโลยีก้าวล้ำ
          ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งนี้จะดำเนินงานด้วยพนักงานจำนวน 500 คนภายในสิ้นปีนี้ ทำการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ผสมผสานระบบคอมพิวเตอร์และเลเซอร์ที่มีความแม่นยำสูง เพื่อคุณภาพที่ดีเยี่ยม ขณะเดียวกัน ยังมีความสามารถผลิตเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตรสลับกันได้ตามความต้องการของตลาดในขณะนั้น

          ศูนย์การผลิตฯ แห่งนี้ ยังใช้เทคโนโลยีควบคุมให้ปราศจากฝุ่นละออง และควบคุมอุณหภูมิและความชื้นเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมอย่างสูงสุดต่อการทำงาน

          นอกจากนี้ จีเอ็ม ประเทศไทย ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งการดำเนินงานของศูนย์การผลิตฯ ซึ่งรวมถึงการใช้ระบบแสงไฟที่ประหยัดพลังงานกว่าเดิม 40 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับระบบทั่วไป

          ก่อนหน้าการเปิดศูนย์การผลิตฯอย่างเป็นทางการ จีเอ็ม ได้ทดสอบการผลิตอย่างเข้มข้นเป็นระยะเวลากว่า 9 เดือน เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถผลิตเครื่องยนต์ตามมาตรฐานสูงสุดที่วางไว้ ตั้งแต่วันแรกที่เปิดดำเนินการ

          “ดูราแมกซ์” ที่สุดแห่งเทคโนโลยีดีเซล
          เครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูลดูราแมกซ์ ใช้ฝาสูบอลูมิเนียม เพลาราวลิ้นเหนือฝาสูบ พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ เพียบพร้อมด้วยคุณภาพและความทนทานสูงสุด

          ไม่เพียงจะได้รับการพัฒนาให้มีแรงบิดสูงสุดในเครื่องยนต์ระดับเดียวกัน รวมทั้งทนทาน และประหยัดน้ำมันเท่านั้น แต่เครื่องยนต์ดูราแมกซ์ 4 สูบรุ่นนี้ ยังผ่านการทดสอบอย่างถึงขีดสุดในทุกสภาวะการขับขี่ ทั้งในแอฟริกา เอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานไอเสียยูโร 4 และรองรับทั้งระบบเคลื่อนสองล้อหน้า และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

          นอกจากนี้ เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร ยังผ่านกระบวนการพัฒนาและทดสอบแบบเดียวกันกับเครื่องยนต์ดูราแมกซ์ เทอร์โบดีเซลขนาด 6.6 ลิตรที่จำหน่ายอยู่ในอเมริกาเหนือเวลานี้ มีความโดดเด่นที่สมรรถนะอันยอดเยี่ยม พร้อมกับมีชื่อเสียงในด้านความทนทาน และรองรับการใช้งานในทุกสภาวะ โดยมียอดจำหน่ายนับตั้งแต่ปี 2544 จนถึงปัจจุบันรวมทั้งหมดถึง 1.3 ล้านเครื่อง

          ศูนย์การผลิตเครื่องยนต์ดีเซลแห่งนี้ ทำให้เม็ดเงินลงทุนในประเทศไทยของจีเอ็ม นับตั้งแต่ปี 2541 มีจำนวนทั้งหมดอยู่ที่ 39,000 ล้านบาท (1,300 ล้านเหรียญฯ)