เนื้อหาวันที่ : 2011-08-29 17:16:41 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 969 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 29 ส.ค. 2554

1. งดขายทองคำแท่งทุกเสาร์-อาทิตย์ สกัดผันผวน
-  นายกสมาคมค้าทองคำเปิดเผยว่า ร้านค้าทองคำทั่วประเทศได้งดการซื้อขายทองคำแท่ง ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาทองคำในตลาดโลกที่มีความผันผวนในปัจจุบัน โดยจะเริ่มงดซื้อขายในสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แรก ไปจนกว่าสถานการณ์ทองคำในตลาดโลกจะกลับเข้าสู่สภาวะปรกติ ทั้งนี้ ราคาทองคำในประเทศเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ผันผวนหนัก เฉลี่ยทั้งวันปรับลงถึงบาทละ 1,800 บาท ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากสุดเป็นประวัติการณ์ ตามราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับลดถึง 140 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

-  สศค. วิเคราะห์ว่า จากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง และความเสี่ยงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง (double-dip recession) รวมถึงปัญหาหนี้สาธารณะยุโรปที่ยังไม่คลี่คลายในปัจจุบัน ทำให้นักลงทุนทั่วโลกหันมาลงทุนในตลาดทองคำเพื่อลดความเสี่ยงมากขึ้น

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับผันผวนและมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ทั้งนี้ สศค. วิเคราะห์ว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 54 ค่าเงินบาทมีแนวโน้มผันผวนและแข็งค่าขึ้น ตามการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับยังมีเงินทุนเคลื่อนย้ายเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตามพื้นฐานเศรษฐกิจของภูมิภาคที่ยังแข็งแกร่ง โดย สศค. ประมาณการค่าเงินบาททั้งปี 54 จะอยู่ที่ระดับ 30.2 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 29.2-31.2 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (ณ มิ.ย. 54)

2. มติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานสั่งลด ราคาน้ำมัน ถูกลง 3-8บาท
-  คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติเห็นชอบการปรับลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกับน้ำมัน 3 ชนิด ได้แก่ เบนซิน 95 ในอัตรา 7.5 บาทต่อลิตร เมื่อรวมภาษีมูลค่าเพิ่มที่ลดลง ทำให้ราคาขายปลีกลดลง 8.02 บาท ขณะที่เบนซิน 91 ลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 6.7 บาทต่อลิตร เมื่อรวมลดภาษีมูลค่าเพิ่มทำให้ราคาขายปลีกลดลงลิตรละ 7.17 บาท และดีเซลจะมีราคาขายปลีกลดลง 3 บาท จากการลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 2.8 บาทต่อลิตร

-  สศค. วิเคราะห์ว่า ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 54 ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากปัญหาความไม่สงบในประเทศลิเบีย ส่งผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศ การลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันจะช่วยลดแรงกดดันต่ออัตราเงินเฟ้อในอนาคตลงได้

โดยน้ำมันเชื้อเพลิงมีสัดส่วนในตะกร้าเงินเฟ้อร้อยละ 9 ประกอบกับราคาน้ำมันยังเป็นต้นทุนสำคัญในการประกอบกิจกรรมทางธุรกิจ โดยเฉพาะค่าขนส่ง ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อในเดือน ก.ค. 54 อยู่ที่ร้อยละ 4.1 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดี คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคมจะเร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 4.3 เนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นขอองราคาข้าว เนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ ทำให้คาดว่าทั้งปี 54 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ร้อยละ 3.8

3. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเดือน ส.ค. 54 ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 55.7
-  รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯเดือน ส.ค. 54 ปรับลดลงต่ำสุดมาอยู่ที่ระดับต่ำสุด 55.7 นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 51 จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ระดับ 63.7

-  สศค. วิเคราะห์ว่า การลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคหรัฐฯ ในเดือน ส.ค. 54 เป็นผลมาจาก (1) อัตราว่างงานสหรัฐฯ ยังทรงตัวในระดับสูง โดยในเดือนก.ค. 54 อยู่ที่ร้อยละ 9.1 (2) การลดลงอย่างรุนแรงของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ จากการประกาศอย่างเป็นทางการของสหรัฐฯ ว่าจะไม่ดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE 3) เพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจภายในปีนี้  (3) แรงกดดันจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากราคาอาหารและราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวในระดับสูง โดยในเดือน ก.ค. ปี 54 อยู่ที่ร้อยละ 3.6

(4) การปรับประมาณการจีดีพีสหรัฐฯประจำไตรมาส 2/54 ซึ่งสะท้อนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯที่อ่อนแอลง และมีโอกาสเผชิญกับสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ (Double-Dip Recession) และ(5) เศรษฐกิจโลกที่ยังคงเปราะบางจากปัญหาหนี้สาธารณะในสหภาพยุโรป ทั้งนี้ การลดลงของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ อาจส่งผลลบต่อการบริโภคภาคเอกชนและจีดีพีสหรัฐฯในช่วงหลังปี 54  โดยสศค. คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 54 จะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 2.3 (ณ มิ.ย. 54)

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง