กรมส่งเสริมการส่งออกจับตาสถานการณ์ญี่ปุ่น เผย เดือนมิ.ย. 2554 เกินดุลครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ชี้ญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวจากภัยพิบัติ ขณะที่รัฐบาลเตรียมขึ้นภาษีมูลค่าเป็น 10% เพื่ออุดหนุนระบบสวัสดิการ
ญี่ปุ่นเกินดุลการค้าครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2554 มูลค่า 70.7 ล้านล้านเยนเป็นการเกินดุลการค้าครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวจากภัยพิบัติ โดยมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นกว่า 2 เดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ตามมูลค่าการส่งออกยังขยายตัวลดลงร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
และขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่นเห็นชอบกับแผนขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มอีกเท่าเป็นร้อยละ 10 ภายในปี 2559 เพื่อหาเงินมาอุดหนุนระบบสวัสดิการที่มีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นและนำมาฟื้นฟูประเทศจากภัยพิบัติ โดยเตรียมจะหารือกับฝ่ายค้าน ซึ่งคาดว่าจะไม่ได้รับความสนับสนุน โดยธนาคารกลางของญี่ปุ่นแสดงความพร้อมที่จะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาเงินเยนแข็งค่าและรับมือกับกระแสชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
ไตรมาสแรกของปี 2554 ญี่ปุ่นถูกจัดเป็นประเทศที่มีสัดส่วนหนี้สินต่อ GDP สูงที่สุดในโลกถึงร้อยละ 244 โดยสาเหตุมาจากปัญหาประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจที่ซบเซามาเป็นเวลานานและจากผลสำรวจผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่ของ Nikki พบว่าร้อยละ 40 ของผู้บริหารพบว่าปัญหาค่าเงินเยนแข็งค่าและการขาดแคลนพลังงาน เป็นปัจจับผลักดันให้บริษัทต้องวางแผนย้ายฐานการผลิตครั้งใหญ่ในอีก 3 ปีข้างหน้า
โดยบริษัทเหล่านี้ต้องการให้รัฐบาลญี่ปุ่นแก้ไขปัญหาการขาดแคลนพลังงาน การลดภาษีรายได้ธุรกิจและผลักดันการลงนามเขตการค้าเสรีเอเซีย-แปซิฟิค และเขตการค้าเสรีกับอเมริกาและยุโรป ไทยเป็นหนึ่งในทางเลือกของญี่ปุ่นในการเป็นฐานการผลิตและที่ตั้งสำนักงานใหญ่ภูมิภาค ซึ่งจะทำให้การค้าระหว่างไทย-ญี่ปุ่นจะถูกแทนที่ด้วยการค้ากับประเทศที่ 3
Thailandindustrycom_official
