เนื้อหาวันที่ : 2011-08-26 11:31:24 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2071 views

ตอบปัญหาคาใจ... โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ (3)

กระทรวงพลังงานฉายภาพรวมสถานการณ์พลังงานไทย พร้อมวิเคราะห์เหตุผลและความจำเป็นในการคิดใช้พลังงานนิวเคลียร์

          นอกจากบริบทโลกและอาเซียนดังกล่าวแล้ว จำเป็นที่จะต้องขยายให้เห็นภาพรวมของสถานการณ์พลังงานไทยซึ่งภาครัฐโดยกระทรวงพลังงานได้วิเคราะห์เหตุผลและความจำเป็นของการคิดใช้พลังงานนิวเคลียร์ที่สำคัญไว้ดังนี้ คือ

          ประการที่ 1 เรื่องความมั่นคงด้านเชื้อเพลิงพลังงาน เพราะปัจจุบันไทยพึ่งเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าถึง 70% ซึ่งสูงติดอันดับ TOP 3 ของโลก ในขณะที่สำรองปริมาณก๊าซธรรมชาติในโลกจากข้อมูลล่าสุดของ Japan Atomic Energy Relations Organization Illustrated Guide ระบุว่าโลกจะมีก๊าซธรรมชาติใช้อีกเพียง 63 ปี โดยที่ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยเหลือพอใช้ประมาณ 22 ปี เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงยูเรเนียมใช้ได้ถึง 85 ปี และยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ต่ออีกหลายพันปี

          ประการที่ 2 ลดผลกระทบภาวะโลกร้อน ถึงแม้ว่าจะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่เป็นสาเหตุของการเกิดก๊าซเรือนกระจกออกมาจากกระบวนการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์บ้าง แต่ปริมาณเมื่อเทียบโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงชนิดอื่นจะเห็นว่าห่างกันมาก โดยนิวเคลียร์ปล่อย CO2 ประมาณ 17 ตัน CO2 เทียบเท่า/ล้านหน่วย น้อยกว่าโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงประมาณเกือบ 40 เท่า และน้อยกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินถึง 60 เท่า

          ประการที่ 3 ลดการผันผวนของราคาเชื้อเพลิง เนื่องจากเชื้อเพลิงที่ใช้ในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์คิดเป็นต้นทุนต่อหนึ่งหน่วยในการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่เพียง 10%  เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงชนิดอื่น เช่น ก๊าซธรรมชาติเป็นต้นทุนถึง 70% ทำให้ลดการผันผวนของค่า Ft ซึ่งเป็นต้นทุนผันแปรของค่าไฟฟ้าลงได้มาก

          ประการที่ 4 เป็นการเพิ่มมูลค่าเพิ่มของก๊าซฯ ในอ่าวไทย สามารถนำก๊าซธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่าการผลิตไฟฟ้า อย่างเช่นนำไปใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และการนำก๊าซธรรมชาติสำหรับใช้ในรถยนต์ หรือ NGV เป็นต้น

          อย่างไรก็ดี เหตุผลและความจำเป็นของการมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์นี้อาจไม่สามารถเข้าถึงประชาชนได้หากภาครัฐไม่มีแนวทางการสื่อสารที่ชัดเจนตรงสู่กลุ่มเป้าหมาย ดังนั้น การสื่อสารข้อมูลข้อเท็จจริงของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์จึงเสมือนเป็นหัวใจสำคัญที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จะต้องมีกิจกรรมร่วมมือกับชุมชน ทำงานในระดับหลักสูตรการเรียนการสอน ใช้สื่อสมัยใหม่ เช่น เว็บบอร์ด  Social Network มาเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ทั้งนี้เพื่อให้กระบวนการสื่อสารช่วยให้เกิดการรับรู้ เข้าใจ เชื่อมั่น และก่อให้เกิดการร่วมมือ และสนับสนุนในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของประเทศให้ประสบผลสำเร็จในอนาคต 

          ประการสำคัญที่สุดก็คือ ประชาชนต้องรับรู้แบบแยบคาย มีการวิเคราะห์ และไตร่ตรองพิจารณาเหตุผลอย่างรอบคอบจนรู้เอง เห็นเอง ในลักษณะที่ทางพุทธศาสนาเรียกว่า “โยนิโสมนสิการ” ไม่เชื่อผู้ยุยงจากภายนอกโดยง่าย ก็จะทำให้การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์นี้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติสูงสุดและยั่งยืน

ที่มา : สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน