เนื้อหาวันที่ : 2011-08-22 14:00:07 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 884 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำสัปดาห์ 15-19 ส.ค. 2554

รายได้สุทธิของรัฐบาล (หลังหักจัดสรรให้อปท.) ในเดือน ก.ค. 54 มีจำนวนทั้งสิ้น 104.07 พันล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ -14.9 เนื่องจากมีการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันทำให้การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันต่ำกว่าประมาณการ สำหรับภาษีฐานบริโภคได้แก่ภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัวร้อยละ 8.3 และภาษีฐานรายได้ ได้แก่ภาษีเงินได้นิติบุคคลรวมกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขยายตัวร้อยละ 4.5  สะท้อนถึงรายได้ประชาชนที่สูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดี

ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ในเดือนก.ค. 54 มีมูลค่า 43.4 พันล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 4.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 12.0 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออกหดตัวร้อยละ -9.9  โดยปัจจัยหลักมาจากปัจจัยฐานสูงของช่วงเดียวกันของปีก่อน ในช่วงเดือน พ.ค. – มิ.ย 54 อยู่ในช่วงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้เมื่อพิจารณาภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 54 ขยายตัวร้อยละ 13.4 บ่งชี้ถึงการบริโภคภาคเอกชนยังคงขยายตัวได้ดี

ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์รวมในเดือน ก.ค. 54 ขยายตัวร้อยละ 43.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กลับมาขยายตัวเป็นบวกจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัวร้อยละ -11.1 และเมื่อขจัดผลทางฤดูกาลออกหดตัวร้อยละ -5.8 โดยการขยายตัวดังกล่าวเป็นผลมาจากปัจจัยฐานต่ำของช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสิ้นสุดมาตราการภาษีเพื่อช่วยเหลือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดี แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับอุปสงค์เพื่อที่อยู่อาศัยที่ยังคงขยายตัวได้ดี ทั้งนี้ ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 54 ขยายตัวร้อยละ 16.0

ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค. 54 อยู่ที่ระดับ 105.2 ปรับลดลงเป็นเดือนที่ 2 จากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ระดับ 107.4  โดยได้รับปัจจัยลบจากความกังวลต่อต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบ นโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท/วัน ราคาพลังงานที่ทรงตัวในระดับสูง และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ประกอบกับการแข็งค่าของเงินบาทเป็นอุปสรรคต่อภาคการส่งออก และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่คงมีความเปราะบาง อย่างไรก็ดีดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 100 แสดงว่าความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการยังอยู่ในระดับที่ดีอยู่

ปริมาณจำหน่ายปูนซิเมนต์ภายในประเทศเดือน ก.ค.54 ขยายตัวร้อยละ 8.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 4.0 และเมื่อปรับผลทางฤดูกาล ขยายตัวร้อยละ 4.1 จากเดือนก่อนหน้า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากระดับการลงทุนของปีก่อนที่เริ่มเข้าสู่ระดับปกติภายหลังจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลสิ้นสุดลง รวมทั้งผู้รับเหมาได้สั่งซื้อวัสดุก่อสร้างไว้ล่วงหน้าจากแนวโน้มของราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือน ก.ค.54 อยู่ที่ร้อยละ 7.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ที่ร้อยละ 6.7

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง