เนื้อหาวันที่ : 2011-08-15 10:53:03 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 986 views

ราชบุรีโฮลดิ้ง รุกลงทุนต่างประเทศเต็มสูบหลังซื้อ TSI สำเร็จ

          ราชบุรีโฮลดิ้ง สยายปีกต่างประเทศรุกซื้อกองทุน TSI สำเร็จ คาดรับรายได้ปีนี้ 520 ล้านบาท ผลประกอบการไตรมาส 2 กำไรเพิ่ม 24% จำนวน 1,890 ล้านบาท รายได้จากโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำนวน 229 ล้านบาท รายได้ส่วนต่างราคาหุ้น EDL-Gen 260 ล้านบาท

          บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ("ราชบุรีโฮลดิ้ง") แถลงผลการดำเนินงานบริษัทฯ ครึ่งปีแรกของปี 2554 ซึ่งบริษัทฯ สามารถขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานต่างประเทศได้สำเร็จ หลังจากเข้าซื้อกิจการกองทุน Transfield Services Infrastructure Fund (TSIF) สำเร็จเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น RATCH-Australia Corporation Limited (RAC) ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะรับรู้รายได้จาก RAC ในปีนี้ ประมาณ 520 ล้านบาท และมีเป้าหมายจะซื้อหุ้นเพิ่มจนครบ 80% ภายในเดือนมิถุนายน 2555

          นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า RAC ถือเป็นจุดเปลี่ยนในการดำเนินธุรกิจที่สำคัญของบริษัทฯ เพราะเรากำลังยกระดับขึ้นไปสู่การแข่งขันในระดับสากล และRAC จะเป็นอีกช่องทางการลงทุนของเราในออสเตรเลีย ในธุรกิจผลิตไฟฟ้า พลังงานทดแทน และเกี่ยวเนื่อง ซึ่งยังมีโอกาสอีกมากที่สามารถเข้าไปลงทุนได้ทั้งในรูปแบบของการซื้อกิจการ การร่วมทุน และการพัฒนาโครงการ ดีลนี้ถือเป็นดีลที่มีมูลค่าการลงทุนมากที่สุดถึง 10,500 ล้านบาท และเป็นประสบการณ์และบทเรียนที่จะทำให้เราแกร่งและเดินหน้าขยายการเติบโตในภูมิภาคเอเชียได้ต่อไปในอนาคต

          “ในปีนี้ เราได้ปรับกลยุทธ์ลงทุนเน้นที่การซื้อและควบรวมกิจการ จากเดิมที่ลงทุนโครงการ Greenfield ซึ่งดีล TSIF ถือเป็นดีลแรกและในปลายปีนี้เราจะเข้าถือหุ้นเพิ่มเป็น 68.1% นอกจากนี้ เรายังได้ขยายออกไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียโดยเรามองเห็นศักยภาพในอินโดนีเซีย และสปป. ลาว นอกจากนี้เรายังได้หันมาลงทุนขยายกำลังผลิตผ่านตลาดทุน โดยเริ่มลงทุนซื้อหุ้นบริษัท EDL-Generation Public Company ในตลาดหลักทรัพย์ สปป. ลาว ผ่านบริษัทในเครือ 2 แห่ง ขณะที่ในประเทศ เรามุ่งเน้นขยายกำลังผลิตพลังงานทดแทน โดยเฉพาะพลังงานลม และแสงอาทิตย์ จนถึงปัจจุบันเรามีกำลังผลิต 75.28 เมกะวัตต์ จากเป้าหมายที่วางไว้ 100 เมกะวัตต์ในปี 2559”

          สำหรับผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของปี 2554 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,892 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.30 บาท มาจากรายได้ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าราชบุรีและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 เป็นจำนวน 229 ล้านบาท

          ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทฯในรอบครึ่งแรกของปี 2554 มีกำไรสุทธิก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษี จำนวน 4,680 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,088 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.13 บาท ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 20,295 ล้านบาท ต้นทุนและค่าใช้จ่ายรวม 15,616 ล้านบาท ต้นทุนทางการเงิน 473 ล้านบาท และภาษีเงินได้ 1,121 ล้านบาท สำหรับฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2554 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 74,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เนื่องจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าที่รับรู้มากขึ้น

          “การดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจ ภายใต้กลยุทธ์การสร้างความเติบโตที่เน้นการเข้าลงทุนในกิจการที่พร้อมสร้างรายได้ในทันที ประเดิมจากความสำเร็จในการเข้าซื้อหุ้นใน EDL Gen ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าในสปป.ลาว เป็นเงินลงทุนประมาณ 1,450 ล้านบาท

โดยบริษัทฯ จะมีรายได้เป็นเงินปันผล ซึ่ง EDL-Gen มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล 50% ของกำไรสุทธิ หากพิจารณารายได้ส่วนต่างจากราคาหุ้น (Capital Gain) ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ บันทึกกำไรประมาณ 260 ล้านบาท เนื่องจากราคาซื้อเฉลี่ยอยู่ที่หุ้นละ 4,450 กีบ และราคาหุ้นปัจจุบันหุ้นละ 5,250 กีบ (ณ 30 มิถุนายน 2554) นอกจากนี้ EDL Gen มีโรงไฟฟ้าอยู่จำนวน 7 แห่ง กำลังผลิตรวม 387 เมกะวัตต์ และคาดว่าจะมีโครงการโรงไฟฟ้าที่จะรับโอนเข้ามาในปีนี้ 4 แห่ง รวมกำลังผลิตที่จะมีในปีนี้ 881 เมกะวัตต์

เราเชื่อมั่นในศักยภาพและความเชี่ยวชาญของบุคคลากร ตลอดจนความแข็งแกร่งด้านเงินทุนที่ยังมีเงินสดในมือถึง 6,000 ล้านบาท กำไรสะสมประมาณ 31,000 ล้านบาท รวมถึงความสามารถในการกู้ยืมจากสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งสามารถรองรับการลงทุนใหม่ ๆ ของบริษัทฯ ได้ตามเป้าหมาย" นายนพพล กล่าว