เนื้อหาวันที่ : 2011-08-08 11:50:26 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1415 views

เทรนด์ ไมโคร ชู คลาวด์ ซิเคียวริตี้ รุกตลาดไทยครึ่งปีหลัง

เทรนด์ ไมโคร เปิดแผนบุคตลาดซิเคียวริตี้ครึ่งปีหลัง เล็งเจาะตลาดโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ ปักธงเพิ่มยอด 60%

          เทรนด์ ไมโคร เปิดแผนบุคตลาดซิเคียวริตี้ครึ่งปีหลัง เล็งเจาะตลาดโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ ปักธงเพิ่มยอด 60%

          บริษัท เทรนด์ ไมโคร อินคอร์ปอเรท (TYO: 4704; TSE: 4704) เปิดเผยแผนบุกตลาดซิเคียวริตี้ครึ่งปีหลัง มุ่งเจาะตลาดโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ โดยคาดการณ์ยอดขายในไทยปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ พร้อมเผยแนวโน้มและภัยคุกคามที่โดดเด่นที่สุดช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ คือ การเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วของมัลแวร์ แอนดรอยด์ และการละเมิดข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลแบบคลาวด์ นอกจากนี้การหลอกลวงผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้นและอาชญกรไซเบอร์ก็ยังคงเดินหน้าสร้างความปลุกปั่นผ่านแผนการร้ายต่างๆ มากมาย

          นายโก๊ะ ชี โฮะ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์ ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ กล่าวว่า “กลยุทธ์หลักที่สำคัญของบริษัทปีนี้ คือ การมุ่งเจาะตลาดด้านโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยข้อมูลบนคลาวด์เป็นหลัก เพื่อหนุนตลาดของคลาวด์ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าภายในปี 2558 มูลค่าตลาดคลาวด์ ซิเคียวริตี้ทั่วโลกจะสูงถึง 1.48 หมื่นล้านดอลลาร์”

          “ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่สำคัญคือ การเป็นผู้นำด้านผู้ให้บริการคลาวด์ ซิเคียวริตี้ในเอเชียแปซิฟิก โดยปัจจัยที่จะผลักดันให้เราสามารถขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดคลาวด์ ซิเคียวริตี้นั้นมาจากการที่บริษัทสามารถครองส่วนแบ่งตลาดระบบรักษาความปลอดภัยในเซิร์ฟเวอร์ และเดสก์ทอปเสมือนจริง

จากรายงานล่าสุดของศูนย์วิจัยข้อมูลไอดีซีที่ระบุว่าเทรนด์ ไมโคร ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 หรือคิดเป็น 22.9% ในตลาดโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยสำหรับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก (Enterprise endpoint security solutions worldwide market share) และจากรายงานล่าสุดของศูนย์วิจัยเทคนาวิโอ ประเทศอังกฤษ ยังระบุว่าเทรนด์ ไมโคร ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 หรือคิดเป็น 13% ในตลาดด้านการจัดการรักษาความปลอดภัยแบบเสมือนจริง (Virtualization Security Management) ทั่วโลกอีกด้วย”      

          สำหรับแผนการทำตลาดในประเทศไทยช่วงครึ่งปีหลัง จะเน้นโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ เจาะกลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์มากขึ้น รวมถึงการทำตลาดในกลุ่มลูกค้าเอ็นเตอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศไทยยังเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง และมีศักยภาพมาก เพราะตลาดคลาวด์ในไทยยังถือว่ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น      ซึ่งยังมีโอกาสขยายตัว และมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมากในอนาคต  

          “ส่วนยอดขายในไทยปีนี้คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ โดยปัจจัยบวกที่ทำให้บริษัท เทรนด์ ไมโคร ประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การผนึกกำลังกับพันธมิตรธุรกิจช่วยกันทำตลาดมากขึ้น การรักษาฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ การไปร่วมออกบูธโชว์เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของเทรนด์ ไมโครในงานคอมมาร์ตฯ ตลอดทั้งปี รวมถึงบริษัทมีแผนจะจัดกิจกรรมใหญ่เปิดตัวโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยล่าสุดสำหรับกลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์เป็นครั้งแรกในช่วงไตรมาสสุดท้ายด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้ยอดขายของเทรนด์ ไมโครเติบโตและเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน” นายโก๊ะกล่าวสรุป

          นายคงศักดิ์  ก่อตระกูล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด และผลิตภัณฑ์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ กล่าวว่า “แนวโน้มของภัยคุกคามช่วงไตรมาสสองที่ผ่านมาพบว่า             อาชญากรไซเบอร์กำลังเดินหน้าเปิดฉากการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะในรูปแบบที่มีเป้าหมายหรือไม่ก็ตาม       แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่สามารถระบุจำนวนบริษัทและผู้ใช้ที่อาจได้รับผลกระทบจากอันตรายดังกล่าวในช่วงระยะเวลาก่อนสิ้นปีนี้ได้”

โดยล่าสุดบริษัทได้สรุปข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตี การละเมิด การใช้ประโยชน์ช่องโหว่ และการหลอกลวงที่ติดอันดับสูงสุด ดังนี้ 
          • การละเมิดข้อมูลบริษัท เอพซิลอน (Epsilon) เมื่อเดือนเมษายน ได้แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่าภัยคุกคามดังกล่าวยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้บัญชีอีเมลของตนตกอยู่ในภาวะอันตราย ซึ่งจะนำไปสู่การขโมยข้อมูลประจำตัวและข้อมูลสำคัญต่างๆ ได้

          • จากพาดหัวข่าวที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไตรมาสที่สอง นักวิจัยบริษัท เทรนด์ ไมโคร ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการเปิดดูบัญชีอีเมลผ่านเว็บในที่ทำงานและการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นที่เป็นโทรจันของผู้ใช้และองค์กรธุรกิจต่างก็มีความเสี่ยงที่เหมือนกัน

          • ไมโครซอฟท์ตกเป็นผู้ค้าหมายเลขหนึ่งที่เป็นเป้าหมายการโจมตีผ่านช่องโหว่ โดยมีจำนวนการโจมตีทั้งสิ้น 96 ครั้ง ขณะที่กูเกิลและอโดบีครองอันดับสองและสามด้วยจำนวนการโจมตี 65 และ 62 ครั้งตามลำดับ

          • แอปเปิล ซึ่งในไตรมาสที่ 1 เป็นผู้ค้าที่ถูกโจมตีเป็นอันดับสูงสุด แต่ในไตรมาสล่าสุดบริษัทกลับไม่ได้ติด 10 อันดับแรก อย่างไรก็ตาม จำนวนช่องโหว่ในอุปกรณ์พกพา Mac และ Apple ก็กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

          • เนื่องจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ทำให้พบการโจมตีอย่างน้อยสามครั้งในช่วงไตรมาสที่สอง เช่นเดียวกับมัลแวร์ แอนดรอยด์ ที่พบก่อนหน้านี้ การโจมตีทั้งสามครั้งเป็นแอพพลิเคชั่นลวงหรือการอัพเดตลวงที่จะล่อให้ผู้ใช้ทำการเรียกใช้ แม้ว่าเป้าหมายการโจมตีจะต่างออกไปจากช่วงก่อนหน้านี้ก็ตาม

          • Facebook พบกับการโจมตีจำนวนมากในรูปของลิงก์อันตรายในรูปสแปมผ่านเครื่องมือที่หลากหลายของ Facebook หรือสคริปต์ “คัดลอกและวาง” (copy-and-paste)  โดยทั้งหมดนี้ล้วนนำไปสู่การขโมยข้อมูลที่สำคัญ