เนื้อหาวันที่ : 2011-07-20 10:33:24 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2282 views

C 250 CDI ยอดยนตรกรรมสุดล้ำจากเมอร์เซเดส-เบนซ์

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวยนตรกรรม The new generation C-Class โฉมใหม่ คล่องแคล่ว ปราดเปรียว มาพร้อมเครื่องยนต์ทรงพลังประหยัดน้ำมัน

          เมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดตัวยนตรกรรมใหม่ The new generation C-Class: A new class of Agility รูปลักษณ์ภายในและภายนอกใหม่ที่สื่อถึงความคล่องแคล่ว ปราดเปรียว เครื่องยนต์ทรงพลังที่ประหยัดน้ำมัน มาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะรุ่นใหม่ล่าสุด (7G-TRONIC PLUS)  มาตรฐานเหนือชั้นยิ่งขึ้นด้วยระบบความปลอดภัยใหม่ พบกับประสบการณ์ใหม่ของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วยระบบสื่อสารรุ่นใหม่

          บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวยนตรกรรม The new generation C-Class โฉมใหม่ ประเดิมด้วย C 250 CDI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE ที่ ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป The new generation C-Class เป็นการปรับโฉมใหม่ของ ยนตรกรรมรุ่น C-Class ให้ดูโดดเด่นมีดีไซน์มากขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แผงหน้าปัดใหม่ที่ดูหรูหรา การตกแต่งภายในที่เน้นการตัดกันของพื้นผิวให้ดูสะดุดตามากขึ้น

พร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ประสิทธิภาพชั้นเยี่ยมที่ถ่ายทอดผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 จังหวะ* (7G-TRONIC PLUS ) รุ่นล่าสุด รวมทั้งระบบความปลอดภัยใหม่ที่ช่วยในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ที่ปกติจะมีแต่ในรุ่นที่สูงกว่า ได้เข้ามาประจำอยู่ใน C-Class โฉมใหม่ นอกจากนั้นยังเพิ่มความสะดวกในการสื่อสารด้วยการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต** และระบบนำทางแบบพร้อมการแสดงผลแบบสามมิติ (3D navigation display with plastic city views)

          ศาสตราจารย์ ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ยนตรกรรมใหม่ The new generation C-Class ได้เน้นเรื่องความสะดวกสบายและความปลอดภัยเฉกเช่นรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกรุ่น ภายในมีการปรับโฉมใหม่ด้วยองค์ประกอบชั้นสูงไม่ต่างกับใน CLS-Class รุ่นล่าสุด C-Class โฉมใหม่จึงได้ยกระดับมาตรฐานใหม่ในด้านความคุ้มค่าและคุณภาพของรถเซ็กเม้นท์นี้ รวมทั้งภายในยังได้ปรับให้ดูทันสมัยด้วยระบบสื่อสารรุ่นใหม่ล่าสุดที่ไม่เพียงแต่การปรับเปลี่ยนจอแสดงผลใหม่เท่านั้น แต่ยังเพิ่มการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต**อีกด้วย”

          ด้วยส่วนประกอบใหม่กว่า 2,000 ชิ้น ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class โฉมใหม่นี้แตกต่างจากรุ่นเดิม ในส่วนของอุปกรณ์มาตรฐานประกอบไปด้วยพวงมาลัยหนังที่ปัจจุบันเป็นหุ้มหนังทุกรุ่น เกรดการตกแต่งและอุปกรณ์แบบ ELEGANCE และ AVANTGARDE ได้มีการปรับให้แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม โดย ELEGANCE จะใช้ลายใหม่แบบ matt ash wood ส่วน AVANTGARDE จะใช้ลายแบบ dark aluminium หรือแบบ black ash wood

          เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น C-Class นับเป็นรุ่นที่มียอดขายสูงที่สุด และมีความสำคัญเป็นอย่างมากกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่มีการเปิดตัวในปี 2007 ได้มีจำหน่ายรถยนต์รุ่นดังกล่าวไปแล้วกว่า 1 ล้านคันทั่วโลก นอกจากนั้นนับตั้งแต่มีการเปิดตัวเมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่น C-Class เป็นครั้งแรกในปี 1982 (หรือที่รู้จักกันในรุ่น 190) เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ขายรถยนต์รุ่นนี้ไปแล้วกว่า 8.5 ล้านคันทั่วโลก
ดีไซน์ภายนอก: คล่องแคล่ว เด็ดเดี่ยว แฝงไปด้วยความมั่นใจ

          กันชนหน้าใหม่ที่ให้ความรู้สึกทรงพลังด้วยลายเส้น รวมทั้งกระจังหน้าสีเงินที่ดูสะดุดตา ด้วยรูปทรง V-Shape พร้อมฝากระโปรงหน้าใหม่ทำจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา ซึ่งสื่อให้เห็นถึงการปรับโฉมใหม่ ที่สะท้อนความเป็นสปอร์ต สอดรับกับความเด่นสะดุดตาของโคมไฟหน้าดีไซน์ใหม่ ให้ความพิถีพิถัน ดูโฉบเฉี่ยว หรูหราและสง่างามมากขึ้น

          โคมไฟคู่หน้าใหม่แบบไบซีนอนถูกออกแบบให้ดูดุดันแต่มีชีวิตชีวามากขึ้น เพื่อให้กลมกลืนกับส่วนหน้าของรถที่เน้นทรง V-Shape ทำให้ดูทันสมัย ซึ่งทำงานควบคู่กับระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (Intelligent Light System - ILS) ที่สามารถปรับระดับการส่องสว่างโดยอัตโนมัติตามสภาพเส้นทาง พร้อมด้วยไฟ daytime แบบ LED สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ซึ่งติดตั้งอยู่ในกันชนด้านหน้า รวมทั้งไฟหน้าแบบฮาโลเจน ที่ประกอบไปด้วยไฟต่ำและไฟสูง รวมทั้งชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ในยามค่ำคืนให้ดียิ่งขึ้น

          เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class ใหม่นี้ คือ แอโรไดนามิกส์ที่เป็นเลิศด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.26 หรือเทียบเท่ากับมีค่าทางอากาศพลศาสตร์ที่ดีที่สุดในรถระดับเดียวกัน

          การตกแต่งภายในเปี่ยมไปด้วยความเป็นสปอร์ตและอุปกรณ์คุณภาพชั้นเยี่ยมภายในของ The new generation C-Class โฉมใหม่นี้ได้รับการออกแบบใหม่ด้วยการเปลี่ยนหน้าปัดและพื้นผิวสัมผัสให้ดูมีความนุ่มนวลมากขึ้น ปลายปุ่มสัมผัสที่โดดเด่นโดยเน้นความละเอียดและความพิถีพิถัน แผงหน้าปัดใหม่ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัย มีดีไซน์ ด้วยลายเส้นที่ต่อเนื่องไปจนถึงแผงข้างประตูด้านหน้าทั้งสองข้าง จอแสดงผลความละเอียดสูง และแผงคอนโซลกลางซึ่งเป็นจุดสำคัญของการเปลี่ยนโฉมใหม่โดยสะท้อนความสุขุม หรูหรามีระดับด้วยการตกแต่งพื้นผิวโดยรอบ

          นอกจากนั้นภายในยังตกแต่งเพิ่มเติมให้ดูทันสมัยด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในการสื่อสารด้วยการเชื่อมต่อเพียงปลายปุ่มสัมผัสบนพวงมาลัย โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบสื่อสารหรือ Telematics ที่มีมาพร้อมกับรุ่น C-Class ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใหม่ของรถรุ่นนี้

          จุดเด่นของการตกแต่งภายในของเมอร์เซเดส-เบนซ์ C-Class ใหม่นี้ได้ถูกออกแบบให้มีจุดเด่นคล้ายกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ CLS ใหม่ล่าสุด โดยเฉพาะพวงมาลัยลายโครเมียมซึ่งสื่อถึงความเป็นสไตล์สปอร์ตในรุ่น AVANTGARDE

เครื่องยนต์อันทรงพลังและประหยัดเชื้อเพลิง
          เครื่องยนต์ของยนตรกรรม The new generation C-Class ทุกรุ่นถูกคิดค้นขึ้นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีภายใต้แนวคิด BlueEFFICIENCY ยนตรกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงานเป็นสำคัญ ทั้งนี้เครื่องยนต์ทุกรุ่นเป็นระบบหัวฉีดแบบไดเร็คอินเจ็คชัน

C 250 CDI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE : เครื่องยนต์ที่ทรงพลังและประหยัดเชื้อเพลิง
          สำหรับยนตรกรรมเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น C-Class ใหม่เปิดตัวด้วยรุ่น C 250 CDI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบคู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ผลิตกำลังสูงสุดถึง 204 แรงม้า พร้อมแรงบิดถึง 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 1,800 รอบต่อนาที มีอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม.โดยใช้เวลาเพียง 7.0 วินาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 15.62-17.24 กิโลเมตรต่อลิตร และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยเฉลี่ย 153-167 กรัมต่อหนึ่งกิโลเมตร

C 250 CDI BlueEFFICIENCY ตกแต่งแบบ AVANTGARDE มาพร้อมกับอุปกรณ์ต่อไปนี้
          - กระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียมลาย 2 แถบ พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์
          - พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 12 ปุ่ม แบบ 3 ก้าน
          - ลายอลูมิเนียมแบบ Brushed aluminium ที่คอนโซลกลาง
          - หน้าปัดสีเงินพร้อมจอแสดงผลแบบสี
          - ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
         
ระบบความปลอดภัย ผู้ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่
          เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น C-Class ใหม่ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ATTENTION ASSIST ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยใหม่ที่มีในรุ่น C-Class โดยใช้กล้องและระบบเซ็นเซอร์ภายในรถทำหน้าที่ตรวจสอบและวิเคราะห์ลักษณะการขับขี่ต่างๆ ซึ่งช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจาก อาทิ การเหนื่อยล้าขณะการขับขี่ เป็นต้น ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist) ระบบปกป้องก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® ซึ่งมีเพียงแบรนด์เดียวในโลก

โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP (Electronic Stability Program) ระบบช่วยเบรก BAS (Brake Assist) ที่จะทำงานร่วมกับระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-lock braking system) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ASR (Acceleration skid control) เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) พร้อมแนะนำวิธีการจอด (Parking Guidance) และพนักพิงศีรษะแบบ NECK-PRO

ความสะดวกสบายที่เหนือกว่า และง่ายทุกการเชื่อมต่อด้วยระบบสื่อสารรุ่นใหม่
          ยนตรกรรม C-Class ใหม่ได้นำระบบสื่อสารรุ่นใหม่ ที่ใช้งานได้สะดวกมากกว่ารุ่นเดิม การควบคุมหน้าจอ การเชื่อมต่ออุปกรณ์โทรศัพท์ การแสดงผลของข้อความ การฟังเพลงแบบ ไร้สายโดยผ่านบลูทูธ และการเชื่อมต่อความบันเทิงผ่านช่องยูเอสบี ซึ่งมีพร้อมอยู่ใต้ที่วางแขนตรงคอนโซลกลาง

          ด้วยระบบมัลติมีเดีย COMAND Online ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ในรุ่น C250 CGI BlueEFFICIENCY AVANTGARDE จึงสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต**ได้โดยสะดวก และยังสามารถบันทึกข้อมูลเส้นทางโดยผ่านเอสดี การ์ด ได้อีกด้วย

ศาสตราจารย์ ดร. อเล็กซานเดอร์ เพาฟเลอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากยอดขายในปีที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น C-Class เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากที่สุด ดังนั้นการปรับโฉมใหม่ตามนิยาม A new class of agility