นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมหารือเรื่องสถานการณ์ราคาน้ำมันร่วมกับนายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ผู้ค้าน้ำมันและโรงกลั่นน้ำมันว่า เนื่องจากราคาพลังงานขณะนี้ปรับตัวสูงขึ้น จึงมอบหมายให้กระทรวงพลังงานไปหามาตรการระยะกลางและยาวในการดูแล เพื่อความไม่ประมาท โดยรัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซงราคาไม่มีการใช้นโยบายสรรพสามิตน้ำมันและไม่มีการตั้งกองทุนเพื่อชดเชยราคาน้ำมันแต่อย่างใด โดยรัฐบาลจะปล่อยให้ราคาน้ำมันเป็นไปตามกลไกตลาดขึ้นกับดุลพินิจของผู้ค้าน้ำมัน และต้องขอบคุณผู้ค้าน้ำมันทุกรายที่ลดการนำเข้าน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา และทำให้เกิดความมั่นใจทางเศรษฐกิจ จนทำให้ดุลการค้าเดือนมีนาคมเกินดุลกว่า 324 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ยังได้กำชับให้ผู้ค้าน้ำมันและโรงกลั่นดูแลและหามาตรการช่วยเหลือภาคเศรษฐกิจที่สำคัญ 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มภาคการขนส่ง 2.เกษตร 3.ประมง และ4.วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยผู้ค้าน้ำมันจะหารือกันว่าเข้าไปช่วยอย่างไร โดยสัปดาห์หน้าผู้ค้าน้ำมันจะมีการหารือร่วมกัน เพื่อหาเครื่องมือที่จะช่วยเหลือโดยจะให้เห็นผลเป็นรูปธรรมในสัปดาห์หน้า เพราะอุตสาหกรรมกลุ่มนี้เป็นฐานของเศรษฐกิจระดับล่าง และเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ โดยมาตการช่วยเหลือจะต้องทำทั้งระบบและหากลไกเพื่อควบคุมไม่ให้น้ำมันเกิดการรั่วไหล ส่วนเรื่องค่าไฟฟ้าจะให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่การขึ้นค่าไฟฟ้าจะต้องสะท้อนต้นทุนที่เป็นจริง และให้ช่วยดูแลไม่ให้กระทบต่อประชาชน

ครั้งนี้ผู้ค้าน้ำมันและโรงกลั่นยินดีที่จะเข้ามาช่วยเหลือกลุ่มอุตสาหกรรมระดับล่าง คือ คาคขนส่ง เกษตรกร ประมง และธุรกิจเอสเอ็มอี โดยการให้ผู้ค้าน้ำมันไปศึกษาว่าจะเพิ่มปั๊มน้ำมันเพื่อเกษตรกรรายย่อยได้อย่างไรบ้างจากเดิมที่เพียงบางจากรายเดียว ส่วนภาคขนส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานก็จะไปคุยกับนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือในวันนี้ นายสมคิด กล่าว

สำหรับการที่ ปตท.ยังไม่ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันนั้น ทางรัฐบาลไม่ได้สั่งให้ ปตท.ตรึงราคาน้ำมันแต่อย่างใด โดยให้ ปตท.เป็นผู้พิจารณาตัดสินใจปรับขึ้นราคาน้ำมันเองตามความ เหมาะสม แต่ทั้งนี้ประชาชนก็ต้องปรับตัวรับด้วยการประหยัด ซึ่งรัฐบาลก็กำลังหามาตรการส่วนลดให้ เช่น ส่วนลดค่าไฟฟ้าสำหรับบ้านที่ใช้ไฟฟ้าลดลง หรือรถยนต์ที่มีผู้โดยสาร 4-5 คน ก็อาจจะมีส่วนลดให้ ซึ่งมอบให้กระทรวงพลังงานเป็นผู้พิจารณาต่อไป

นายวิเศษ กล่าวยืนยันว่า น้ำมันในประเทศจะไม่มีปัญหาขาดแคลน โดยเมื่อถึงจุดสมดุลปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ส่วนปั๊มเล็กในต่างหวัดที่มีปัญหา เพราะไปซื้อน้ำมันจากจ็อบเบอร์ ทำให้ราคานำมันสูง ทำให้มีปัญหาขาดแคลนในบางครั้งแต่หากไปซื้อจากผู้ค้าน้ำมันก็จะมีน้ำมันอย่างแน่นอนส่วนการขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการในการจัดหาน้ำมันราคาถูกให้กับเกษตรกร เอสเอ็มอี ขนส่ง และประมง เชื่อว่าผู้ค้าน้ำมันสามารถทำได้นอกจากนี้ยังไม่มีการใช้มาตรการทางภาษีเข้ามาแก้ปัญหาราคาน้ำมัน เพราะโครงสร้างภาษีน้ำมันมีประสิทธิภาพอยู่แล้วและหากมีมาตรการภาษีมาใช้ก็จะกระทบงบประมาณของประเทศ

นายเมตตา บันเทิงสุข ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) กล่าวว่า ปั๊มเล็กนิยมซื้อน้ำมันจากจ็อบเบอร์ ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนขึ้นซึ่งปั๊มเล็กไม่มีการบริหารความเสี่ยง และยืนยันว่า 4 ภาคอุตสาหกรรมที่ภาครัฐบาลให้ความช่วยเหลือเป็นอุตสาหกรรมหลัก ซึ่งหากช่วยเหลือให้เดินหน้าต่อไปได้ ผลกระทบจากราคาน้ำมันก็จะน้อยลง

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า ปัจจุบัน ปตท.ต้องแบกรับภาระค่าน้ำมันอยู่แล้วเพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ราคาน้ำมันผิดปกติ ทำให้ราคาจำหน่ายหน้าปั๊มปรับไม่ทันต้นทุนที่เปลี่ยนแปลง โดยราคาขายหน้าปั๊มต่ำกว่าราคาหน้าโรงกลั่นแต่เชื่อว่าการที่ราคาน้ำมันจะเข้าสู่จุดสมดุลต้องใช้เวลาระยะ ซึ่งปตท.ยืนยันว่าไม่มีการตรึงราคาเอาไว้ โดยจะค่อย ๆ ทยอยปรับขึ้นและในเย็นวันที่ 21 เม.ย.นี้จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีการปรับราคาหรือไม่เพราะตั้งแต่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ปตท.ขาดทุนไปแล้วประมาณ 150 ล้านบาท

ส่วนการช่วยเหลือกลุ่มอุตสาหกรรมระดับล่าง โดยเฉพาะภาคขนส่ง เช่น ขสมก. บขส.เป็นลูกค้าของ ปตท. ซึ่งได้รับความช่วยเหลืออยู่แล้ว ส่วนรถร่วมบริการอื่น ๆ ก็เป็นลูกค้าของผู้ค้าน้ำมันแต่ละราย ซึ่งก็เชื่อว่าจะมีการให้การสนับสนุนรวมทั้งทางกลุ่มโรงกลั่นก็เชื่อว่าจะให้ความร่วมมือเช่นกัน นายประเสริฐ กล่าว

นายธีรพจน์ วัชราภัย ประธานกรรมการ บริษัทเชลล์ในประเทศไทย กล่าวว่า ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือเต็มที่ โดยผู้ค้าน้ำมันคงจะหารือร่วมกันว่าจะมีแนวทางช่วยเหลืออย่างไร สำหรับลูกค้าที่ยังไม่มีบัตรสำหรับการเติมน้ำมัน (Fleet card) ที่ได้รับส่วนลดค่าน้ำมัน ส่วนของราคาน้ำมันขณะนี้บริษัทต้องแบกรับภาระ เนื่องจากค่าการตลาดขาดทุนประมาณ 2 บาท ทำให้ต้องทยอยปรับราคาน้ำมันขึ้นตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม ส่วนราคาน้ำมันจะปรับถึงเท่าใด คงยังคาดเดาไม่ได้ เพราะสถานการณ์ในตลาดโลกผิดปกติ

ส่วนตัวแทนจากบริษัทเอสโซ่ กล่าวว่า พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาล เพราะการที่รัฐบาลปล่อยให้ราคาเป็นไปตามธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะแนวทางที่จะให้มีการใช้ Fleet card เพื่อช่วยเหลือธุรกิจรายภาค นายวิโรจน์ มาวิจักขณ์ กรรมการอำนวยการ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สบายใจที่ภาครัฐจะไม่เข้ามาแทรกแซงราคาและค่าการกลั่น และยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะหากภาคการผลิตล้มไป จะกระทบต่อผู้ประกอบการ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ด้านตัวแทนจากบริษัทคาลเท็กซ์ กล่าวว่า พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาล และเห็นด้วยที่จะให้ราคาขายปลีกเป็นไปตามกลไกตลาด เพื่อให้ผู้บริโภครับทราบข้อเท็จจริงว่า กลไกตลาดเป็นอย่างไร ด้านทีพีไอ พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ และได้เริ่มดำเนินการช่วยเหลือด้านน้ำมันไปบ้างแล้วบางส่วน เพราะทีพีไอขายน้ำมันเขียวให้ผู้ประกอบการประมงประมาณร้อยละ 70 ของปริมาณการใช้ของประมง ซึ่งทีพีไอก็ได้หารือกับบางจาก และ ปตท.มาบ้างแล้ว