เนื้อหาวันที่ : 2011-06-16 10:43:50 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 883 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 15 มิ.ย. 2554

1. ธอส. เผยยอดยื่นกู้บ้านหลังแรก 2.5 หมื่นล้าน เต็ม
-  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผย ถึงกระแสตอบรับโครงการบ้านหลังแรกอัตราดอกเบี้ย 0% 2 ปี เป็นไปตามคาด ขณะนี้วงเงิน 25,000 ล้านบาท หมดภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน  ซึ่งจากการพิจารณาเบื้องต้นของลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อในโครงการดังกล่าวฯ คาดว่าอาจจะไม่ผ่านเกณฑ์ความสามารถที่ธนาคารกำหนดประมาณ 10 – 20% เพราะฉะนั้นก็จะทำให้มีวงเงินเหลือจากวงเงินที่ยื่นกู้มาประมาณ 3,000 – 5,000 ล้านบาท ซึ่งประชาชนยังสามารถยื่นขอสินเชื่อ จาก ธอส.ได้อีกจนกว่าวงเงินอนุมัติและทำนิติกรรมครบ 25,000 ล้านบาท

-  สศค.วิเคราะห์ว่า การปล่อยสินเชื่อของโครงการบ้านหลังแรกเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ไม่เคยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองให้สามารถซื้อบ้านเป็นของตนเองได้นั้น จากข้อมูลการยื่นกู้ของประชาชนในโครงการบ้านหลังแรกทั่วประเทศ ภายใต้กรอบวงเงิน 25,000 ล้านบาท มีประชาชนยื่นกู้แล้วทั้งสิ้น 18,583 ราย และมีวงเงินเฉลี่ยรายละ 1.35 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนผู้ขอกู้ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลร้อยละ 45 และส่วนภูมิภาคร้อยละ 55

ทั้งนี้ สำหรับยอดอนุมัติสินเชื่อบ้านหลังแรกมียอดอนุมัติไปแล้วทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง รวมทั้งเป็นการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ในภาคการก่อสร้างให้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

2. อินโดนีเซียคาดเศรษฐกิจโลกดี หนุนการค้า-ส่งออกปีนี้ทะลุเป้า
-  รัฐมนตรีพาณิชย์อินโดนีเซียคาดการณ์ว่า ยอดส่งออกสินค้านอกหมวดน้ำมันและก๊าซในปี 54 จะเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 20 ทะลุเป้าเดิมซึ่งตั้งไว้ที่ร้อยละ 12-16  เนื่องจากอุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น โดยสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภทเพิ่มขึ้นทั้งในแง่ของปริมาณการส่งออกและราคา  นอกจากนี้ ปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่เติบโตดีขึ้นจะช่วยสนับสนุนยอดส่งออกสินค้านอกหมวดน้ำมันและก๊าซในปี 55 ขยายตัวสูงกว่าปี 54

-  สศค. วิเคราะห์ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียในปี 54 มีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 6.3 ต่อปี (คาดการณ์ ณ เดือน มี.ค.54) จากภาคการส่งออกที่มีสัดส่วนร้อยละ 32 ของ GDP  โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญคือ ผลิตภัณฑ์ทรัพยากรธรรมชาติและสินค้าโภคภัณฑ์  โดยการส่งออกในเดือน เม.ย.54 สามารถขยายตัวได้ร้อยละ 37.3 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า  ส่งผลให้ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 54 มียอดดุลการค้าเกินดุลทั้งสิ้น 1.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจของอินโดนีเซียที่ขยายตัวได้ดีจะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย  สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างอินโดนีเซียและไทยในปี 53 อยู่ที่ 7.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.8 และในช่วง 3 เดือนแรกของปี 54 อยู่ที่ 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปยังอินโดนีเซีย ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำตาลทราย เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่อง เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก 

3. เงินเฟ้อจีน พ.ค.54 ขยายตัวสูงสุดรอบ 34 เดือน อยู่ที่ร้อยละ 5.5
-  สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ค.54  ขยายตัวร้อยละ 5.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าเดือนเม.ย.54 ที่ขยายตัวร้อยละ 5.3  และยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 5.4  ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน

-  สศค.วิเคราะห์ว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนในเดือน พ.ค.54 ที่ร้อยละ 5.5 นับเป็นระดับที่สูงกว่าเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ที่ร้อยละ 4 เป็นผลมาจากราคาอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 11.7 และรายการยกเว้นอาหารปรับขึ้นร้อยละ 2.9 โดยมีปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง

ประกอบกับข้อมูลล่าสุดในไตรมาสแรกปี 54 เศรษฐกิจจีนขยายตัวในระดับสูงที่ร้อยละ 9.7 ต่อปี ซึ่งอาจเป็นเหตุผลทำให้ธนาคารกลางจีนจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินแบบคุมเข้มต่อไป โดยอาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายและการดำรงเงินสดสำรองของธนาคารพาณิชย์ในระดับที่สูงขึ้น  ทั้งนี้ สศค.คาดการณ์ ณ เดือนมี.ค. 54 ว่าเศรษฐกิจจีนในปี 54 จะขยายตัวที่ร้อยละ 9.0 โดยจะมีการปรับประมาณการอีกครั้ง ในวันที่ 29 มิ.ย. 54 ต่อไป

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง