เนื้อหาวันที่ : 2011-06-13 13:40:13 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 939 views

ภาวะเศรษฐกิจประจำวันที่ 13 มิ.ย. 2554

1. ส่งออกข้าวไทยปี 54 แนวโน้มสดใส
-กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวปี 54 มีแนวโน้มสูงที่ไทยจะยังรักษาตำแหน่งผู้นำการส่งออกข้าวของโลกได้ โดยทั้งปี 54 คาดว่าจะส่งออกได้เกินกว่า 10 ล้านตัน สร้างรายได้เข้าประเทศมากกว่า 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 8.0-9.5 ล้านตัน เนื่องจากขณะนี้ข้าวของไทยยังเป็นที่ต้องการจากผู้ซื้อต่างประเทศ เพราะมีคุณภาพดี และราคาคุ้มค่า

โดยช่วง 5 เดือนแรกปี 54 ไทยสามารถส่งออกได้แล้วถึง 5.17 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 88,363 ล้านบาท สำหรับช่วงเวลาที่เหลืออีก 7 เดือน คาดว่าการส่งออกข้าวจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความต้องการจากต่างประเทศสูงขึ้นจากผลกระทบปัญหาภัยธรรมชาติหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาข้าวในประเทศปี 54 อาจลดลง เพราะผลผลิตข้าวในประเทศมีมาก ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายระบายสต๊อกข้าวส่งผลให้ข้าวในตลาดอาจมีปริมาณสูง

-สศค. วิเคราะห์ว่า ทิศทางสถานการณ์ข้าวไทยปี 54 มีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากตลาดโลกยังมีความต้องการในระดับสูง ประกอบกับความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศส่งผลให้หลายประเทศผู้ผลิตไม่สามารถผลิตได้ในปริมาณที่ต้องการ ตลอดจนประเทศผู้นำเข้าหลายประเทศมีความต้องการนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหารภายในประเทศ ทั้งนี้สถานการณ์ดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนการส่งออกข้าวของไทยและราคาในประเทศให้ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกษตรกรไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น และสนับสนุนต่อการบริโภคภาคครัวเรื่อน

2. ร.ฟ.ท. ชงลงทุนแสนล้านลุย 3 ทำเลทองกลางกรุง
-ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ร.ฟ.ท. มีแผนงานพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับที่ดินที่อยู่ใจกลางเมือง โดยมีโครงการขนาดใหญ่จำนวน 3 แปลงด้วยกัน คือ 1. ที่ดินย่านมักกะสันเนื้อที่ 497 ไร่  2. ที่ดินย่านพหลโยธินบริเวณ กม. 11 เนื้อที่ 359 ไร่ และ 3.  ที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาเนื้อที่ 260 ไร่ ซึ่ง 2 แปลงแรกมีความพร้อมที่จะดำเนินการก่อน โดยแนวทางในการพัฒนา เป็นรูปแบบของเมืองสมบูรณ์แบบ หรือ ซิตี้คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน ในโครงการขนาดใหญ่ดังกล่าว

 -สศค. วิเคราะห์ว่า แผนการพัฒนาที่ดินของ ร.ฟ.ท. จะมีส่วนช่วยให้การลงทุนภาครัฐและเอกชนขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต ซึ่งปัจจุบัน พบว่า สัดส่วนการลงทุนภาครัฐในปี 54 มีเพียงร้อยละ 5.1 ลดลงมากจากระดับ 10.4 ในปี 40 การลงทุนในครั้งนี้ จะเป็นไปตาม พรบ. การเข้าร่วมการงานของภาครัฐและเอกชน พ.ศ. 2535 ซึ่งอนุญาตให้เอกชนสามารถทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาวได้ 30 ปี และคาดว่าจะทำให้ ร.ฟ.ท. มีรายได้เพิ่มขึ้น จากการบริหารทรัพย์สิน มาอยู่ที่ระดับ 2.3 พันล้านบาท

3. อัตราเงินเฟ้อของเยอรมณีในเดือน พ.ค. 54 ขยายตัวเร่งขึ้นที่ร้อยละ 2.3
-สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน พ.ค. 54 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 2.3 โดยมีปัจจัยหลักมาจากราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสร้างความวิตกกังวลแก่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) โดยนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ประธานอีซีบีได้กล่าวภายหลังการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนเดือน พ.ค. 54 ยังอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 2.7 ชะลอลงจากร้อยละ 2.8 ในเดือนเม.ย.54

-สศค. วิเคราะห์ว่า การปรับตัวสูงขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเยอรมณีในเดือน พ.ค. 54  เป็นผลมาจากราคาอาหาร พลังงาน และค่าบริการขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้นที่ร้อยละ 3.3 2.9 และ 4.3 ตามลำดับ อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และอัตราการใช้กำลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

โดยแรงกดดันจากเงินเฟ้ออาจส่งผลเชิงลบต่อการบริโภคภาคเอกชนและอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเยอรมณีในปี 54 ประกอบกับปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป ทำให้คาดว่าธนาคารกลางยุโรปอาจใช้มาตรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อในเขตยูโรโซน ซึ่งอาจทำให้การลงทุนภาคเอกชนลดลงและเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ จนเป็นอุปสรรคต่ออุตสาหกรรมการส่งออกซึ่งเป็นแรง

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง