สังคมปัจจุบันที่มีการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยีมากขึ้น ทำให้ผู้คนต้องเร่งรีบแข่งขันในการประกอบอาชีพ จนลืมใส่ใจในการทำกิจวัตรอย่างการรับประทานอาหารหรือการนอนหลับพักผ่อน ซึ่งส่งผลเสียโดยตรงต่อสุขภาพ
:: ธนสาร สาสังข์
ด้วยเหตุปัจจัยหลักความเสื่อมของร่างกายในปัจจุบันคือ
๑. ความเร่งรีบในการประกอบสัมมาอาชีพ
๒. เกิดจากอาหารที่เรารับประทานมีสารเคมีปนเปื้อน
๓. การพักผ่อนนอนหลับที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้สังคมไทยเรา ได้มีการพัฒนาเพื่อให้ได้เปรียบในทางธุรกิจการค้าและมาตรฐานความเป็นอยู่ในการแข่งขัน เพราะทุกคนยึดหลักว่าเราต้องมีทรัพย์สินมาก มีเงินเหลือออมมาก ต้องกินอาหารที่ดีโดยเฉพาะจำพวกเนื้อสัตว์มากกว่า การกินพืชผักผลไม้ดังเช่นคนในสมัยก่อน “ในน้ำมีปลาในนามีข้าว” อาหารของคนไทยส่วนใหญ่จะเป็น ข้าว น้ำพริก ผักจิ้มรับประทานผักปลาเป็นหลัก
เมื่อความเจริญได้พัฒนาการยกระดับฐานะของสังคมได้เปลี่ยนไป อาหารจึงกลายเป็นจำพวกเนื้อสัตว์ เช่น หมู วัว เป็ด ไก่ เกิดอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ยารักษาสัตว์เช่นฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตเพื่อให้ต้นทุนถูกที่สุด การเลี้ยงสัตว์ต้องได้จำนวนมากในพื้นที่จำกัด
ในทำนองเดียวกันการปลูกพืชผักผลไม้ในปัจจุบัน ชาวสวนชาวไร่ต้องเร่งดอกผล และรากที่ไม่ได้เกิดจากสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ จึงทำให้รสชาติของพืชผักผลไม้เปลี่ยนไปจากธรรมชาติดั้งเดิม เมื่อคนเรากินอาหารเหล่านี้เข้าไป จึงเป็นสาเหตุหนึ่งให้คนในปัจจุบันมีอารมณ์ฉุนเฉียว รุนแรง ก้าวร้าว และนำไปสู่การเกิดโรคภัยต่างๆ ได้ง่าย
แล้วนำเกี่ยวโยงไปสู่ร่างกายระบบประสาทจิตใจของคนเราจะเห็นได้ชัด เด็กเล็กและวัยรุ่นในยุคปัจจุบันมีพฤติกรรมของชีวิตแบบโลดโผนแข็งกร้าว ถ้าคนไหนอ่อนโยนกลับเห็นว่าเป็นคนเชย หัวโบราณ หารู้ไม่ว่าคนสมัยโบราณมีความรัก มีความอบอุ่น มีการรักษาประเพณีอันดีงาม ทำให้มีอายุยืนเจ็บป่วยน้อยกว่าคนไทยในยุคปัจจุบัน
มนุษย์เราทุกวันนี้ต้องผจญอยู่กับคลื่นในบรรยากาศมากมาย คลื่นต่างๆ ในการติดต่อสื่อสารนี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายของคนเราอ่อนแออย่างมาก นอกจากนี้ได้มีการวิวัฒนาการ โดยพึ่งพายานพาหนะตลอดเวลา ทำให้คนยิ่งขาดโอกาศในการออกกำลังกายน้อยมาก ร่างกายจึงขาดออกซิเจนขณะอยู่ภายในรถ เลือดหมุนเวียนช้าลง ทำให้ร่างกายมีปริมาณของเลือกตกค้างอยู่มาก ทำให้อวัยวะต่างๆ เสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว
ท่านเคยเฉลียวใจหรือไม่เวลาพูดโทรศัพท์นานๆ มือจะชา หรือเมื่อเราใช้คอมพิวเตอร์นานๆ จะวิงเวียนศรีษะ มีอาการตาลาย หรือเวลาเราดูโทรทัศน์นานๆ จะรู้สึกปวดกระบอกตา สังเกตุเวลาได้ยินเสียงรุนแรงจะรู้สึกตกใจ หัวใจจะเต้นเร็วผิดปกติ
ทั้งหมดนี้มีผลทำให้โลหิตหมุนเวียนช้าลง เหมือนเกิดภาวะของการสูญเสียเม็ดเลือด หากเกิดภาวะดังกล่าวนานๆ บ่อยๆ ก็จะเกิดตะกอนของเซลล์ที่ตายแล้วร่างกายจะพัฒนากลายเป็นแผลเป็นต่อมมะเร็ง จะรู้สึกอ่อนเพลียง่าย ผิวพรรณคล้ำกร้าน ท้องอืดบ่อยๆ ขบวนการเผาผลาญอาหารมาเป็นพลังงานในการสร้างเซลล์ใหม่ และกำจัดของเสียไม่ทัน จึงเกิดการสะสมเซลล์ตาย ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการและโรคต่างๆ ดังได้กล่าวมาแล้ว
นี่คือข้อเท็จจริงที่ได้รวบรวมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับร่างกายของคนเราตามที่ทราบกันอยู่ทั่วไป แต่จะอย่างไรก็ตามร่างกายของคนเรา “ย่อมมีวิธีฟื้นฟูและบำบัดต่อเราเองได้อย่างวิเศษสุด” เพียงแต่เจ้าของร่างกายควรจะหาวิธีการบำบัดอย่างน้อย ๓ ประการด้วยกันอันได้แก่
๑. ควบคุมการรับประทานอาหาร
๒. อยู่ในสถานที่ที่มีอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ดี
๓. ควบคุมอารมณ์ให้ได้ รวมถึงการนอนไม่ควรนอนเกิน ๓ ทุ่ม และขับถ่ายให้ได้ทุกวัน
สุดท้ายเราจะรักษา “กายและจิตใจ” ของเราได้แค่ไหน เชื่อเมื่อรู้สึกเครียด โกรธ โมโห หงุดหงิด เร่งรีบ กลัว มีความโลภเกิดขึ้นในจิตใจ ถ้าควบคุมไม่ได้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในร่างกายก็คือจะเกิดภาวะความเป็นกรดสูงในกระแสเลือด เลือดจะข้นขึ้น ความดันเลือดจะสูง
ผู้เขียนเคยเผชิญปัญหาเหล่านี้แต่พยายามแก้อย่างมีสติ ทุกท่านก็เช่นกัน หากไม่ประมาทป้องกันอย่างถูกวิธีและเหมาะสม ต้องได้พบความสว่างอย่างแน่นอน
ขอให้มองโลกในแง่ดีชีวิตจะยืนยาว
ขอบคุณบทความดี ๆ จาก Add Free Magazine