เนื้อหาวันที่ : 2011-04-29 10:03:22 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1924 views

ตลาดคอนโดฯ กรุงเทพฯ ร้อนเชื่อไม่นานจะยั่งยืน

ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพลดความร้อนแรงลงในไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 โครงการใหม่เปิดตัวลดลงถึง 46% หลังเกิดความโกลาหลในตลาดคอนโดฯ เชื่ออีกไม่นานจะเป็นไปในทิศทางที่ยั่งยืน

          ตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพลดความร้อนแรงลงในไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 โครงการใหม่เปิดตัวลดลงถึง 46% หลังเกิดความโกลาหลในตลาดคอนโดฯ เชื่ออีกไม่นานจะเป็นไปในทิศทางที่ยั่งยืน

          ความวิตกกังวลว่าอุปทานในตลาดคอนโดมิเนียมจะร้อนแรงเกินไปในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ได้ลดทอนลงในไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 เมื่อรายงานตลาดคอนโดมิเนียมของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย (Colliers International Thailand) เผยให้เห็นว่าการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงประมาณ 46% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา

          คอนโดมิเนียมประมาณ 10,800 ยูนิตเปิดตัวไปในไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 ยังไม่รวมจำนวนห้องอีกเล็กน้อยที่เปิดตัวในแถบชานเมืองกรุงเทพ ช่วงหกเดือนก่อนไตรมาสที่ 1 เป็นช่วงเวลาแห่งความโกลาหลในตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพ นายแอนโทนี พิคอน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของคอลลิเออร์สฯเชื่อว่า เป็นเพียงปรากฎการณ์ชั่วคราวไม่ใช่แนวโน้มต่อเนื่อง

"โครงการที่เปิดตัวไปหลายโครงการเจาะกลุ่มตลาดผู้ซื้อที่อยู่อาศัยเป็นครั้งแรกด้วยห้องขนาดเล็กและราคาย่อมเยา ซึ่งได้ผลตอบรับดีพอๆ กับการเปิดขายผลิตภัณฑ์ใหม่ยอดนิยมเป็นครั้งแรก เช่น ไอแพด" นายแอนโทนีให้ความเห็น "พอผ่านไปสักระยะ สถานการณ์ก็จะสงบลงและเป็นไปในทิศทางที่ยั่งยืนมากขึ้น นั่นแหละคือสิ่งที่เราเห็นเกิดขึ้นกับตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน" นายแอนโทนีเสริม

          นายปฏิมา จีระแพทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทคอลลิเออร์สฯ ชี้ว่าการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาตรการอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน และขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง เพื่อชะลอความร้อนแรงในตลาดคอนโดมิเนียม "สื่อมวลชนค่อนข้างให้ความสนใจกับการเปิดตัวโครงการจำนวนมากในช่วงปลายปีที่ผ่านมาทำให้มีการเตรียมการอย่างรอบคอบเพื่อให้ตลาดเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งแทนที่จะรีบโตจนถึงจุดหยุดชะงักโดยสิ้นเชิง ซึ่งการเตรียมการเช่นนี้ย่อมเป็นผลดีต่อตลาดในระยะยาว" นายปฏิมาชี้แจง

          ราคาที่ดีและต้นทุนในการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นสร้างแรงกดดันด้านการกำหนดราคา นอกจากนั้นยังเป็นเรื่องยากที่บริษัทผู้พัฒนาโครงการจะส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นให้ผู้ซื้อเป็นผู้รับภาระ นายแอนโทนี่กล่าวว่า "ขนาดห้องลดลงไปได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น อีกทั้งยังเริ่มมีการพูดคุยถึงมาตรการในการจำกัดการลดขนาด ดังนั้นการขึ้นราคาในอนาคตจะทำได้ก็ต่อเมื่อเศรษฐกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งจนประชาชนมีรายได้มากขึ้นเท่านั้น"
 
           จำนวนโครงการใหม่ที่เปิดตัวในไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 ลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมาประมาณ 46% โดยในไตรมาสที่ 1 มีการเปิดตัวเพียง 10,800 ยูนิตเท่านั้นเมื่อเทียบกับเกือบๆ 20,000 ยูนิตในไตรมาสที่ 4 ของปี 2553
 
           ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 พื้นที่กรุงเทพชั้นนอกมีจำนวนยูนิตเปิดตัวสูงกว่าในตัวเมืองกรุงเทพ หลายโครงการในกรุงเทพชั้นนอกมีจำนวนห้องสูงกว่า 600 ยูนิต

          ในพื้นที่รอบเมืองกรุงเทพ พื้นที่บริเวณด้านทิศเหนือและด้านทิศใต้มีจำนวนยูนิตใหม่เปิดตัวสูงสุด แต่ละพื้นที่เปิดตัวประมาณ 1,600 ยูนิตหรือ 15% จากทั้งหมด

          อุปทานใหม่
          ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 มีคอนโดมิเนียมใหม่ที่สร้างเสร็จและจดทะเบียนกับกรมที่ดิน ประมาณ 3,500 ยูนิต ส่วนจำนวนคอนโดมิเนียมทั่วกรุงเทพมีอยู่รวม 300,000 ยูนิต และคาดว่ากว่า 39,500 ยูนิตจะแล้วเสร็จภายในปี 2554 จำนวนคอนโดมิเนียมที่อยู่ในระหว่างก่อสร้างและมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2554 นับว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลกในปี 2540 เป็นต้นมา
 
          ราคาขายโดยเฉลี่ยสำหรับพื้นที่เมืองชั้นในนั้นสูงสุดอยู่ที่ 95,000 บาทต่อตารางเมตร แม้กระนั้นก็ยังต่ำกว่าราคาขายเฉลี่ยของปี 2553 อยู่เกือบ 13% เพราะในไตรมาสที่ 1 ของปี 2554 มีโครงการระดับบนเปิดตัวน้อยกว่า