เนื้อหาวันที่ : 2011-04-27 09:44:58 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 920 views

ดั๊บเบิ้ล เอ เพาเวอร์ โชว์ผลประกอบการแข็งแกร่ง

          เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย (เอ็นพีเอส) ในกลุ่มดั๊บเบิ้ล เอ เพาเวอร์ โชว์ตัวเลขผลประกอบการแข็งแกร่ง ปี 2553 มีรายได้ 7,680 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26 % จากรายได้ 6,064 ล้านบาท ในปี 2552 จากการรับรู้ผลประกอบการของกิจการโรงไฟฟ้า 3 โรง ที่ซื้อเข้ามาอยู่ในกลุ่ม มีกำไรสุทธิปี 2553 จำนวน 1,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% จากกำไรสุทธิ 790 ล้านบาทในปี 2552

          นายอภิชัย ซอปิติพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย มีผลประกอบการแข็งแกร่ง รายได้รวมปี 2553 สูงถึง 7,680 ล้านบาท เพิ่มจาก 6,064 ล้านบาท ในปี 2552 หรือเพิ่มขึ้น 26% และมีผลกำไรสุทธิ 1,229 ล้าน บาทในปี 2553 เพิ่มจาก 789 ล้านบาท ในปี 2552 หรือเพิ่มขึ้น 55 %

ทั้งนี้การเติบโตของรายได้จากการขายไฟฟ้าและไอน้ำนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่กลุ่มบริษัทฯ ได้ซื้อกิจการโรงไฟฟ้า 3 โรง เข้ามาอยู่ในกลุ่ม เพื่อนำมาบริหารจัดการโดยบริษัทย่อย ทำให้บริษัทฯรับรู้รายได้จากการ ขายไฟฟ้าและไอน้ำของกิจการโรงไฟฟ้าดังกล่าวเข้ามาเพิ่มเติมอย่างมีนัยสำคัญในปี 2553

          “ปัจจุบันกลุ่มเอ็นพีเอส มีโรงไฟฟ้าทั้งหมด 5 โรง กำลังการผลิตติดตั้งรวม 435.2 เมกะวัตต์ โดยส่งจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นหลัก ภายใต้สัญญาการรับซื้อไฟฟ้าระยะยาว 25 ปี และในเขตอุตสาหกรรม 304 อินดัสเตรียล ปาร์ค จังหวัดปราจีนบุรี และจำหน่ายไอน้ำให้กับดั๊บเบิ้ล เอ เพื่อใช้ในการผลิตเยื่อและกระดาษ

ทำให้เอ็นพีเอส มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง เป็นธุรกิจพลังงานที่มีกำไรต่อเนื่องมาโดยตลอด เชื่อมั่นว่าปี 2554 จะเป็นปีที่ดีอีกปีของกลุ่ม โดยช่วงปลายปีหม้อไอน้ำของโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ จะเริ่มจ่ายไอน้ำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ของกลุ่มให้สูงขึ้น” นายอภิชัยกล่าว

          โดยเอ็นพีเอสมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งการผลิต และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าและไอน้ำ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตกระแสไฟฟ้า ทั้งยังมีนโยบายขยายการลงทุนในโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในด้านพลังงานทดแทน การบริหารจัดการเชื้อเพลิง และการส่งเสริมปลูกต้นพลังงานเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยบริษัทมุ่งเน้นที่จะเป็นผู้นำในการผลิตไฟฟ้าโดยใช้เชื้อเพลิงชีวมวลแบบผสมผสาน และวัสดุเหลือใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

          เอ็นพีเอสได้วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าอีกจำนวน 800 เมกะวัตต์ จากการการประมูลโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระขนาดใหญ่ (IPP) โรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าบิทูมินัสผสมชีวมวล ทั้งยังมีแผนผลิตพลังงานทดแทนในรูปแบบอื่น ได้แก่เอทานอล โดยใช้วัตถุดิบจากมันสำปะหลังของเกษตรกรในพื้นที่รอบโรงงานและใกล้เคียง โดยมีกำลังการผลิตเอทานอลอยู่ที่ 500,000 ลิตรต่อวัน

เป็นการลดการนำเข้าและพึ่งพาเชื้อเพลิงปิโตรเลียมจากต่างประเทศ ในสภาวะที่โลกประสบกับการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงและราคาเชื้อเพลิงสูงขึ้น และที่สำคัญเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังก็ได้รับผลประโยชน์จากรายได้การขายวัตถุดิบเพื่อผลิตเอทานอลให้กับดั๊บเบิ้ล เอ เอทานอลอีกด้วย