เนื้อหาวันที่ : 2011-04-07 11:41:55 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1960 views

พลัส รุกเตรียมทีม พร้อมรับมือแผ่นดินไหว

พลัส มั่นใจ พร้อมรับมือสถานการณ์แผ่นดินไหว เตรียมความพร้อมทีม รุกให้ความรู้ทั้งผู้ประกอบการและผู้อยู่อาศัย พร้อมแนะวิธีปรับปรุงศักยภาพสิ่งปลูกสร้างทั้ง กทม. หัวหิน และพัทยา

นายชาญ ศิริรัตน์
รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและฝ่ายวิศวกรรม
บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

พลัส มั่นใจ พร้อมรับมือสถานการณ์แผ่นดินไหว เตรียมความพร้อมทีม รุกให้ความรู้ทั้งผู้ประกอบการและผู้อยู่อาศัย พร้อมแนะวิธีปรับปรุงศักยภาพสิ่งปลูกสร้างทั้ง กทม. หัวหิน และพัทยา

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ มั่นใจพร้อมรับมืออาคารสูงทั้งประเภทสำนักงานและคอนโดมิเนียมในกทม. หัวหินและพัทยา หากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ระบุมีการเตรียมความพร้อมทีมงานมืออาชีพรุกให้ความรู้เตรียมรับมือเหตุฉุกเฉินแก่ผู้ประกอบการ และผู้อาศัยอยู่ในอาคารสูงทั้งอาคารพาณิชย์ และอาคารที่อยู่อาศัย

เชื่อแผ่นดินไหวกระทบอาคารสูงใน กทม.และพื้นที่ใกล้เคียงเล็กน้อย รวมทั้งพ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2550 บังคับให้ตึกสูงรับมือแผ่นดินไหวได้ถึง 6 ริกเตอร์อยู่เดิมแล้ว ล่าสุดเดินหน้าแนะนำเจ้าของตึกปรับปรุงอาคารเพื่อรับแรงสั่นสะเทือนได้มากขึ้น

นายชาญ ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและฝ่ายวิศวกรรม บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า แม้เหตุแผ่นดินไหวในพม่าหรือบริเวณอื่นๆ ตามบริเวณรอยเลื่อนของเปลือกโลก จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างอาคารที่ปลูกสร้างใหม่ เพราะมีการออกแบบรองรับการสั่นไหวที่ระดับโซน 4

ทั้งนี้ รัฐบาลยังได้กำหนดไว้ในกฎกระทรวงกำหนดรับน้ำหนัก ความต้านทาน ความคงทนของอาคารและพื้นดินที่รองรับอาคารในการต้านทานแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว 2550 ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร 2522 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.2550 ให้สามารถรองรับแผ่นดินไหวที่มีความแรงมากกว่า 6 ริกเตอร์ขึ้นไป

นอกจากนั้น ชนิดของดินในเขต กทม. เป็นดินอ่อนมาก ที่อาจจะทำให้ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในระยะไกลได้ เช่น อาจจะทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในตึกสูงในกรุงเทพฯ รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนบ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ดินชนิดนี้ไม่ใช่ดินประเภทเดียวกับประเทศญี่ปุ่นจึงมีความยืดหยุ่นและสามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ในระดับดีกว่า

“จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น พลัส พร็อพเพอร์ตี้มิได้นิ่งนอนใจ รวมทั้งยังคงเดินหน้าจัดเตรียมทีมงานมืออาชีพเฉพาะกิจเข้าหารือกับเจ้าของอาคารเพื่อเสนอแนะถึงวิธีการเสริมความแข็งแกร่งของอาคารให้สามารถรับมือกับเหตุแผ่นดินไหวได้มากขึ้น เช่น

การเพิ่มระดับความต้านทานแผ่นดินไหวของอาคารที่ต่างประเทศนิยมแก้ปัญหาด้วยการพอกเสาให้ใหญ่และดามด้วยเหล็ก หรือการเสริมด้วยกำแพงคอนกรีต รวมทั้งการเสริมแผ่นโพลีเมอร์เสริมเส้นใยคาร์บอนที่จะทำให้เสาอาคารสูงสามารถโยกตัวรับแผ่นดินไหวได้เพิ่มขึ้นประมาณ 3 – 4 เท่า

นอกจากนั้น พนักงานของ พลัส ในฝ่ายธุรกิจบริหารจัดการทรัพยากรอาคาร ยังมีการซักซ้อมแผนปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวโดยสม่ำเสมอ เตรียมพรัอมรับเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในอาคารสำนักงานและอาคารเพื่อการศึกษาที่ พลัส ดูแลอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาคารสำนักงานที่พลัส ดูแลอยู่ในปัจจุบันมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 35 อาคาร” นายชาญ ศิริรัตน์ กล่าว

นางสาวพรรณวดี โพธิหน่อทอง ผู่ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในแง่ของการให้ความรู้แก่ผู้อยู่อาศัยในโครงการคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าต่างๆ นั้น พลัส ได้จัดเตรียมพนักงานกว่า 700 คนในธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ความรู้ถึงวิธีปฏิบัติเมื่อเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิเพิ่มเติมในโครงการที่มีความเสี่ยงด้วย

โดยปัจจุบันอาคารสูงประเภทคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ที่ พลัส ดูแลอยู่ มีทั้งหมด 126 โครงการ แบ่งเป็นโครงการของบริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) จำนวน 84 โครงการ และโครงการของบริษัทอื่นๆ อีกประมาณ 42 โครงการ โดยคอนโดมิเนียมที่ พลัส ดูแลอยู่ในปัจจุบันส่วนใหญ่มีการออกแบบโครงสร้างอาคารเพื่อต้านแผ่นดินไหวไว้แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้อยู่อาศัย พลัส ได้เริ่มสอดแทรกความรู้เรื่องการอพยพหนีภัยฉุกเฉินต่างๆ เช่น การหนีไฟ, แผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิ เข้าไว้ในการซ้อมหนีไฟ ตลอดจน ยังมีการติดโปสเตอร์แนะนำวิธีรับมือแผ่นดินไหวในบอร์ดประชาสัมพันธ์ของทุกโครงการที่พลัสดูแลอยู่อีกด้วย เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การซักซ้อมที่ดีช่วยลดการสูญเสียลงได้