เนื้อหาวันที่ : 2011-03-08 10:19:20 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 861 views

KIAT ลั่นพร้อมลุยงานขนส่งต่างแดนหลังปี 53 ทำผลงานเด่น

นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์
กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน)

KIAT ลั่นปีนี้เพิ่มน้ำหนักลุยงานขนส่งต่างแดน หลังปี 53 กำไรพุ่ง 41.43% สั่งปันผลเพิ่มอีก 0.35บ./หุ้น

KIAT เดินหน้าขยายธุรกิจขนส่งสินค้าอุตสาหกรรม หวังเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และขยับฐานรายได้เพิ่มจากปัจจุบัน พร้อมขยายไลน์ให้บริการงาน LOGISTICSเพิ่ม หลังพบอนาคตสดปิ๊งพร้อมโชว์ผลงานปี 53 สุดประทับใจ กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 194.38 ลบ. จาก 137.43 ลบ. ในปี 52 ด้านบอร์ดสั่งปันผลงวดครึ่งปีหลังให้อีก 0.35 บ./หุ้น รวมจ่ายทั้งปี 0.60 บ./หุ้น

นายเกียรติชัย มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งเคมีภัณฑ์ และเชื้อเพลิงพลังงาน เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจขนส่งในปีนี้ ยังเติบโตในทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ มีแผนจะขนส่งสินค้าไปยังประเทศแถบเพื่อนบ้านมากขึ้น โดย เฉพาะประเทศลาวที่เป็นตลาดสำคัญ

ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังศึกษาตลาดขนส่งสินค้าอุตสาหกรรมในประเทศgเพื่อนบ้าน ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทางการตลาดไปศึกษาข้อมูล และหากได้รับการตอบรับที่ดี มีลูกค้าสนใจเข้ามาใช้บริการ สัดส่วนการรับงานในต่างประเทศของบริษัทฯ น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จากปัจจุบันที่รายได้จากต่างประเทศคิดเป็น 5% ของรายได้รวม และจะผลักดันรายได้ของบริษัทฯ ให้เติบโตในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นกัน

“ธุรกิจขนส่งสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจขนส่งสารเคมีทั้งในและต่างประเทศถือว่ายังดี พร้อมกันนี้บริษัทฯ มีแผนขยายไลน์ให้บริการขนส่งสินค้าประเภทอื่นๆ ให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ และสร้างรายได้ในอนาคต รวมถึงการบริหารคลังสินค้าครบวงจร และจากการมุ่งขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าในปี 2554 บริษัทฯ จะสามารถผลักดันรายได้ให้เติบโตได้ในอัตรา 5 – 10% จากปีที่ผ่านมา”

นายเกียรติชัย กล่าวถึงผลประกอบการงวดประจำปี 2553 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ว่าบริษัทฯ มีรายได้รว ม877.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2552 ที่มีรายได้ 593.27 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น284.07ล้านบาท หรือร้อยละ47.88 ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีกำไรสุทธิหลังหักษี 194.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิหลังหักภาษี 137.43 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 56.95ล้านบาท หรือร้อยละ 41.43 ส่วนกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 0.82 บาทในปี 2552 มาเป็น 0.97 บาทในปี 2553

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2554 เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติให้จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นงวดครึ่งหลังปี 2553 (1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2553) อัตราหุ้นละ 0.35บาท เมื่อรวมกับการจ่ายปันผลงวดระหว่างกาล (1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2553) ที่อัตราหุ้นละ 0.25 บาท ทำให้ทั้งปี 2553 บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท โดยการจ่ายเงินปันผลงวดใหม่ กำหนดให้จ่ายในวันที่ 29 เมษายน 2554 ซึ่งบริษัทฯ เสนอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 20 เมษายน 2554.